กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
- รุกหนักตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไทย ขนรุ่นใหม่โชว์ 36 รุ่น ชู QuickDriveTM เทคโนโลยีเรือธง กลุ่มเครื่องซักผ้า, Wind-FreeTM กลุ่มเครื่องปรับอากาศ และ Twin Cooling PlusTM กลุ่มตู้เย็น ในงานโชว์เคสนวัตกรรมแห่งปี "Samsung Digital Appliances 2018"
- งัดกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม ดึงพาร์ทเนอร์เสริมแกร่งช่องทางจำหน่าย
- ชูวิสัยทัศน์เรื่องการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ภายในบ้าน มอบประสบการณ์การใช้งานแบบไร้รอยต่อ ช่วยให้ชีวิตในยุคดิจิทัลง่ายขึ้น
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ตอกย้ำผู้นำตลาดกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในบ้าน ดันนวัตกรรมสุดล้ำรุกตลาดไทย พลิกโฉมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้ายุคใหม่ในกลุ่มเครื่องซักผ้า ชูนวัตกรรม QuickDriveTM เทคโนโลยีสุดอัจฉริยะซักผ้าเร็วขึ้น 50% เครื่องปรับอากาศที่มาพร้อม Wind-FreeTM นวัตกรรมความเย็นแบบใหม่ และตู้เย็นกับนวัตกรรมปรับความเย็นอัจฉริยะ 5 แบบ ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัล งัดกลยุทธ์ชิงส่วนแบ่งตลาดระดับบน ขยายฐานลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยม พร้อมเดินหน้าผนึกคู่ค้า โมเดิร์นเทรด เสริมแกร่งช่องทางจัดจำหน่าย หวังมอบประสบการณ์ที่ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด และยืนหยัดวิสัยทัศน์ด้านอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์เพื่อยกระดับการใช้งานอุปกรณ์ภายในบ้านแบบ ไร้รอยต่อ ล่าสุดจัดงาน 2018 Samsung Digital Appliances โชว์นวัตกรรมล่าสุด สานต่อวิสัยทัศน์ซัมซุงในฐานะผู้นำนวัตกรรมระดับโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
คุณเสาวณีย์ สิราริยกุล ผู้อำนวยการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า "ปีนี้เราเน้นการทำตลาดแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น วางกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าระดับบน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ดีไซน์สวยทันสมัย ส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ใช้งาน ในขณะเดียวกันก็ยังคงไม่ทิ้งตลาดกลุ่มแมส
ซึ่งซัมซุงมีแผนที่จะเน้นทำตลาดผ่านความร่วมมือกับคู่ค้ารีเทลทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ตลอดปี โดยตั้งเป้าว่าจะผลักดันให้ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของซัมซุงเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 3 เท่าตัว"
"ปัจจุบันตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของไทยมีมูลค่า 52,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 4 ภายในปีนี้ เรามั่นใจว่ากลยุทธ์สร้างความแตกต่างด้วยเทคโนโลยี จะช่วยสร้างดีมานด์ให้เกิดในกลุ่มลูกค้าเดิมที่ใช้ซัมซุงอยู่แล้ว
เปลี่ยนมาใช้สินค้ารุ่นที่ใหม่ขึ้น รวมทั้งเปลี่ยนลูกค้าของแบรนด์อื่นให้หันมาเลือกใช้แบรนด์ซัมซุงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มงบการตลาดขึ้นกว่าร้อยละ 10 จากปีที่แล้ว พร้อมจัด 2 แคมเปญส่งเสริมการขายอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ ได้แก่ แคมเปญ Summer นำเสนอโปรโมชั่นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านต้อนรับช่วงหน้าร้อนและแคมเปญ 8 Wonders เน้นทำตลาดผ่านโปรโมชั่นสุดคุ้มช่วงปลายปี" คุณเสาวณีย์ กล่าวเพิ่มเติม
ซัมซุงยังครองความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องซักผ้า ตู้เย็น รวมถึง เครื่องปรับอากาศ ซึ่งปีนี้ซัมซุงจะเน้นขยายฐานลูกค้าระดับบนให้มากขึ้น สร้างแรงจูงใจในการซื้อด้วยนวัตกรรมอันล้ำหน้าที่คิดค้นและพัฒนาโดยซัมซุง
QuickDriveTM นวัตกรรมที่ช่วยให้ซักผ้าได้เร็วขึ้นถึง 50% และประหยัดพลังงานขึ้นอีก 20% เมื่อเทียบกับเครื่องซักผ้าในกลุ่มเดียวกัน เจาะกลุ่มครอบครัวคนเมืองที่ไม่ค่อยมีเวลา ซึ่ง 80% ของผู้หญิง ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจซื้อสินค้า ปัจจุบันทำงานนอกบ้านจึงไม่ต้องการเสียเวลากับงานบ้าน ปีนี้ซัมซุงพร้อมเปิดตัวเครื่องซักผ้าอีกกว่า 15 รุ่น
Twin Cooling PlusTM นวัตกรรมสุดล้ำในกลุ่มตู้เย็น ที่มีระบบสลับความเย็นอัจริยะ 5 แบบ อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ปรับช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็งได้ความต้องการ และโหมดเร่งความเย็น Power Freeze / Power Cool โดยปีนี้ซัมซุงเตรียมเปิดตัวตู้เย็นสองประตูโฉมใหม่สไตล์เฉียบหรู 5 รุ่น ขนาดความจุ 300 ลิตร ขึ้นไป
Wind-FreeTM นวัตกรรมเฉพาะของซัมซุง ในกลุ่มเครื่องปรับอากาศ ที่ให้ความเย็นสบายแบบไม่มีลมปะทะตัว ซึ่งซัมซุงเป็นรายแรกที่คิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีนี้ออกสู่ตลาด โดยปีนี้ซัมซุงเตรียมเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่อีกมากกว่า 11 รุ่น
นอกจากนี้ ซัมซุงยังพบว่า ตลาดระดับบนของเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในปี 2561 โดยเฉพาะเครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายและแบบหุ่นยนต์ รวมถึงเตาไมโครเวฟแบบมัลติฟังก์ชั่น อบ อุ่น ย่าง ครบในตัว จึงจะมุ่งทำตลาดในเซกต์เมนต์นี้มากขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ด้านแบรนด์และนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยให้ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลภายในบ้านง่ายขึ้น
ล่าสุด ซัมซุงประกาศวิสัยทัศน์เรื่อง Internet of Things ในงาน CES 2018 ที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงพันธกิจในการผลักดันความก้าวหน้าในการส่งมอบประสบการณ์ไอโอทีแบบไร้รอยต่อ ผ่านการทำงานของดีไวซ์ต่างๆบนแพลตฟอร์มระบบคลาวด์ และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคให้เลือกลงทุนซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากซัมซุง เพราะไม่เพียงมีเทคโนโลยี ล้ำสมัย แต่จะสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริง โดยสำหรับประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ มีแผนที่จะเปิดตัวเทคโนโลยีแฟมิลี่ ฮับ (Family Hub) ที่เป็นผู้ช่วยอันชาญฉลาดของครอบครัว ในการเชื่อมต่อตู้เย็นกับร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อสั่งสินค้าได้โดยตรง อีกทั้งยังช่วยวางแผนมื้ออาหาร หรือแนะนำเมนูอาหารจากสิ่งที่มีในตู้เย็น เป็นต้น