กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากพายุเลกีมา ทำให้มีพื้นที่ประสบภัย 20 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 12 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยอีก 8 จังหวัด เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักของจังหวัดยังมีระดับสูง จึงเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งสูบน้ำออกนอกพื้นที่และสำรวจความเสียหาย ตลอดจนได้ประสานขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุใต้ฝุ่นเลกีมา ที่เคลื่อนตัวผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของประเทศ ทำให้มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 20 จังหวัด ใน 58 อำเภอ 174 ตำบล 769 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 202 หลัง พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 93,836 ไร่ และบ่อปลา 605 แห่ง ถูกน้ำท่วมเสียหาย เบื้องต้น กรม ปภ.ได้สำรวจไปยังจังหวัดต่างๆ พบว่า สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายแล้ว 12 จังหวัด แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังอีก 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ยังคงมีน้ำท่วมขังใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง หล่มสัก และบึงสามพัน เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำป่าสักสูงล้นไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร
ทำให้ทางหลวงหมายเลข 2181 ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 12 (ปากห้วยขอนแก่น-หล่มสัก) กม.5-6 มีน้ำท่วมสูง 0.50ม. ไม่สามารถเดินทางสัญจรได้ จึงขอให้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว โดยให้ใช้เส้นทาง ทช.บ้านไร่-ท่ามะกล้วย แทน จังหวัดพิษณุโลก น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตร 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง วังทอง ชาติตระการ บางกระทุ่ม วัดโบสถ์และบางระกำ จังหวัดพิจิตร น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ได้เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง วังทรายพูน สากเหล็ก และตะพานหิน จังหวัดขอนแก่น เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำจากแม่น้ำชีล้นเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแวงใหญ่และชนบท จังหวัดอุบลราชธานี น้ำจากแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลมีระดับสูงกว่า ทำให้ท่วมพื้นที่ราบลุ่มใน 2 อำเภอ ได้แก่อำเภอเขื่องใน และวารินชำราบ จังหวัดกาฬสินธุ์ น้ำจากเขื่อนลำปาวได้ล้นสปริลเวย์ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ลุ่มต่ำติดกับริมน้ำลำปาว 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ฆ้องชัย สามชัย หนองกุงศรี สหัสขันธ์ และยางตลาด รวมมีพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 16,538 ไร่ จากการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาวและปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บ มีแนวโน้มลงลดอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่า สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3-4 สัปดาห์ จังหวัดร้อยเอ็ด น้ำยังคงท่วมพื้นที่การเกษตรประมาณ 20,648 ไร่ ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงขวัญ โพธิ์ชัย ทุ่งเขาหลวง และเสลภูมิ โดยระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องหากไม่มีฝนตก คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติใน 5-6 วันนี้
จังหวัดมหาสารคาม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่การเกษตร 56,650 ไร่ ใน 4 อำเภอได้แก่อำเภอเมือง โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และเชียงยืน เนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำชีได้คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 วันนี้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรม ปภ. ได้สั่งการไปยัง ศูนย์ปภ.เขตและสนง.ปภ.จังหวัด รวมทั้งประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาด เครื่องอุปโภคบริโภค และถุงยังชีพ 19,242 ชุด อาหารกล่องและน้ำดื่ม 9,000 ชุด แจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัย รวมทั้งสนับสนุน เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ รถแบ็คโฮ รถยูนิม็อก 1 คัน รถบรรทุก 19 คันเรือท้องแบน 36 และเจ้าหน้าที่ 400 คน เข้าอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานและให้การช่วยเหลือ โดยด่วนต่อไป