กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--กรมประมง
วันที่ 19 มกราคม 2561 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมพะยูน กรมประมง ดร.อดิศร พร้อมเทพอธิบดีกรมประมง ร่วมกับ นายจิรุฒม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า และพลเรือโทวรรณพล กล่อมแก้วรองหัวหน้าสำนักงานเลขานุการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) และนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง การออกใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และการต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือ รอบปีการประมง พ.ศ. 2561 – 2562
ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า เนื่องจากใบอนุญาตทำการประมงของเรือประมงพาณิชย์ในรอบปีการประมง 2559 - 2560 (1 เมษายน 2559 - 31 มีนาคม 2561) กำลังใกล้จะสิ้นสุด
ดังนั้นเพื่อความต่อเนื่องของการทำการประมง กรมประมงจะเปิดให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำประมงพาณิชย์ได้ในระหว่างวันที่ 20 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 โดยในรอบปีการทำประมงใหม่นี้กรมประมง ได้บูรณาการร่วมกับกรมเจ้าท่าและศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ในการให้บริการประชาชนเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและผู้ประกอบการประมง โดยได้ปรับปรุงข้อกฏหมายและออกระเบียบเพิ่มเติมใน 3 เรื่องที่สำคัญ ได้แก่ การแก้กฎระเบียบให้อายุใบอนุญาตทำการประมงและใบอนุญาตใช้เรือมีอายุสิ้นสุดพร้อมกัน และให้ชาวประมงสามารถยื่นคำขอทั้ง 2 เรื่องของ 2 ไปพร้อมกันได้ที่สำนักงานประมงอำเภอพื้นที่ติดทะเล สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือสถานที่อื่นที่กรมประมงประกาศกำหนด และการขอใบอนุญาตทำการการประมงพาณิชย์ในครั้งนี้จะต้องมีการตรวจเรือประมงที่จะนำมาขอรับใบอนุญาตก่อนการพิจารณาออกใบอนุญาตทำประมงพาณิชย์ โดยจะมีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างกรมประมง กรมเจ้าท่า และศปมผ.
นายจิรุฒม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า เดิมใบอนุญาตใช้เรือของกรมเจ้าท่าจะมีอายุการใช้งาน 1 ปีและจะต้องต่ออายุทุกปี ส่วนใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์จะมีอายุ 2 ปี และวันหมดอายุไม่พร้อมกัน ผู้ประกอบการต้องเดินทางไปต่ออายุ 2 แห่งทั้งสำนักงานเจ้าท่าและสำนักงานประมงอำเภอ ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการจึงได้มีการปรับปรุงกฎระเบียบโดยกำหนดให้ใบอนุญาตทั้ง 2 ใบ สิ้นสุดพร้อมกัน โดยในส่วนของการยื่นเรื่องขอใบอนุญาตทำการประมงและขอใบอนุญาตใช้เรือในรอบปี
การประมงใหม่ภายใต้การบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอได้ในที่เดียวกันในลักษณะแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ ณ สำนักงานประมงอำเภอที่มีอาณาเขตติดทะเล หรือสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อยื่นคำขอเรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการจะได้รับใบนัดหมายตรวจเรือจากสำนักงานประมงอำเภอที่ยื่นเรื่องในวันเดียวกัน ในส่วนของเอกสารคำขอที่ชาวประมงได้ยื่นขอใบอนุญาตนั้นเป็นหน้าที่ของหน่วยงานจะประสานและส่งข้อมูลให้กันเอง
พลเรือโทวรรณพล กล่อมแก้ว รองหัวหน้าสำนักงานเลขานุการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย กล่าวว่า หลังจากที่ผู้ประกอบการได้ยื่นเอกสารคำขอใบอนุญาตทำการประมงและใบอนุญาตใช้เรือในรอบปีการประมงใหม่เรียบร้อยแล้ว ทางภาครัฐจะเริ่มบูรณาการดำเนินการตรวจยืนยันเรือประมงในระหว่างวันที่ 20 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2561 โดยแบ่งการตรวจเรือเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. เรือที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ที่มีขนาดเกิน 30 ตันกรอส ทุกเครื่องมือ เรือประมงต่ำกว่า 30 ตันกรอสที่ใช้เครื่องมือ อวนลากทุกชนิด อวนล้อมจับ อวนล้อมจับปลากะตัก อวนครอบปลากะตัก และเรือประมงที่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมง (เรือขาว-ส้ม) แจ้งขอรับการตรวจได้ที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้าออกเรือประมง (PIPO)
