กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 17 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,332.50-1,344.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,310 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,290 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.30 น. ของวันที่ 17/01/61)
แนวโน้มวันที่ 18 มกราคม 2561
พรรครีพับลิกันของสหรัฐพิจารณาร่างกฎหมายชั่วคราวที่จะให้งบสนับสนุนรัฐบาลสหรัฐจนถึงวันที่ 16 ก.พ. เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดทำการ (shutdown) ของรัฐบาล ซึ่งข้อขัดแย้งในประเด็นนโยบายการอพยพเข้าประเทศ ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นที่สภาคองเกรสและทำเนียบขาวใกล้ที่จะเผชิญกับการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลกลางภายในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามแรงซื้อทองคำไม่มากนัก เพราะนักลงทุนประเมินว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันที่คุมเสียงข้างมากในสภาคองเกรส จะพยายามผลักดันร่างกฎหมายงบสนับสนุนชั่วคราวอีกฉบับ และเสนอต่อปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ก่อนเที่ยงคืนวันศุกร์ ซึ่งเป็นกำหนดวันที่งบประมาณชั่วคราวสำหรับหน่วยงานรัฐบาลกลางจะหมดอายุลง ขณะที่นักลงทุนในตลาดทองคำจับตาคาดการณ์รายไตรมาสฉบับใหม่ของธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ในสัปดาห์หน้า เพื่อดูทิศทางว่า BOJ จะลดการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วเพียงใด หลังจากนายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการ BOJ อาจจะย้ำเตือนตลาดในการแถลงข่าว ว่า การยุตินโยบายเชิงผ่อนคลายเป็นพิเศษ จะต้องใช้เวลาสักระยะ ในขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ห่างจากเป้าหมายที่ 2% ของ BOJ ซึ่งยังคงประสบความยากลำบากที่ว่า BOJ อาจจะดำเนินการตามธนาคารกลางยุโรปในการยุติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งประเด็นดังกล่าว กลับมาหนุนให้ดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นชั่วขณะ หลังจากที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในเดือนนี้ จากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางรายใหญ่ต่างๆจะปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติในที่สุด อย่างไรก็ตามราคาทองคำพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ โดยนักลงทุนควรติดตามทิศทางของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นหากราคาทองคำพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,344-1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากราคายังไม่สามารถผ่านแนวต้านไปได้ ก็จะเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมาบริเวณแนวรับ 1,331-1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,344-1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,331-1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,331 (20,100บาท) 1,322 (19,950บาท) 1,315 (19,850บาท)
แนวต้าน 1,346 (20,350บาท) 1,358 (20,550บาท) 1,365 (20,650บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,331 (20,230บาท) 1,322 (20,090บาท) 1,315 (19,990บาท)
แนวต้าน 1,346 (20,470บาท) 1,358 (20,650บาท) 1,365 (20,750บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999