กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--กระทรวงพาณิชย์
"รมว.สุวพันธุ์ ชี้ประเด็น กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) ได้แรงหนุนด้านองค์ความรู้จาก กระทรวงพาณิชย์ เชื่อเป็นกลไกสำคัญปั้นร้านค้าประชารัฐสู่ ร้าน "ประชารัฐไฮบริด" ด้าน รมว.สนธิรัตน์ เชื่อเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานที่จะเชื่อมโยงและถ่ายทอดองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดการพัฒนา และความสามารถในการแข่งขันแก่ร้านค้าประชารัฐทั่วประเทศ สอดคล้องกับ ผอ.สทบ. ที่ว่าแนวทางของ กทบ. ต้องเพิ่มช่องทาง สร้างโอกาสให้ 20,000 ร้านค้าประชารัฐทั่วประเทศได้มองเห็นอนาคต ได้สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ สร้างรายได้ที่มั่นคงต่อไป"
ฯพณฯ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ฯพณฯ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติร่วมเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (พค.) เพื่อที่จะประสานส่งผ่านองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญของ พค. ในการยกระดับร้านค้าประชารัฐทั่วประเทศได้ก้าวไปสู่ร้านประชารัฐไฮบริด ในอนาคตอันใกล้ จากนั้นจึงได้ร่วมกันทำพิธีเปิดงาน "สร้างเศรษฐกิจชุมชน รวมพลคนฐานราก" ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ด้วยการสนับสนุนของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 มกราคม 2561 บริเวณชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองหน่วยงาน ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานอย่างคับคั่ง
โดย ฯพณฯ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า งาน "สร้างเศรษฐกิจชุมชน รวมพลคนฐานราก" ที่จัดขึ้นนี้เป็นความร่วมมือภายใต้ความมุ่งหวังเดียวกันคือการผลักดันและกระตุ้นให้ร้านค้าประชารัฐภายใต้การกำกับดูแลของ สทบ. กว่า 20,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการสร้างตลาดและรายได้ที่มั่นคงแก่ชุมชนต่อไป
สอดคล้องกับ ฯพณฯ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ว่า การนำร้านค้าประชารัฐมาร่วมออกร้านภายในงาน เป็นการสร้างโอกาสการเรียนรู้ ส่งเสริมและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการร้านค้าประชารัฐแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ทั้งจากเหล่าวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญผ่าน คลินิกธุรกิจ หรือสร้างช่องทางในการจำหน่ายสินค้าจากการจับคู่ธุรกิจ หรือเวทีเสวนาเพื่อการพัฒนาสินค้า ช่องทางการตลาด บรรจุภัณฑ์ และการตลาดออนไลน์เป็นต้น
ด้าน ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ รศ.นที ขลิบทอง เปิดเผยว่า สิ่งที่ สทบ. มุ่งเน้นเป็นภารกิจหลักคือการแสวงหากลไกต่างๆ เพื่อที่จะให้ร้านค้าประชารัฐทั่วประเทศได้มีอนาคตที่มั่นคง มีรายได้ที่มั่งคั่ง ยั่งยืนโดยการสามารถเลี้ยงตนเองได้ อันเป็นที่มาของการลงนามความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในวันนี้
"การคัดเลือกร้านค้าประชารัฐที่มาออกร้านในวันนี้ จะได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงการพัฒนาวิสาหกิจของตนเอง ไม่ว่าจะมีเป้าหมายของการเป็นกลุ่มผู้ประกอบการสินค้า OTOP ผู้ประกอบการ SMEs หรือก้าวไปสู่การขาย Franchise ในอนาคต ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น การได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนวิธีคิดและแนวทางกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงการพบปะกับผู้ซื้อที่เป็น Modern trade ก็จะสามารถเรียนรู้วิธีคิด และผลิตสินค้าได้ตรงกับความต้องการของตลาดอีกด้วย นอกจากนั้นยังรวมไปถึงการก้าวขึ้นไปสู่การเป็นร้านค้าประชารัฐไฮบริด ที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเช่น POS เข้ามาใช้ภายในร้าน หรือมีเครื่อง EDC เพื่อให้บริการผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้เข้าสู่ร้านค้าของชุมชนให้สามารถยืนได้ด้วยตนเองต่อไป" ผู้อำนวยการ สทบ. กล่าว
ส่วน นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้สนับสนุนแนวทางของ กทบ. โดยการจัดจำลองร้านค้าประชารัฐไฮบริดที่เป็นต้นแบบมาจัดแสดงภายในบริเวณงานด้วย รวมถึงระบุว่าหนึ่งในพันธกิจหลักของ พค. นั่นก็คือ การพัฒนาธุรกิจไทยให้เข้มแข็งแข่งขันได้ ซึ่งเชื่อว่าการจัดงาน "สร้างเศรษฐกิจชุมชน รวมพลคนฐานราก" ร่วมกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจ สร้างไอเดียใหม่ๆ รวมทั้งโอกาสด้านการพัฒนาและยกระดับตนเองเพื่อการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจ 4.0 ได้ต่อไป