กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนผู้ใช้รถระวังอันตรายแบตเตอรี่ระเบิดขณะเติมน้ำกลั่น หลีกเลี่ยงการทำให้เกิดประกายไฟ ห้ามสูบบุหรี่หรือใช้ไฟแช็กส่องดูระดับน้ำกลั่น ตลอดจนห้ามนำแบตเตอรี่ทุกชนิดไปเผาไฟโดยเด็ดขาดเพราะอาจเกิดการระเบิด ก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า หลายครั้งที่มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นในลักษณะที่ไม่คาดถึง ซึ่งเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุแบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด นับเป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับคนใช้รถที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้แบตเตอรี่รถยนต์ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากการทำปฏิกิริยาเคมีระหว่างน้ำกรดและแผ่นตะกั่ว ในแบตเตอรี่ ทำให้เกิดไอระเหยที่มีคุณสมบัติเป็นสารไวไฟใกล้เคียงกับน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อโดนประกายไฟอาจทำให้เกิดระเบิดและเพลิงลุกไหม้ได้ เวลาที่เติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่รถยนต์ ควรหลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมใดๆที่ทำให้เกิดประกายไฟขึ้นโดยเด็ดขาด เช่น การติดเครื่องยนต์ไว้ การสูบบุหรี่ การจุดไฟแช็ก เพื่อส่องดูระดับน้ำกลั่น ในแบตเตอรี่หรือขยับขั้วแบตเตอรี่ขณะที่เปิดฝาจุกไว้ เนื่องจากความร้อนและประกายไฟ จะทำให้เกิดการระเบิดขึ้นได้ รวมทั้งไม่ควรยื่นหน้าเข้าไปใกล้แบตเตอรี่ขณะที่เติมน้ำกลั่น เพราะน้ำกรดที่อยู่ภายในอาจกระเด็นถูกใบหน้า หรือนัยน์ตา ทำให้บาดเจ็บถึงขั้นตาบอดได้ ส่วนการรักษาสภาพแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้นาน ก่อนการสตาร์ทรถยนต์ทุกครั้งต้องปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าทุกชนิดก่อน เช่น แอร์ วิทยุ ไฟหน้ารถ หลังจาก ติดเครื่องยนต์ประมาณ 1 นาที ค่อยเปิดอุปกรณ์เหล่านี้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ สำหรับ การทำลายแบตเตอรี่ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือถ่านไฟฉาย ควรส่งคืน ให้ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะหรือทิ้งในจุดที่จัดไว้สำหรับรองรับขยะมีพิษ ห้ามเผาไฟโดยเด็ดขาดเพราะอาจเกิด การระเบิดจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้