กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--โออิชิ กรุ๊ป
โออิชิ ย้ำความสำเร็จปี 2560 กำไรเติบโตครองส่วนแบ่งตลาดชาพร้อมดื่มอันดับหนึ่งทิ้งห่างคู่แข่ง ปักหมุดปี 2561 เดินหน้ารักษาตำแหน่งผู้นำทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องดื่มและปรับภาพลักษณ์แบรนด์อาหารให้โดนใจ มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
กำไรโตแกร่ง
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ในปี 2560 สภาพโดยรวมเศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่สูงนัก ประกอบกับการบริโภคนอกบ้านยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลต่อสภาพตลาดโดยรวม แต่โออิชิกรุ๊ปสามารถรักษายอดขายได้ในระดับทรงตัว และสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างดีเยี่ยมในปีที่ผ่านมา กล่าวคือ ยอดขายในปี 2560 (1 ต.ค. 2559 – 30 ก.ย. 2560) มีรายได้จากการขายรวมทั้งสิ้น 13,551 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ 0.6% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 6,497 ล้านบาท เติบโตทรงตัวจากปีที่ผ่านมา (-0.8%) ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มมีรายได้ 7,054 ล้านบาท เติบโตทรงตัวจากปีที่ผ่านมาเช่นกัน (-0.4%) ขณะที่กำไรสุทธิรวมเติบโตขึ้นทั้งสองธุรกิจ บริษัทได้ผลกำไรสุทธิรวม 1,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.5% จากปีก่อน แบ่งเป็น ผลกำไรสุทธิจากธุรกิจอาหาร 210 ล้านบาท เติบโต 76.5% เนื่องจากการปรับกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกและการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มมีกำไรสุทธิ 1,233 ล้านบาท เติบโต 22.8% จากการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น และการจัดแคมเปญโปรโมชั่นที่โดนใจผู้บริโภค บวกกับการบริหารกำลังการผลิต และการบริหารงบประมาณการตลาดที่มีประสิทธิภาพ"
"สำหรับเป้าหมายในปีงบประมาณ 2561 บริษัทมุ่งเน้นรักษาความเป็นผู้นำทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง โดยมีแผนกลยุทธ์หลักสี่ข้อ ดังนี้ (1) Customer Centric (การเข้าถึงผู้บริโภค) มุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ผู้บริโภคต้องการ (2) Innovation (นวัตกรรม) สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมการตลาดที่โดดเด่น แปลกใหม่ แตกต่าง และสร้างคุณค่าแก่ผู้บริโภค (3) Digital Transformation (การใช้ดิจิตอลขับเคลื่อนธุรกิจ) โดยใช้เครื่องมือดิจิตอลต่างๆ เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจ และเข้าถึงผู้บริโภค ได้หลากหลายยิ่งขึ้น (4) Continue to Build & Support Brand (สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง) พัฒนาแบรนด์ ให้ทรงพลัง และติดตรึงใจผู้บริโภค จนปัจจุบันโออิชิได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ส่งผลให้ ได้รับรางวัล การันตีความเป็นแบรนด์ยอดเยี่ยมต่างๆ อาทิ รางวัล Superbrands Thailand Award สองปีซ้อนในฐานะแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นรู้จักและครองใจผู้บริโภค, รางวัล Thailand's Most Admired Brand สามปีซ้อนจากการเป็นแบรนด์ที่ครองความน่าเชื่อถืออันดับหนึ่งในหมวดชาพร้อมดื่ม และรางวัล The Most Powerful Brands of Thailand ในฐานะ แบรนด์ที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่สุดในกลุ่มสินค้าชาเขียวพร้อมดื่ม เป็นต้น
ทั้งนี้ การจะขับเคลื่อนกลยุทธ์ทั้งสี่ให้บรรลุเป้าหมาย ต้องบริหารงานโดยยึดหลัก Efficiency และ Excellency คือ มุ่งเน้นดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความเป็นเลิศในการดำเนินงาน เพื่อเตรียมพร้อมเดินไปข้างหน้า และพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์"
"นอกจากนี้ โออิชิในฐานะองค์กรธรรมาภิบาล ยังมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจภายใต้ความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) โดยให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ในบ้าน กล่าวคือทุกกระบวนการการผลิตของโออิชิเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งการประหยัดพลังงาน รวมไปถึงการบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีแก่ชุมชน ตลอดจนการคืนกำไรให้แก่สังคมโออิชิมีโครงการเพื่อสังคมหลากหลายรูปแบบ อาทิ โครงการ "ให้" ซึ่งเป็นการให้การสนับสนุนและช่วยเหลือสังคมด้านต่างๆ อาทิ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอย่างเร่งด่วน, ส่งเสริมด้านคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส นอกจากนี้ยังมี โครงการ "อิ่มจัง" เป็นการแบ่งปันอาหารและเครื่องดื่มโออิชิให้แก่ผู้ด้อยโอกาส พร้อมจัดกิจกรรมสันทนาการที่สนุกและสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดปลูกฝังคุณธรรมโดยเฉพาะเรื่อง 'ความซื่อสัตย์' ซึ่งเป็นค่านิยมหลักขององค์กร สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะสะท้อนและเชื่อมโยงกลับมาสู่โออิชิในฐานะบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่มีธรรมาภิบาลและคืนกำไรให้สังคม"นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กล่าวเสริม
ธุรกิจอาหาร กำไรพุ่ง เดินหน้าสร้างการเติบโต ทั้ง Functional และ Emotional
สำหรับธุรกิจอาหาร กลุ่มร้านอาหาร (Restaurant) นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "จากการเดินหน้ายุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจที่ให้ความสำคัญต่อการปรับภาพลักษณ์สินค้าและบริการแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจอาหารโออิชิมีผลกำไรเติบโตดีขึ้น ดังนั้นในปีนี้เราจึงเดินหน้าสร้างการเติบโตผ่าน 4 กลยุทธ์หลักอันสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร ได้แก่ (1) Store Expansion มุ่งขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกไลฟ์สไตล์ (2) New Brand Concept เปิดแบรนด์ร้านอาหารรูปแบบใหม่ๆ พร้อมมุ่งปรับปรุงภาพลักษณ์ และยกระดับสินค้า-บริการ รวมทั้งตราสินค้าต่างๆ ให้ทันสมัยขึ้น (3) New Innovation พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นและระบบการให้บริการต่างๆ ให้ทันสมัยขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป (4) Sustainable Quality ตอกย้ำคุณภาพสินค้าและบริการ โดยนำ "ระบบประกันคุณภาพ" มาตรฐาน GMP – HACCP – ISO 9001:2015 มาใช้ในการดำเนินงานของร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือโออิชิทุกสาขา ทั้งในเรื่องความอร่อย คุณภาพ และมาตรฐานอาหารปลอดภัย ซึ่งโออิชิเป็นร้านอาหารรายแรกของประเทศไทยและภูมิภาคทวีปเอเชียที่ผ่านการรับรองระบบประกันคุณภาพดังกล่าวครบทุกสาขา จากบริษัทเอสจีเอส (ประเทศไทย) องค์กรชั้นนำของโลกทางด้านการตรวจสอบและการรับรองระบบ"
"ในฐานะผู้นำในตลาด เราต้องเซตเทรนด์ หรือสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับตลาดเชนร้านอาหารญี่ปุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเจนวาย ที่แม้ไม่ยึดติดกับแบรนด์ แต่ก็ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ และให้ความสำคัญกับเรื่องของฟู้ดเซฟตี้ ซึ่งในอนาคตกลุ่มเป้าหมายนี้จะมีบทบาทในการขับเคลื่อนตลาดมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมุ่งเน้นในเรื่อง Functional Value โฟกัสในด้านคุณภาพวัตถุดิบและบริการ ควบคู่ไปกับกระตุ้น Emotional Value หรืออารมณ์ความรู้สึก ผ่านการตอกย้ำในด้านคุณภาพและความปลอดภัยในอาหาร ซึ่งปัจจุบัน เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์" นายไพศาล อ่าวสถาพร กล่าวย้ำ
