กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--ธามดี พลัส
บมจ.ซันสวีท หรือ SUN วางเป้าหมายระยะยาว 3 ปี (2561-2563) ยอดขายแตะ 2,000 ล้านบาท เน้นบุกตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโตได้อีกมาก รวมถึงเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกอีกด้วย นอกจากนี้ยังเจาะตลาดแถบตะวันออกกลาง รัสเซียและประเทศในแถบอาเซียนที่รับประทานอาหารฮาลาล ขณะที่วัตถุดิบเน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้สนับสนุนเกษตรกรเพื่อเพิ่มผลผลิตจาก 2 ตันต่อไร่เป็น 3-4 ตันต่อไร่ รวมถึงเสาะหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ในประเทศแถบเพื่อนบ้าน ด้านที่ปรึกษาทางการเงินระบุการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นจุดแข็งทำให้เพิ่มโอกาสทางธุรกิจและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น
ดร.องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน ภายใต้ตราสินค้า "KC" เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายระยะยาว 3 ปี (2561-2563) ยอดขายจะอยู่ที่ 2,000 ล้านบาทจากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 1,700 ล้านบาท โดยบริษัทจะยังคงเน้นตลาดประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นบริโภคข้าวโพดหวานเป็นอันดับ2 ของโลก มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท
"ปัจจุบันเราส่งขายไปยังญี่ปุ่นประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี และมองว่าตลาดญี่ปุ่นยังมีศักยภาพและโอกาสอีกมาก เพราะญี่ปุ่นปลูกข้าวโพดหวานเองได้แค่ 3 เดือน เนื่องจากอากาศหนาวทำให้ข้าวโพดหวานไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ และประเทศไทยยังมี FTA กับญี่ปุ่นทำให้ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งส่งผลดีทำให้ได้เปรียบทางด้านราคาเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ขณะเดียวกันในปี 2563 ญี่ปุ่นยังเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกทำให้ร้านอาหาร โรงแรมและภัตตาคารต่างๆมีความต้องการใช้ข้าวโพดหวานเพื่อประกอบอาหารเพิ่มขึ้นอย่างมาก"ดร.องอาจ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทจะเปิดตลาดใหม่แถบตะวันออกกลาง อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาต้าร์ คูเวต เลบานอน ซาอุดิอาระเบีย ดูไบ ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายในประเทศแถบนี้ได้ ปัจจุบันบริษัทส่งออกผลิตภัณฑ์ไปขายประเทศแถบตะวันออกกลางโดยเน้นประเทศอิหร่านที่มีมูลค่ายอดขายประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี ขณะเดียวกันประเทศในแถบอาเซียนก็จะเน้นทำการตลาดประเทศที่บริโภคอาหารฮาลาล อาทิ อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ มาเลเซีย บรูไน และสุดท้ายบริษัทจะกลับไปทำการตลาดประเทศรัสเซียอีกครั้งเนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศรัสเซียเริ่มฟื้นตัว
อย่างไรก็ตามทางด้านวัตถุดิบบริษัทจะมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยี(Smart Farm) เข้ามาใช้สนับสนุนเกษตรกรในการปลูกข้าวโพดหวาน โดยคาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3-4 ตันต่อไร่ จากปัจจุบันที่อยู่ 2 ตันต่อไร่ รวมถึงบริษัทยังได้หาพื้นที่ปลูกข้าวโพดหวานแห่งใหม่ในประเทศแถบเพื่อนบ้าน
"เพื่อความมั่นคงและสม่ำเสมอต่อเนื่องในระยะยาวของวัตถุดิบ นอกจากการนำ Smart Farm เข้ามาส่งเสริมให้กับเกษตรกรแล้ว บริษัทยังได้หาพื้นที่ปลูกข้าวโพดใหม่ๆในประเทศเพื่อนบ้านเบื้องต้นทางบริษัทได้เข้าไปคุยกับตัวแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้วและคาดว่าปลายปีนี้น่าจะส่งวัตถุดิบให้กับทางบริษัทได้ "ดร.องอาจ กล่าว
นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ของบริษัท จะทำให้บริษัทเติบโตในอนาคตทั้งทางด้านยอดขายและความเข้มแข็งของฐานะทางการเงิน เพราะบริษัทนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 727.81 ล้านบาท ไปใช้ในการลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมเพื่อขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต จำนวน 260 ล้านบาท ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จำนวน 50 ล้านบาท รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ จำนวน 417.81 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจากแผนงานดังกล่าวจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เปิดเผยว่า การบริโภคข้าวโพดหวานทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 45,000 ล้านบาท และประเทศไทยส่งออกข้าวโพดหวานมีมูลค่าเพียง 7,500 ล้านบาท ซึ่งนับว่ายังมีตลาดที่สามารถเติบโตได้อีกมากและการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ช่วยให้ SUN มีโอกาสทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าและตราสินค้าของบริษัทเป็นที่รู้จักและจดจำ จนทำให้บริษัทสามารถขยายตลาดและสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน