กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 29 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,345.30-1,352.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,050 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,090 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,210 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.01 น. ของวันที่ 29/01/61)
แนวโน้มวันที่ 30 มกราคม 2561
ข้อมูลคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) รายงานว่า การเข้าซื้อสุทธิของนักเก็งกำไรในสัญญาล่วงหน้ายูโรต่อดอลลาร์ในชิคาโก เพิ่มสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่า อาจจะมีการทำกำไรต่อไป สอดคล้องกับ UBS Wealth Management ปรับเพิ่มคาดการณ์ 6 เดือนสำหรับยูโร สู่ 1.28 ดอลลาร์ จาก 1.22 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินปอนด์ปรับขึ้นต่อไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ท่ามกลางทัศนะแง่บวกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป ได้ส่งผลเชิงบวกต่อสกุลเงินยูโรและราคาทองคำเพิ่ม ทั้งนี้ สกุลเงินยูโรเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1.2536 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่ดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้เป็นธนาคารกลางเพียงแห่งเดียวที่คุมเข้มนโยบายการเงิน ในขณะที่ธนาคารกลางอื่นๆ กำลังคุมเข้มนโยบายการเงินในอัตราที่เร็วขึ้น เห็นได้จาก นายคลาส น็อต ผู้ว่าการธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์สนับสนุนให้ธนาคารกลางยุโรปควรยุติการเข้าซื้อสินทรัพย์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลปัจจุบันมีกำหนดสิ้นสุดลงในเดือนก.ย. อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำขยับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา เนื่องจากทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดความน่าสนใจลง เมื่อดัชนีหุ้นสำคัญของตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีททะยานสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย 3 ดัชนีสำคัญของตลาดหุ้นนิวยอร์กทำผลงานดีที่สุดติดต่อกัน 4 สัปดาห์นับตั้งแต่ปี 2559 โดยบริษัท 133 แห่ง ในดัชนี S&P500 ได้เผยรายงานผลประกอบการจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมาและร้อยละ 79.7% ทำผลงานเหนือความคาดหมาย สำหรับสัปดาห์นี้แนะนำติดตามการประชุมเฟดประจำวันที่ 30-31 ม.ค. เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาทองคำมีการอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือ 1,344-1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับตัวขึ้นได้ โดยประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้จะเกิดการย่อตัวเพื่อลงมาสร้างฐานอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ เบื้องต้นหากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่งแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร โดยแนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,344-1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวลงยังคงมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้ ทำให้มีโอกาสเห็นการขยับตัวขึ้น แต่หากราคาหลุดโซน 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไป ให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,331-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,366 หรือ 1,376 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,342 (19,900บาท) 1,331 (19,750บาท) 1,324 (19,600บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,300บาท) 1,376 (20,450บาท) 1,384 (20,550บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,342 (20,000บาท) 1,331 (19,840บาท) 1,324 (19,730บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,370บาท) 1,376 (20,520บาท) 1,384 (20,640บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999