ลุฟท์ฮันซ่าแสดงผลประกอบการทางธุรกิจในช่วง 9 เดือนซึ่งเป็นผลกำไรมากกว่า 1พันล้านยูโร

ข่าวทั่วไป Friday November 9, 2007 14:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
ลุฟท์ฮันซ่าแสดงผลประกอบการทางธุรกิจในช่วง 9 เดือนซึ่งเป็นผลกำไรมากกว่า 1พันล้านยูโร มร.ไมเยอร์ฮูเบอร์ คาดหมายที่จะได้รับผลกำไรกว่า 1.3 พันล้านยูโรตลอดทั้งปี
กลุ่มธุรกิจของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าแสดงผลกำไรจากการประกอบการทางธุรกิจในช่วง 9 เดือนที่เพิ่มมากขึ้นมากกว่าร้อยละ 57 หรือเป็นจำนวนเงินมากกว่า 1.1 พันล้านยูโร ลุฟท์ฮันซ่าได้พิสูจน์ความสำเร็จด้วยการสร้างผลกำไรดังกล่าวแม้ว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจะได้เกิดภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นผนวกกับความผันผวนของตลาดการเงินระดับนานาชาติ รวมถึงการแข่งขันทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น หากแต่ปัจจัยต่างๆเหล่านี้มิได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าแต่อย่างใด มร.วูฟล์กัง ไมเยอร์ฮูเบอร์ ประธานและประธานกรรมการบริหารของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าประกาศอย่างมั่นใจว่า “ทางเราคาดหมายที่จะได้ผลกำไรที่เพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมากกว่า 1.3 พันล้านยูโรในสิ้นปีนี้” ผลกำไรและความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นการสร้างสถิติครั้งใหม่ให้กับกลุ่มธุรกิจของสายการบินลุฟท์ฮันซ่า “ด้วยผลประกอบการที่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้นับเป็นรากฐานที่มั่นคง และทำให้สายการบินลุฟท์ฮันซ่ามีสถานภาพที่แข็งแกร่งภายใต้การแข่งขันที่เพิ่มสูงมากขึ้น และนี่คือจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่ของเรา”มร.ไมเยอร์ฮูเบอร์กล่าวเสริม “เรามีความต้องการที่จะทำให้สายการบินลุฟท์ฮันซ่ามีมูลค่ามากขึ้นสำหรับผู้ถือหุ้น และเป็นสายการบินที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง” ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 นี้เป็นผลลัพท์ของความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากผลประกอบการที่ดีของทุกกลุ่มธุรกิจของลุฟท์ฮันซ่า ทุกๆกลุ่มธุรกิจได้ดำเนินการตามรูปแบบการใช้กลยุทธของกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายชัดเจนที่จะสร้างผลกำไรให้บรรลุผลสูงสุด พร้อมไปกับการการคำนึงถึงเป้าหมายหลักที่สำคัญอื่นๆอีกด้วย ในส่วนของกลุ่มธุรกิจหลักซึ่งคือธุรกิจการบินนั้น ผลประกอบการของสายการบินสวิสได้ถูกนำมาเข้าร่วมกับผลประกอบการณ์ของกลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่าอย่างสมบูรณ์ในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา สายการบินสวิสเองสามารถดำเนินการทางธุรกิจที่เติบโตอย่างมั่นคง เฉกเช่นเดียวกับสายการบินลุฟท์ฮันซ่า สายการบินในกลุ่มของเราได้ทำการสั่งซื้อเครื่องบินลำใหม่จำนวน 170 ลำ ซึ่งเป็นการลงทุนมากถึง 14 พันล้านยูโร เพื่อแสดงเจตนาที่ต้องการจะช่วยเหลือในการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม “การใช้เครื่องบินที่มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงสูง และมีเทคโนโลยีอันทันสมัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะสร้างมาตรฐานความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้าของเรา” มร.ไมเยอร์ฮูเบอร์ กล่าวเสริม
ลุฟท์ฮันซ่าขยายความเป็นผู้นำทางธุรกิจ
