กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--อินโดรามา เวนเจอร์ส
ขยายความสามารถที่เกื้อหนุนกันระหว่างบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์สและ Huvis เพื่อส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าและเร่งการเติบโตที่ให้ผลกำไร
เกื้อหนุนความเป็นผู้นำตลาดในฐานะหนึ่งในผู้นำตลาดเส้นใยที่มีค่าหลอมเหลวต่ำ (Low Melting Fiber) ในสหรัฐอเมริกาที่มีการปรับลดอัตราภาษี
เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ของทั้งสองบริษัทและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมหลัก พร้อมสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งรองรับการเติบโตในอนาคต
ก่อให้เกิดการเกื้อหนุนและประโยชน์ด้านการประหยัดต้นทุนอย่างมาก
คาดว่า การร่วมทุนนี้จะเริ่มจัดตั้งในปี 2561 และเริ่มดำเนินงานในปี 2562
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกและบริษัท Huvis Corporation (HC) ประเทศเกาหลีใต้ ประกาศเจตนารมณ์ที่จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 50:50 เพื่อพัฒนา ก่อสร้างและดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตเส้นใยที่มีค่าหลอมเหลวต่ำ (Low Melting Fiber หรือ LMF) ในประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับที่ตั้งของโรงงานแห่งนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาและคาดว่า บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะเริ่มจัดตั้งในปี 2561 และเริ่มดำเนินงานในปี 2562 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงและการขออนุมัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะผลิตเส้นใย LMF มีกำลังการผลิต 60,000 ตันต่อปี เส้นใย LMF นิยมนำมาใช้เป็นเส้นใยที่ช่วยยึดติดหรือเชื่อมเส้นใยเข้าด้วยกันในรูปแบบ core-sheath เพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) สำหรับยานยนต์ วัสดุคอมโพสิตที่ใช้ในอุตสาหกรรม อาทิ วัสดุสำหรับบุด้านใน ฉนวนกันความร้อน ไส้กรอง ฉนวนกันเสียงในยานยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ใช้ความร้อนเป็นตัวเชื่อมเส้นใย ปริมาณเส้นใย LMF ที่ผลิตได้ในช่วงแรกจะถูกจัดจำหน่ายภายในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการปรับลดอัตราภาษีอากร และคาดว่าในอนาคตจะมีการขยายพื้นที่จัดจำหน่ายเพิ่มเติมไปยังภูมิภาคใกล้เคียง ยอดขายเส้นใย LMF มีการเติบโตในอัตราร้อยละ 8 ต่อปี โดยมีปัจจัยมาจากการที่ผู้ผลิตในตลาดมีการเปลี่ยนวิธีการเชื่อมเส้นใยจากเดิมที่ใช้การยึดติดด้วยเคมีเปลี่ยนเป็นการเชื่อมยึดด้วยความร้อนแทน
เจตนารมณ์ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้ มาจากความสำเร็จของอินโดรามา เวนเจอร์สในการดำเนินกลยุทธ์การบูรณาการไปยังวัตถุดิบหลักและความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) โดยคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีการผลิตที่ดีที่สุดและฐานลูกค้าในภูมิภาคของบริษัท Huvis ประกอบกับความสามารถในการบริหารงานทั่วโลก รวมทั้งตำแหน่งด้านต้นทุนและการผลิตที่แข็งแกร่งของอินโดรามา เวนเจอร์ส ซึ่งส่งผลให้ทั้งสองบริษัทสามารถนำเสนอคุณค่าที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าผ่านขนาดและความสามารถในการให้บริการ จากการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทดังกล่าว ลูกค้าจึงมั่นใจได้ถึงความมั่นคงในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ดีเยี่ยม
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "เรารู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับบริษัท Huvis และพัฒนาความสัมพันธ์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในอนาคต ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นยุทธ์ศาสตร์สำหรับทั้งอินโดรามา เวนเจอร์สและ Huvis เพื่อพัฒนาความเป็นผู้นำในภูมิภาคและวางตำแหน่งที่ดีเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตอย่างมากภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสพิเศษสำหรับทั้งสองบริษัทที่จะส่งมอบคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างให้แก่ลูกค้า ตลอดจนนำเสนอโซลูชั่นด้านเส้นใยและคอมโพสิตใหม่ๆ ที่น่าสนใจออกสู่ตลาด"
นาย Shin, You Dong ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Huvis กล่าว "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับอินโดรามา เวนเจอร์ส เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มเติมในอเมริกาเหนือ ซึ่งถือเป็นตลาดหลักสำหรับธุรกิจเส้นใย LMF ในฐานะหนึ่งในผู้นำตลาดเส้นใย LMF เรามีการดำเนินงานตามกลยุทธ์การปรับผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับบริบทของท้องถิ่น เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลักได้ดียิ่งขึ้นบนพื้นฐานของประสิทธาพและความได้เปรียบด้านต้นทุน เราจะยังคงร่วมมืออย่างต่อเนื่องและขยายความสัมพันธ์กับอินโดรามา เวนเจอร์ส เพื่อมองหาโอกาสเกื้อหนุนอื่นๆเพิ่มเติม รวมทั้งมองหาตลาดเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่น่าสนใจและมีแนวโน้มในการเติบโตเพิ่มเติมในอนาคต"