ด้านกลุ่มอาหารพร้อมปรุงและพร้อมทานนั้น (Packaged Food) ทางหน่วยงานพัฒนาธุรกิจอาหารยังคงเน้นเรื่องการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง นางกชกร อรรถรังสรรค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ปัจจุบันตลาดอาหารแช่แข็งและ Packaged Food เติบโตอย่างมาก โออิชิมองเห็นโอกาสและศักยภาพทางการผลิตที่แข็งแกร่งของโออิชิ จึงเตรียมแผนรองรับการขยายตัวของตลาด โดยมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและพร้อมทานทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งให้โดดเด่น ทั้งรูปแบบ รสชาติ และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเรามีครัวกลางที่ทันสมัยสำหรับผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานในระดับสากล เพื่อตอบโจทย์ชีวิตสำเร็จรูปและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มสหภาพยุโรป ผ่านการซินเนอร์ยี่กับพันธมิตรกลุ่มธุรกิจในเครือ"
ธุรกิจเครื่องดื่ม กำไรดี ชูธงผู้นำทิ้งห่างคู่แข่ง
นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "จากความสำเร็จของโออิชิ กรีนที กับการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ถึง 46% (ข้อมูลจาก: Nielsen เดือน ม.ค.- ก.ย.60) พิสูจน์ให้เห็นว่าเราเดินมาถูกทาง ดังนั้นในปี 2561 นี้ เราจึงยังคงสานต่อกลยุทธ์ มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่มีนวัตกรรม สร้างผลิตภัณฑ์ดาวรุ่งตัวใหม่ๆ ให้ติดตลาดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโออิชิ ฟรุตที หรือ ชารสผลไม้ ที่เข้ามาช่วยขยายฐานการดื่มในกลุ่มวัยรุ่น ล่าสุดกับการออกผลิตภัณฑ์โออิชิ ส้มยูซุ หอม สดชื่น หวานอมเปรี้ยว ไม่เหมือนใครของส้มยูซุจากประเทศญี่ปุ่น ผสมวุ้นมะพร้าวเคี้ยวหนึบ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น พร้อมสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งซัมเมอร์โปรโมชั่นและแคมเปญโปรโมชั่นทริปเหนือความคาดคิดที่เงินไม่สามารถซื้อได้ในแคมเปญล่าสุด 'โออิชิ ทริปสุดโอ โกเจแปน ตอนฟินหนาวหนึบกับเป๊กผลิตโชค' ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากกลุ่มผู้บริโภควัยทีนและแฟนเลิฟของพรีเซนเตอร์คนล่าสุดของโออิชิ กรีนที เป๊ก ผลิตโชค ด้านการจัดจำหน่าย เราใช้การซินเนอร์ยี่ระหว่างบริษัทในเครือไทยเบฟ โดยนำเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเข้ามา ช่วยในการกระจายสินค้า โดยเฉพาะในช่องทางขายในรูปแบบเดิม (Traditional Trade) ซึ่งเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการทำตลาดต่างประเทศ โดยผสานความร่วมมือ (Collaboration) ระหว่างบริษัทกลุ่มพันธมิตรในเครือ F&N ในด้านการผลิตและการกระจายสินค้า พร้อมเลือกโฟกัสประเทศเป้าหมาย ได้แก่ กัมพูชา ลาว ยุโรป และ ประเทศ Middle East ซึ่งทำให้วันนี้ตลาดส่งออกของโออิชิโตมาก ล่าสุดเรายังเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในกัมพูชา"
โออิชิยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของบริษัท โดยไม่หยุดยั้งที่จะสร้างการเจริญเติบโต ปรับกลยุทธ์ที่จะรักษาคุณภาพของสินค้าและบริการ รวมถึงรักษาสัมพันธภาพที่ยั่งยืนกับลูกค้า เพื่อครองตำแหน่งผู้นำทางธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างยั่งยืนและแข็งแกร่ง