มร.ไมเยอร์ฮูเบอร์ได้แสดงเจตจำนงค์อย่างชัดเจนในการดำเนินธุรกิจในอนาคตที่มุ่งเน้นในการเติบโตอย่างมั่นคง พร้อมไปกับการสร้างผลกำไรสูงสุด “พวกเราจะไม่หยุดพักเพื่อชื่นชมในความสำเร็จของเรา เนื่องจากพวกเราตระหนักดีว่าการที่เราไม่ก้าวต่อไปข้างหน้า ก็จะต้องเป็นการถอยหลังในที่สุด ถ้าเราต้องการจะทะยานขึ้นสู่ฟ้า เราต้องเลือกที่จะลดน้ำหนักบางส่วนออกไป ถ้าเราต้องการที่จะก้าวต่อไป เราต้องการแรงผลักดันในการก้าวเดิน พวกเราจะมุ่งเน้นในการดูแลและให้บริการที่ดีกับผู้โดยสาร พร้อมไปกับการวางแผนควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เรามีความมั่นใจในการลงทุนในตลาดใหม่ เราต้องพัฒนาขีดความสามารถ และเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ตลอดสำหรับอนาคต ทุกท่านมั่นใจได้เลยว่าเรามองไปในอนาคตข้างหน้ามากกว่าหยุดอยู่กับผลประกอบการทางธุรกิจที่จะเกิดในทุกๆไตรมาส และทุกๆปี” ความคิดริเริ่มของกลุ่มที่เรียกว่า “การยกระดับความเป็นผู้นำทางธุรกิจ (Upgrade to Industry Leadership)” จะเป็นกุญแจและหลักเกณฑ์สำคัญซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ “พวกเรามีความต้องการที่จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างและขยายความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบินนี้” ประธานผู้บริหารกล่าวอย่างจริงจังว่า “ความเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่พวกเราต้องการ”
ลุฟท์ฮันซ่ามีความต้องการที่จะปฏิรูปสิ่งใหม่ๆ คิดและทำในรูปแบบของนักลงทุน สิ่งที่ไม่มีประสิทธิภาพจะต้องถูกขจัดออกไป “นี่จะไม่ใช่การปฏิรูปเพียงแค่ภาพรวมใหญ่ๆทั้งหมดแต่ยังเป็นการปฏิรูปที่เจาะลึกไปในทุกๆรายละเอียด ทางเราต้องการให้ทุกๆคนในกลุ่มธุรกิจของเราทำงานในหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือการบริการในรูปแบบใหม่ๆอีกด้วย” มร.วูฟล์กัง ไมเยอร์ฮูเบอร์ กล่าวอย่างจริงจังที่แฟรงค์เฟริ์ตว่า กลุ่มธุรกิจของเรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพ คำนึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีความต้องการที่จะบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ๆที่เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นอย่างยิ่งในการเติบโตของบริษัท กลุ่มบริษัทของลุฟท์ฮันซ่าจึงตัดสินใจที่จะลงทุนมากกว่า 1 พันล้านยูโรเพื่อสร้างตึก อาคาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในภูมิภาคไรน์-เมน(Rhine-Main region) และด้วยความเป็นมาดังกล่าวนี้ ประธานและประธานผู้บริหารของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าจึงอยากให้มีการไตร่ตรองด้วยเหตุผลเพื่อสนับสนุนให้มีนโยบายสำหรับการกำหนดเที่ยวบินในเวลากลางคืนในเมืองแฟรงค์เฟริ์ต “การกำหนดห้ามมิให้มีเที่ยวบินในเวลากลางคืนโดยสิ้นเชิงจะเป็นข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงซึ่งส่งผลกระทบโดยรวมไปสู่ทั่วทั้งภูมิภาค การขนส่งสินค้าและการคมนาคมของผู้โดยสารทางอากาศจะถูกย้ายและเปลี่ยนแปลงจากเมืองแฟรงค์เฟริ์ตไปสู่ท่าอาศยานนานาชาติอื่นๆ และจากผลกระทบดังกล่าวนี้จะทำให้ผู้คนกว่าหลายพันคนต้องเสี่ยงกับการว่างงาน”
ตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550
ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2550 กลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่าสามารถสร้างรายได้โดยรวมได้ถึง 16.4 พันล้านยูโร ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบกับเก้าเดือนแรกของปีที่แล้ว รวมทั้งการสร้างรายได้จากการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงินกว่า 12.7 พันล้านยูโร คิดเป็นร้อยละ 9.8 ตัวเลขในไตรมาสที่ 3 นับเป็นครั้งแรกที่มีการรวมผลประกอบการของสายการบินสวิสในผลประกอบการของกลุ่มซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยประสิทธิผลของการรวมกันเป็นหนึ่งและจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาและทำให้รายได้จากผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจทั้งหมดเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 หรือเป็นจำนวนเงินกว่า 17.5 พันล้านยูโร ส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นทั้งหมดร้อยละ 7.6 หรือ เป็นจำนวนเงิน 16.3 พันล้านยูโร ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการเจริญเติบโต ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นเนื่องจากการขยายตัวทางธุรกิจและการรวมผลประกอบการของสายการบินสวิส อย่างไรก็ตามสายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้แสดงผลกำไรจากการประกอบการทางธุรกิจที่สร้างสถิติใหม่ในช่วงไตรมาส 3 ที่เพิ่มมากขึ้นมากกว่าร้อยละ 57 หรือเป็นจำนวนเงินมากกว่า 1.1 พันล้านยูโร เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว
กลุ่มบริษัทสามารถเพิ่มผลประกอบการทางการเงินขึ้นกว่า 60 ล้าน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีผลประกอบการคุ้มทุน การเพิ่มขึ้นของผลประกอบการทางการเงินดังกล่าวเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงภาษีสำหรับบริษัทในประเทศเยอรมันนีในเดือนกรกฎาคม กลุ่มบริษัทของลุฟท์ฮันซ่าได้รับการลดภาษีซึ่งเป็นจำนวนเงินกว่า 211 ล้านยูโร ซึ่งถ้านำไปผนวกกับผลกำไร 503 ล้านยูโรอันได้จากการขายหุ้นของ Thomas Cook จะทำให้ผลประกอบการทางการเงินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 1.6 พันล้านยูโร (ปี2549:414 ล้านยูโร) ส่วนค่าใช้จ่ายทางการลงทุนในช่วงเก้าเดือนแรกของกลุ่มบริษัทคิดเป็นจำนวนโดยรวม 925 ล้านยูโร ซึ่ง 885 ล้านยูโรของค่าใช้จ่ายดังกล่าวถูกใช้ไปกับการสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารใหม่ ส่วนจำนวนเงินสดหมุนเวียนนั้นอยู่ที่ 2 พันล้านยูโร และ ในวันที่ 30 กันยายน 2550 กลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่าจะมีสภาพคล่องซึ่งเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 1.6 พันล้านยูโร
กลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า* มกราคม—กันยายน เปลี่ยนแปลงร้อยละ กรกฏาคม—กันยายน
2550 2549 2550 2549
รายได้ Mio. ? 16 367 14 980 9.3 6 278 5 332
รายได้ที่ได้จากการจราจรทางอากาศ Mio. ? 12 739 11 599 9.8 5 000 4 162
ผลกำไรจากกิจกรรมด้านปฏิบัติการ Mio. ? 1 191 793 50.2 570 455
ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทฯ Mio. ? 1 578 414 281.2 586 329
ผลจากการปฏิบัติการ Mio. ? 1 085 691 57 599 394
ส่วนต่างกำไรจากการปฏิบัติการหลัง คิดเป็น 7 5.1 +1.9 P 9.9 7.7
ปรับยอดแล้ว* ร้อยละ
ค่าใช้จ่ายทางการลงทุน Mio. ? 925 1 313 -29.6 73 437
เงินสดหมุนเวียน Mio. ? 1 975 1 381 43 899 684
จำนวนพนักงาน 105 199 93 923 12 - -
(สิ้นสุด 30 กันยายน 2550)
กำไรต่อหุ้น ? 3.45 0.9 283.3 1.28 0.71
*) ตัวเลขทั้งหมดรวมถึงผลการดำเนินงานของสายการบินสวิสตั้งแต่เดือน กรกฎาคม ถึง กันยายน 2550
**) ผลจากการปฏิบัติการบวกกับรายการบวกกลับทางภาษีหารด้วยรายได้
ออกโดย เผยแพร่โดย
Deutsche Lufthansa AG โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
Corporate Communications สิทธิชัย อุทัยวัฒนาทร
http://media.lufthansa.com โทรศัพท์ 0 2260 5820 อีเมล: tqprthai@tqpr.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