กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--
เพราะผู้ชายรู้ว่า ผู้หญิงแบบไหนที่สวยที่สุด
รายละเอียด
อำนวยการสร้าง อินไชท์ เทคโนโลยี
ดำเนินงานสร้าง โคโซโคโม
กำกับการแสดง ราชิต กุศลคูณสิริ
ประเภท : บิวตี้ โรแมนติค คอมมาดี้
จำนวนตอน 13 ตอน
ความยาวต่อตอน 45 นาที
ช่องทางออกอากาศ
ประเทศไทย : ช่อง3SD และ LINETV
ประเทศจีน : tensent vdo
นักแสดง
เต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ รับบท แอมแปร์
ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ รับบท เมษ
ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม รับบท ไปบ์
โจ กวินพัฒน์ ธนาหิรัญศิลป์ รับบท ตุลย์
โอม ภวัต จิตต์สว่างดี รับบท ปอนด์
ซีแนม ซีแนม สุนทร รับบท อุ๋งอิ๋ง
และ นักแสดงรับเชิญคับคั่ง อาทิ ดีเจบุ๊คโกะ พีค ภีมพล โอ้ต ปราโมทย์
เรื่องย่อ
We believe a man can see the true beauty
The Beauty Bar คือร้านเสริมสวยมาแรง ที่ให้บริการด้านความงามครบวงจร ไม่ว่าจะตัดผม ทำเล็บ อโรม่าสปา หรือให้คำปรึกษาด้านความงามต่างๆ ทุกอย่างดูไปได้ดีจนกระทั่ง
อุ๋งอิ๋ง (ซีแนม ซีแนม สุนทร)เจ้าของร้านคนเก่ง ล้มป่วยและเสียชีวิตลงในเวลาไม่นาน ทำให้ The Beauty Bar จำเป็นต้องปิดตัว
ท่ามกลางความเศร้าโศก "แอมแปร์ (เต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) และ เอแคลร์ (จูน สิตาภา สุขเจริญไกรศรี)" น้องชายคนกลางและน้องสาวคนเล็กของอุ๋งอิ๋ง คือผู้ที่ต้องรับช่วงต่อ The Beauty Bar ตามพินัยกรรม สร้างความเซอร์ไพรส์ให้ทุกคนเป็นอย่างมาก เพราะรู้กันว่าแอมแปร์เป็นหนุ่มห้าวสุดเซอร์ ไม่ใกล้เคียงกับเรื่องสวยๆ งามๆ เลยแม้แต่น้อย ส่วน เอแคลร์ ก็เป็นสาวสังคมที่รักสนุกไปวันๆ ยังไม่เคยโชว์ฝีมือด้านการบริหารอะไรแล้วสำเร็จมาก่อนเลย
แล้วทุกคนก็ต้องเซอร์ไพรส์หนักขึ้นอีก เมื่อแอมแปร์ตอบตกลงรับช่วงต่อ The Beauty Bar เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของพี่สาว และเพือให้ลืม "วี"(สกุล กัญญาภัค พงษ์ศักดิ์) แฟนเก่าที่เพิ่งเลิกรากันไป ทำให้เอแคลร์ต้องตกกระไดพลอยโจนไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งคู่ช่วยกันเปิด The Beauty Bar ขึ้นมาอีกครั้ง และออกตามตัวพนักงานเก่าๆ ให้กลับมา
1"ไปป์" (ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม) คือคนแรกที่แอมแปร์และเอแคลร์ไปตามกลับมารวมทีม เพราะใน The Beauty Bar Guidebook ที่อุ๋งอิ๋งทิ้งไว้ บอกว่าไปป์เป็นช่างผมที่ละเอียดอ่อนและมีฝีมือมาก แต่เมื่อได้เจอตัวจริง กลับพบว่านอกจากฝีมือดีแล้ว ไปป์ยังปากดีอีกต่างหาก ทำให้เปิดฉากทะเลาะกับเอแคลร์ตั้งแต่แรกเจอ จนเอแคลร์เกือบไม่เอาไปป์กลับมาทำงานด้วยแล้ว โชคดีที่ได้แอมแปร์ช่วยห้ามทัพ และพาไปป์กลับมาทำงานในที่สุด
นอกจากไปป์แล้ว ยังมี 2 "ซี"(แมน เจษฎาวุฒิ ศรีแก้ว) เมคอัพอาร์ตติสท์มือทอง ตัวแทนของหนุ่มเมโทรเซ็กช่วลที่แต่งตัวจัดที่สุดในสามโลก 3"ปอนด์" (โอม ภวัต จิตต์สว่างดี) เทรนเนอร์กล้ามโตคนซื่อ บ้าพลังแต่ไม่ค่อยใช้สมอง 4 "เฟิร์ส"(นะ ณภัทร วิกัยรุ่งโรจน์) ทายาทธุรกิจพันล้าน ผู้เชี่ยวชาญด้าน Styling เสื้อผ้า 5"ยอร์ช"(เจมส์ จามร หลาวประเสิรฐ) หนุ่มติสท์หน้านิ่ง ผู้ครีเอทเล็บได้ทุกรูปแบบ และสุดท้าย 6"น้ำเหนือ"(จา พชร สวนศร) บล็อกเกอร์หนุ่มจากภาคเหนือ หน้าตาน่ารัก รู้เรื่องการดูแลผิวพรรณและสปาดีกว่าใคร น่าเสียดายที่ 7"ตุลย์" (โจ กวินพัฒน์ ธนาหิรัญศิลป์) ผู้จัดการของ The Beauty Bar คนเก่าปฏิเสธการกลับมา เพราะไม่เชื่อว่านอกจากอุ๋งอิ๋ง จะมีใครบริหาร The Beauty Bar ได้ดีอีกต่อไป
