กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--นานมีบุ๊คส์
หนังสือนิทานจัดเป็นสื่อการเรียนรู้ที่เปิดโลกจินตนาการของเด็กๆ ได้ดีที่สุด ส่วนนักเล่านิทานคนสำคัญจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากบุคคลใกล้ชิดอย่างผู้ปกครอง และคุณครู ซึ่งล้วนแล้วแต่ใช้นิทานเป็นตัวช่วยในการสร้างช่วงเวลาสุดอบอุ่นกระตุ้นจินตนาการของเด็กๆ อยู่เป็นประจำ แต่รู้หรือไม่ว่า หนังสือดีๆ หนึ่งเล่ม สามารถต่อยอดเป็นกิจกรรมเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและปลูกฝังเจตคติอันดีของเด็กได้มากกว่าที่คิด
เทศบาลตำบลบางเมือง จ.สมุทรปราการ จับมือ นานมีบุ๊คส์ พานักเรียนเปิดโลกการเรียนรู้นอกห้องเรียน จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการเรียนรู้จากหนังสือ เรื่อง "ใครอยากอาสา ไหนยกมือหน่อย" จากชุดนิทานรางวัลแว่นแก้ว ครั้งที่ 12 พานักเรียน ชั้นอนุบาล 1-3 จากโรงเรียนอนุบาลเทศบาลบางเมือง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลบางเมือง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กคลองบางปิ้ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กคลองมหาวงศ์ กว่า 266 คน มาฝึกทักษะความคิดทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ผ่านกิจกรรมการทดลองแบบ Hands-on แสนสนุก ณ ศูนย์การเรียนรู้นานมีบุ๊คส์เลิร์นนิงเซ็นเตอร์ ซอยสุขุมวิท 31
ภีมญารินทร์ จิตตาภิรักษ์ รักษาการผู้อำนวยการกองการศึกษา เผยว่า "หนังสือนิทานเสริมความรู้ของนานมีบุ๊คส์ มีเนื้อหา ความสนุก และตัวการ์ตูนที่จูงใจเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสอดแทรกความรู้ในหลากหลายสาขาวิชาที่ไม่น่าเบื่อ เพราะถ้าเรามุ่งเน้นในเรื่องของการสอนในห้องเรียนที่เป็นวิชาการจนเกินไป เด็กๆ จะไม่ให้ความสนใจ เพราะเขาอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการเล่น ฉะนั้นในกระบวนการเรียนรู้ จึงต้องใช้กิจกรรมสนุกๆ เพื่อให้เขาได้มีประสบการณ์จริง มากกว่าที่เรียนตามทฤษฎี และเขาก็จะจดจำได้ดีกว่าการเรียนจากตำราอย่างเดียว ดิฉันจึงอยากให้เด็กได้มาสัมผัสกับกิจกรรมการสอนจากหนังสือของที่นี่ เพราะเป็นองค์กรที่สามารถจัดกิจกรรมที่สอนให้เด็กๆ ได้นำไปใช้เป็นความรู้ ทั้งในชีวิตประจำวันและการเรียนหนังสือของเขาได้ดียิ่งขึ้น"
เริ่มต้นปลุกจินตนาการด้วยกิจกรรม การเล่านิทานเรื่อง ใครอยากอาสา ยกมือหน่อย! นำหุ่นมือกระดาษ ซึ่งประดิษฐ์ง่ายๆ ด้วยตัวเอง มาเป็นตัวละครเหล่าสัตว์โลกเพื่อนรัก มายกมืออาสาทำความดีตามความสามารถที่ตัวเองถนัด เพื่อปลูกฝังคุณธรรมในเรื่องการยอมรับความแตกต่าง และการมีน้ำใจต่อส่วนรวม ยกตัวอย่างเช่น คุณหมู มีความสามารถในการทำอาหาร ได้อาสาทำอาหารให้เพื่อนๆ ทาน หลังจากคุณหมูได้โชว์ฝีมือการทำอาหารสุดอร่อยกันไปแล้ว มาเปิดเวทีให้เด็กๆ ได้โชว์ฝีมือเชฟรุ่นจิ๋วกันบ้าง ในกิจกรรม การทำไอศครีมแบบโฮมเมด ด้วยอุปกรณ์หาง่ายใกล้ตัว โดยการนำ น้ำ และน้ำแข็ง มาใส่ในอ่าง ก่อนจะเหยาะเกลือลงไป แล้วจึงนำกระดาษหนังพิมพ์ขย้ำแล้วมาวางอีกชั้น ก่อนจะนำอ่างใส่น้ำผลไม้มาวางด้านบน แล้วใช้ไม้พายกวนน้ำผลไม้จดกระทั่งได้ไอศครีมแสนอร่อยสุดง่ายดาย ที่สามารถนำไปทำที่บ้านหรือที่โรงเรียนได้อีกด้วย ก่อนจะพาหนูๆ มาฝึกทักษะวิศวกรน้อย ร่วมกัน สร้างบ้านให้หนูนิด หนึ่งในตัวละครในนิทานที่รักการปลูกต้นไม้ แต่ว่าเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ทำให้บ้านของเธอพังทลายลง จึงต้องให้เด็กๆ อาสาช่วยกันสร้างบ้านของหนูนิดให้กับมาแข็งแรงอีกครั้ง โดยใช้สื่อ We play ชุดอุปกรณ์ที่ช่วยพัฒนาระบบรับความรู้สึก การทรงตัว และกระตุ้นประสาทสัมผัส จากศูนย์เสริมศักยภาพเด็กปฐมวัย ให้เด็กๆ ได้ช่วยกันก่อสร้างจนสมบูรณ์ และสนุกสนานกับผลงานของตัวเอง หลังจากนั้นจึงพากันไปหาคำตอบสุดฉงนใน ศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ Phanomenta ที่พัฒนามาจากประเทศเยอรมนี ประกอบไปด้วยสถานีการทดลอง 41 สถานีปริศนาชวนคิด อาทิ สถานี Sticky Air กาวอากาศ เมื่อมีอากาศไหลจากด้านบน เมื่อเรายกแผ่นโฟมทรงกลมแบน ขึ้นไปใกล้แรงปะทะของลม แทนที่โฟมจะหลุดลายออกไป แต่กลับถูกดูดขึ้นติดไปด้านบนอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นต้น เพียงเท่านี้ เด็กๆ จะได้รับประสบการณ์ตรงแบบ Hands-on กันอย่างเต็มอิ่มเลยทีเดียว
โดยวิทยากร อรทัย เฉลิมสินสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์การเรียนรู้ Nanmeebooks Learning Center ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์สำหรับเด็ก กล่าวว่า "เพราะเด็กเล็กจะอินกับการเรียนรู้ผ่านสื่อนิทานที่สุด ถ้าเราอยากสอดแทรกทักษะด้านองค์ความรู้และคุณธรรม การเลือกกิจกรรมที่จะนำมาเชื่อมโยง จึงต้องเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย ซึ่งต้องไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป เพื่อทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจที่ทำสิ่งนั้นสำเร็จ โดยเฉพาะสำหรับเด็กปฐมวัย ที่มีพัฒนาการที่สำคัญ 4 ด้าน คือ ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา อาทิ ด้านร่างกาย ยกตัวอย่างจากกิจกรรมสร้างบ้านให้หนูนิด เด็กๆ ได้เคลื่อนไหว ได้ช่วยกันยก และประกอบ สื่อ We play แล้วได้เล่นสื่อนั้น ได้ฝึกการทรงตัวบนเครื่องเล่นร่วมกัน หรือในด้านสังคม เช่นในระหว่างการทำไอศครีมแบบโฮมเมด เราจะให้เด็กๆ ทุกคนได้มีส่วนร่วม ตั้งแต่ขย้ำหนังสือพิมพ์ เทน้ำผลไม้ หรือช่วยกันกวนน้ำผลไม้ จนสำเร็จกลายเป็นไอศครีมในที่สุด ส่วนในศูนย์วิทยาศาสตร์ Phanomenta เราจะไม่เน้นให้ความรู้อย่างเดียว จึงจะเห็นได้ว่าที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศูนย์วิทยาศาสตร์ทั่วไป เพราะเราเน้นให้เขาได้ศึกษาจากปรากฏการณ์ จากความสงสัยใคร่รู้ในตอนนี้ ทำให้เขาไปต่อยอดสืบค้นสู่การเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเองค่ะ"
เพราะการผูกจินตนาการจากโลกนิทานกับกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กเล็ก ต้องกระตุ้นต่อม เอ๊ะ! และ อ๋อ! ต่อการมีประสบการณ์ร่วมกันกับหนังสือนิทานเล่มโปรด เพราะการเปิดโอกาสให้เด็กได้สร้างสร้างสรรค์ผลงาน ผ่านการลงมือทำด้วยตัวเอง ย่อมช่วยให้เด็กเกิดความเชื่อมั่น และภาคภูมิใจในความสำเร็จ เพื่อตอบสนองต่อการเรียนรู้ได้อย่างไม่จำกัด
สำหรับหน่วยงานหรือโรงเรียนที่ต้องการจัดค่ายและกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ให้เด็กๆ นอกห้องเรียน นานมีบุ๊คส์สามารถออกแบบค่ายและกิจกรรมในหลักสูตรที่เหมาะสมสำหรับเด็กทุกช่วงวัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2662-3000 ต่อ 5226, 4425, 4323 หรือ Call Center 02-662-3000 กด 1 และ www.nanmeebooks.com หรือ www.facebook.com/nanmeebooksfan