กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--IR network
TWPC เปิดแผนธุรกิจในปี 61 มั่นใจรักษาการเติบโตของปริมาณการส่งออกได้ จากความต้องการสินค้าจากลูกค้ายังแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง ณ ปัจจุบันกลับมาสูงสุดในรอบ 4 ปี จ่อรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ทั้งในประเทศกัมพูชา และเวียดนาม พร้อมเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 1/61 นี้ เตรียมทุ่มงบลงทุน 1,000 ล้านบาท ใช้ลงทุนสำหรับโรงไฟฟ้าที่โรงงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ และนครราชสีมา รวมถึงโรงงานแป้งมันสำปะหลังเฟส 2 ที่ประเทศกัมพูชา คาดเปิดดำเนินงานได้ต้นปี 63 นี้
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสดและวุ้นเส้นแห้งในประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2561 เกี่ยวกับธุรกิจอาหาร บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอตามความต้องการของลูกค้า โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จาก HVA จะเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็นประมาณ 35% จากการที่ TWPC เข้าไปซื้อหุ้นสามัญเพิ่มในบริษัทมันสำปะหลังพัฒนาที่ผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังดัดแปร ซึ่งคาดว่าจะมี synergy ทั้งในด้านการขายและการตลาด รวมถึงการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะที่กลุ่มธุรกิจแป้งมันนั้นบริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโตของปริมาณการส่งออก ในปี 2561 ได้ เนื่องจากความต้องการสินค้าจากลูกค้ายังแข็งแกร่ง และราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลังฟื้นตัว ซึ่งผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว อีกทั้งยังได้เตรียมการบริหารจัดการวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพและเพียงพอต่อความสามารถในการผลิตของโรงงาน
นอกจากนี้ ในปี 2561 จะเริ่มมีการรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ของบริษัทฯทั้งในประเทศกัมพูชา และเวียดนาม รวมทั้งโรงไฟฟ้าแห่งแรกที่จังหวัดอุดรธานี อีกด้วย
"โรงงานประเทศเวียดนามและกัมพูชาคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินงานได้ภายในปลายไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 อีกทั้งในปีนี้จะเป็นปีที่รับรู้การลดลงของต้นทุนการผลิตจากการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในการดำเนินงานที่โรงงานที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุดรธานีเต็มปี" นายโฮ เรน ฮวา กล่าว
สำหรับงบลงทุนในปี 2561 อยู่ที่ ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งออกเป็นงบซ่อมบำรุงรักษาประจำปี (Annual Maintenance) ประมาณ 150 – 200 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นงบลงทุนสำหรับโรงไฟฟ้าที่โรงงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ และนครราชสีมา รวมถึงโรงงานแป้งมันสำปะหลังเฟส 2 ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินงานได้ต้นปี 2563 ซึ่งบริษัทมีกระแสเงินสดพอเพียงสำหรับโครงการที่กล่าวมาและได้เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสในการซื้อธุรกิจ (M&A) ในอนาคตอีกด้วย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า คาดว่าอุตสาหกรรมมันสำปะหลังจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และปัจจุบันราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลังฟื้นกลับมาอยู่ที่จุดสูงสุดในรอบ 4 ปี นอกจากนี้บริษัทฯได้มีการเตรียมการหาแหล่งวัตถุดิบเพิ่ม ทำให้มั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถรักษาการเติบโตของปริมาณการส่งออกได้ ถึงแม้ว่าตัวเลขคาดการณ์หัวมันสำปะหลังในปีนี้ของสมาคมแป้งมันจะออกลดลงก็ตาม