กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยฐานะการคลังเบื้องต้นตามระบบ สศค. (ระบบ Government Finance Statistics: GFS) ในไตรมาสที่ 4 (กรกฎาคม — กันยายน 2550) และปีงบประมาณ 2550 สรุปได้ว่า
ในไตรมาสที่ 4 รัฐบาลเกินดุลการคลังทั้งสิ้น 12,349 ล้านบาท เกินดุลลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 7,732 ล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ 2550 ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบ สศค. ขาดดุลทั้งสิ้น 2,726 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่เกินดุล 66,047 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของนโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อุปสงค์ของภาคเอกชนยังไม่ขยายตัวเต็มที่ โดยรายละเอียดของฐานะการคลังตามระบบ สศค. มีดังนี้
1. ฐานะการคลังตามระบบ สศค. ไตรมาสที่ 4 (กรกฎาคม — กันยายน 2550)
- รัฐบาลมีรายได้รวม 396,086 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.6 ในขณะที่รัฐบาลมีรายจ่ายทั้งสิ้น 438,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 10.7
- ผลจากการที่รายจ่ายรัฐบาลสูงกว่ารายได้ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในไตรมาสที่ 4 ขาดดุล 42,400 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วขาดดุลเพียง 2,162 ล้านบาท
- รายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศประกอบด้วย Project Loans มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 111 ล้านบาท ในขณะที่ปีที่แล้วมีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 782 ล้านบาท เบิกจ่ายลดลง 671 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 85.8
- ดุลบัญชีนอกงบประมาณ (ประกอบด้วยกองทุนนอกงบประมาณและเงินฝากนอกงบประมาณ) ในช่วงไตรมาสที่ 4 เกินดุล 54,860 ล้านบาท โดยรายได้ของกองทุนนอกงบประมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาได้รับเงินงบประมาณในไตรมาสดังกล่าว
โดยเกินดุลเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่เกินดุล 23,024 ล้านบาท
- เมื่อรวมดุลเงินงบประมาณและดุลบัญชีนอกงบประมาณโดยหักรายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศอีกจำนวน 111 ล้านบาทออกแล้ว ส่งผลให้ดุลการคลังรัฐบาลเกินดุลทั้งสิ้น 12,349
ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.1 ของ GDP ) ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วเกินดุล 20,080 ล้านบาท
(คิดเป็นร้อยละ 0.3 ของ GDP)
- ดุลการการคลังเบื้องต้น (Primary Balance) ในไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2550 เกินดุลทั้งสิ้น 49,580 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.6 ของ GDP) ในขณะเดียวกันปีที่แล้วเกินดุล 49,045 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.6 ของ GDP)
2. ฐานะการคลังตามระบบ สศค. ปีงบประมาณ 2550 (ตุลาคม 2549 — กันยายน 2550)
- รัฐบาลมีรายได้ทั้งสิ้น 1,477,117 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 17.6 ของ GDP) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 4.9 โดยรายได้ภาษีที่มีอัตราการจัดเก็บเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ได้แก่ ภาษีเบียร์ ภาษียาสูบ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีสุรา ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีธุรกิจเฉพาะ นอกจากนั้นการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจของปีงบประมาณ 2550
ก็สูงกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก
- ปีงบประมาณ 2550 เม็ดเงินจากงบประมาณได้ถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจทั้งสิ้น 1,588,927 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 18.9 ของ GDP) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้วร้อยละ 11.3
- ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 111,810 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.3 ของ GDP) ในขณะที่ปีที่แล้วขาดดุล 19,783 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.3 ของ GDP)
- รายจ่ายจากเงินกู้ต่างประเทศประกอบด้วย Project Loans และ Structural Adjustment Loans มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 1,091 ล้านบาท ในขณะที่ปีที่แล้วมีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 5,588 ล้านบาท เบิกจ่ายลดลง 4,497 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 80.5
- ดุลบัญชีนอกงบประมาณเกินดุล 110,175 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.3 ของ GDP) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่เกินดุล 91,419 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.2 ของ GDP)
- การขาดดุลเงินงบประมาณและการเกินดุลบัญชีนอกงบประมาณ เมื่อหักรายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศอีกจำนวน 1,091 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลการคลังรัฐบาลขาดดุลทั้งสิ้น 2,726
ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.03 ของ GDP) ในขณะที่ช่วงเดียวกันปีที่แล้วเกินดุล 66,047 ล้านบาท
(คิดเป็นร้อยละ 0.8 ของ GDP)
- ดุลการคลังเบื้องต้น (Primary Balance) ของปีงบประมาณ 2550 เกินดุลทั้งสิ้น 100,734 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.2 ของ GDP) ในขณะที่ปีที่แล้วเกินดุล 159,417 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 2.0 ของ GDP)
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 0 2273 9020 ต่อ 3555