2. เรือที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ที่มีขนาดต่ำกว่า 30 ตันกรอส ที่ไม่ต้องแจ้งเข้าออกและเรือที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส จะถูกตรวจโดยคณะทำงานตรวจเรือของศูนย์แก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ซึ่งเรียกว่าการตรวจเรือ 3 ฝ่าย ได้แก่ กรมประมง กรมเจ้าท่า และศปมผ. โดยเรือที่ต่ำกว่า 10 ตันกรอส ที่ใช้เครื่องมือทำการประมง 7 เครื่องมือ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ อวนลากคู่ อวนลากแผ่นตะเฆ่ อวนลากคานถ่าง อวนล้อมจับ (มีสายมาน) อวนล้อมจับปลากะตัก คราดทุกชนิดประกอบเรือกล เรือประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เรือปั่นไฟ) จะต้องทำอัตลัษณ์เรือ และวัดขนาดเรือใหม่
นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ในรอบปีการประมง 2559 -2560 กำลังใกล้จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2561 ทางสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวประมงมายื่นคำขอรับใบอนุญาตทำการประมงได้ระหว่างวันที่ 20 มกราคม ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ผู้ที่มิได้มายื่นขอใบอนุญาตทำการประมงภายในกำหนดจะไม่ได้รับใบอนุญาต และไม่สามารถทำการประมงโดยถูกต้องตามกฎหมายต่อไปได้ จึงขอให้พี่น้องชาวประมงรักษาสิทธิของตนด้วย
ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวเสริมว่าหลังจากจากที่กรมประมงและกรมเจ้าท่าได้พิจารณาออกใบอนุญาตทำการประมงและต่อใบอนุญาตใช้เรือเรียบร้อยแล้ว ทางกรมฯ จะแจ้งให้ผู้ประกอบการมาชำระค่าธรรมเนียม และค่าอากรได้ที่สำนักงานประมงอำเภอที่ยื่นเรื่องตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป และที่พิเศษในรอบการทำประมงนี้ ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายสั่งการให้กรมประมงหาวิธีลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการเรือประมง กรมประมงจึงได้ดำเนินการใน 2 เรื่อง ในรอบปีการประมงนี้ได้แก่ การจัดเก็บเงินค่าอากรการประมง จะจัดเก็บแต่เฉพาะเครื่องมือที่มีการใช้ทำการประมงจริงเท่านั้น ในส่วนของเครื่องมือประมงสำรองที่ผู้ประกอบการนำไปตรวจพร้อมกับเรือประมงจะไม่มีการจัดเก็บเงินค่าอากร เนื่องจากยังมิได้มีการใช้จริง 2.ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอตรวจเรือประมงได้ที่สำนักงานประมงอำเภอที่มีอาณาเขตติดทะเลทุกแห่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ PIPO หรือคณะทำงานตรวจเรือ 3 ฝ่ายเข้าตรวจเรือในพื้นที่จังหวัดที่เรือทำการประมงอยู่โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ที่ผู้ประกอบการแจ้งขึ้นคำขอไว้ในตอนแรก ซึ่งทั้ง 2 วิธีก็จะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับผู้ประกอบการได้
จากการบูรณาการร่วมกันของ 3 หน่วยงานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการแล้ว ในส่วนของภาครัฐก็จะช่วยขับเคลื่อนภาคการประมงให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งในเรื่องข้อมูลที่เป็นที่สะดวกต่อการนำมาใช้สนับสนุนงานในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ด้านการตรวจเรือประมง เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่กลางทะเลก็จะสามารถตรวจสอบข้อมูลได้รวดเร็วและถูกต้องมากยิ่งขึ้น การบูรณาการร่วมกันในครั้งนี้เป็นอีกก้าวที่สำคัญในการพัฒนาระบบการรวบรวมฐานข้อมูลเรือประมงให้มีคุณภาพและเป็นมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น
ภาคการประมงไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ทรัพยากรสัตว์น้ำถูกจับขึ้นมาใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้ปริมาณสัตว์น้ำลดจำนวนน้อยลง ดังนั้นการบริหารจัดการทรัพยากรประมงของประเทศด้วยการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมดูแลการจับสัตว์น้ำให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมภายใต้ความร่วมมือของประชาชน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องถูกขับเคลื่อนเป็นอันดับต้นๆ เพื่อให้ภาคเศรษฐกิจการประมงไทยสามารถเดินต่อไปได้พร้อมกับการทำการประมงที่ยั่งยืน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการการออกใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์รอบปีการประมง 2561 – 2562
กรมประมง โทรศัพท์ 02-561-1418 ,091-057-5317, 064-014-1812, 097-326-9095 หรือติดต่อสำนักงานประมงจังหวัด สำนักงานประมงอำเภอในพื้นที่ติดทะเล