กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 26 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,343.90-1,357.11 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,200 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 130 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,330 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.28 น. ของวันที่ 26/01/61)
แนวโน้มวันที่ 29 มกราคม 2561
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวหลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ระบุว่า ต้องการให้เงินดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม โดยแถลงการณ์ของ นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB บ่งชี้ว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินยูโรเป็นที่มาของความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มเงินเฟ้อของยูโร จนสกุลเงินยูโรลดช่วงบวกลงและกระตุ้นแรงขายทองคำ อย่างไรก็ตามราคาทองคำพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ หลังจากแกว่งตัวผันผวน โดยนักลงทุนในตลาดบางส่วนไม่แน่ใจว่าความเห็นของปธน.ทรัมป์จะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มดอลลาร์ให้แข็งค่าจริงหรือไม่ ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการกีดกันการค้าของสหรัฐเป็นอีกปัจจัยที่กดดอลลาร์ให้ขยับขึ้นได้ไม่ไกล นอกจากนี้ บริษัทลิปเปอร์ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการด้านการวิจัย เปิดเผยว่า กองทุนที่ลงทุนในทองคำมีเงินลงทุนไหลเข้า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการไหลเข้าของเม็ดเงินจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2559 หลังนักลงทุนสนใจลงทุนทองคำจากหวังที่ว่าทองคำจะคงมูลค่าเมื่อดอลลาร์ไร้เสถียรภาพ ทั้งนี้ดอลลาร์ร่วงลง 5% นับจากวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่ม สำหรับคืนวันจันทร์แนะนำติดตามกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของเฟด การเปลี่ยนแปลงของตัวเลขนี้อาจจะเป็นปัจจัยที่กำหนดจังหวะความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำ นอกจากนี้แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน เพราะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องยังคงกดดันราคาทองคำในประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ปี 2555 และมีแนวโน้มปรับตัวแข็งค่าเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตามธนาคารแห่งประเทศไทยแสดงความกังวลว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วอาจกระทบเศรษฐกิจ และพร้อมเล็งทบทวนมาตรการป้องปรามค่าเงินบาทถ้าพบความผิดปกติ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าความผันผวนของราคาอาจลดลง ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวในกรอบ โดยพยายามพยุงตัวและพยายามตั้งฐาน ทั้งนี้หากราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับ นักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองคำเพื่อลงทุนระยะสั้นจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ซึ่งประเมินแนวรับที่ 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,366 หรือ 1,376 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,342 (19,850บาท) 1,331 (19,700บาท) 1,324 (19,600บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,250บาท) 1,376 (20,400บาท) 1,384 (20,550บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,342 (19,990บาท) 1,331 (19,830บาท) 1,324 (19,720บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,350บาท) 1,376 (20,500บาท) 1,384 (20,620บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999