การกลับมาอีกครั้งของ The Beauty Bar ในช่วงแรกๆ มีความขลุกขลักมาก ทั้งปัญหาเรื่องการต่อสัญญาเช่าพื้นที่กับโรงแรม จนทำให้ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหาด้วยการโชว์ฝีมือ Make Over ให้ 2 ป้าเจ้าของที่จนพอใจ และการกลับมาครั้งนี้ The Beauty Bar ก็ไม่ได้ดังเปรี้ยงเหมือนเดิม ในทางตรงกันข้ามยังร้างคน จนวันๆ หนึ่งแทบไม่มีลูกค้าเลย
"เมษ"(ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) เป็นลูกค้ารายแรกที่เข้ามาใช้บริการ The Beauty Bar ช่วงแรกเธอโกรธพนักงาน The Beauty Bar มากที่ Make Over ให้เธอได้ไม่ถูกใจจนสูญเสียความมั่นใจซะเกือบไม่กล้าไปสมัครแอร์โฮสเตส แต่ปรากฏว่าทุกคนรวมถึงกรรมการสอบชอบเธอมาก ทำให้เมษมองตัวเองใหม่ เริ่มมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และกลับมาเป็นลูกค้าประจำในที่สุด ด้วยความที่เมษเป็นคนโก๊ะๆ เปิ่นๆ บุคลิกไม่ค่อยดี ไม่ค่อยรู้เรื่องความสวยความงามเท่าไหร่ ทำให้ทุกคนในร้านเอ็นดูเมษ และช่วยสอนอะไรให้หลายๆ อย่างเพื่อปั้นเมษเป็นแอร์โฮสเตสที่สง่างามที่สุด รวมถึงแอมแปร์ที่รู้สึกเข้าอกเข้าใจเมษเป็นพิเศษ เพราะเขาเองก็ต้องมาจับธุรกิจความงามทั้งที่ไม่รู้อะไรเลยเหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันและคอยให้กำลังใจกันและกัน รู้ตัวอีกที ทุกพัฒนาการของเมษ ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แอมแปร์พยายามสู้กับอุปสรรคบ้าง และการเห็นรอยยิ้มซื่อๆ ของเมษก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้วันอันยุ่งเหยิงในร้าน The Beauty Bar ของแอมแปร์ กลายเป็นวันดีๆ
The Beauty Bar มีลูกค้าแน่นร้านแทบทุกวัน มีทั้งผู้จัดการดาราที่พาเด็กในสังกัดมาเสริมความงามที่นี่ มีทั้งมนุษย์ป้า Perfectionist ที่เข้ามาลองดี รวมถึงมีเรื่องวุ่นๆ อย่างเรื่องที่น้ำเหนือ ถูกพ่อกับแม่ที่เป็นเจ้าทางเหนือบินตรงมาตามให้กลับบ้านจนร้านวุ่นวายไปหมด ทำให้เฟิร์สต้องไปช่วยพูดให้ (แม้ปกติจะเป็นคู่กัดกับน้ำเหนือก็ตาม) รวมถึงเรื่องที่อยู่ดีๆ The Beauty Bar ก็ถูกตำรวจจับและสั่งให้ปิด เพราะต้องสงสัยว่ามีการขายบริการภายในร้าน ซึ่งมาสืบรู้ทีหลังว่าเป็นฝีมือของ Beauty Warehouse ร้านเสริมสวยคู่แข่ง ที่ดำเนินกิจการโดย ตุลย์ อดีตผู้จัดการของ The Beauty Bar ที่ไม่ยอมกลับมาทำงานด้วยนั่นเอง
เรื่องยิ่งวุ่นหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อวันหนึ่ง วี (แฟนเก่าของแอมแปร์) มาที่ร้านในสภาพไม่ดีนัก เพราะเพิ่งเลิกกับแฟนและถูกทำร้ายร่างกาย ทำให้วีรู้ว่าผู้ชายที่ภายนอกดูสุภาพแสนดี แต่จริงๆ แล้วข้างในอาจไม่ใช่คนแบบนั้นก็ได้ ในขณะที่แอมแปร์แม้มีลุคแบดๆ แต่จริงๆ แล้วทั้งสุภาพและให้เกียรติวีตลอด ทำให้วีคิดถึงคืนวันเก่าๆ จนอยากกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะคิดว่าแอมแปร์ยังลืมตนเองไม่ได้ ซึ่งแอมแปร์ก็ยังลืมวีไม่ได้จริงๆ จนเกือบจะกลับไป สร้างความเสียใจให้เมษที่แอบชอบแอมแปร์อยู่ เมษค่อยๆ ตีตัวออกห่างจากแอมแปร์ หลายครั้งก็หายหน้าไปแบบติดต่อไม่ได้ สร้างความว้าวุ่นใจให้แอมแปร์มากจนรู้ตัวว่าขาดเมษไม่ได้ แอมแปร์ตัดสินใจปฏิเสธวี และไปหาเมษเพื่อบอกความในใจ เมษตกใจมากที่ใจตรงกัน และร้องไห้อย่างหนักจนแอมแปร์ตกใจนึกว่าเป็นอะไร สุดท้ายเมษตัดสินใจสารภาพว่าตนเองเป็นน้องสาวของตุลย์ ที่ถูกสั่งให้เข้ามาสอดแนมใน The Beauty Bar
นี้คือ เรื่องราวความงดงามของมิตรภาพ ครอบครัว คนที่เราตกหลุมรัก และอยากเดินข้างๆกัน ทุกเรื่องราวมีหลายด้าน มองให้เห็นความงามเราก็จะมีแต่รอยยิ้ม และ beauty boy คือหนึ่งในซีรีส์เรียกแรงบันดาลใจ ให้คุณยิ้มกับตัวเองได้ในปี 2018