กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 22 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,327.60-1,335.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,180 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,250 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.35 น. ของวันที่ 22/01/61)
แนวโน้มวันที่ 23 มกราคม 2561
ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐและพรรคเดโมแครตกรณีเกี่ยวกับนโยบายการรับผู้อพยพเข้าประเทศ จนนำไปสู่การปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราว หรือ Government Shutdown แม้ว่าปัจจัยดังกล่าวจะกดดันดัชนีดอลลาร์ให้ปรับตัวลดลงแต่ก็อ่อนค่าลงไม่มาก อีกทั้งกลับมาขยับขึ้นอีกครั้งโดยได้รับแรงหนุนของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีที่ปรับสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ทั้งนี้นักลงทุนประเมินว่าสุดท้ายก็จะเกิดการประนีประนอม และประเด็นดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ โดยวุฒิสภาสหรัฐกำหนดให้มีการลงมติขยายงบประมาณเสริมในช่วงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ หรือประมาณ 24.00 น.ตามเวลาในไทย ทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐตกอยู่ภายใต้ภาวะ Government Shutdown จนกว่าจะมีความชัดเจน ขณะที่พรรครีพับลิกันอาจพยายามเปลี่ยนแปลงกฎ เพื่อที่ว่าจะสามารถผ่านมาตรการจัดงบสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งกฎในปัจจุบันในวุฒิสภากำหนดให้ต้องมีเสียงข้างมาก 60 จาก 100 เสียง สำหรับการผ่านอุปสรรคด้านกระบวนการและผ่านร่างกฎหมาย ซึ่งพรรครีพับลิกันพยายามจะกำหนดการผ่านที่ระดับ 51 จาก 100 เสียง ซึ่งพรรครีพับลิกันมีเสียงข้างมาก 51-49 เสียงในวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม นายมิทช์ แม็คคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันปฏิเสธความคิดนี้ สำหรับการ Government Shutdown ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในเดือนต.ค.ปี 2556 และเกิดขึ้นนานกว่า 2 สัปดาห์ โดยพนักงานภาครัฐกว่า 800,000 คนถูกพักงาน ซึ่งยังต้องติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ รวมถึงระยะเวลาในการบรรลุข้อตกลงว่าจะยืดเยื้อมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้แนะนำนักลงทุนติดตามการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 22-23 นี้ เพราะหากมีการส่งสัญญาณการคุมเข้มนโยบายในอนาคต อาจทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น จนกดดันดัชนีดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ สำหรับมุมมองประเมินแนวรับบริเวณ 1,327-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากไม่หลุดโซนนี้จะมีแรงดีดตัวขึ้นไป แต่หากไม่ผ่านแนวต้าน 1,344-1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ก็อาจจะเกิดแรงขายออกมาอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้น โดยราคาทองคำไม่สามารถ Break Out ผ่านแนวต้าน หรือ ยืนเหนือบริเวณ 1,344-1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ จึงมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาตั้งฐานราคาด้านล่างอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินว่าราคายังคงเคลื่อนไหวระหว่าง 1,324-1,344 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายืนระดับ 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ จึงจะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง แนะนำรอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงมาสู่โซน 1,327-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้ชะลอการซื้อ และหากถือสถานซื้อจำนวนมากอาจทยอยตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,324 (19,900บาท) 1,315 (19,800บาท) 1,303 (19,600บาท)
แนวต้าน 1,344 (20,250บาท) 1,358 (20,500บาท) 1,365 (20,600บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,324 (20,080บาท) 1,315 (19,940บาท) 1,303 (19,760บาท)
แนวต้าน 1,344 (20,390บาท) 1,358 (20,600บาท) 1,365 (20,700บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999