กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็ก มองดัชนีตลาดหุ้นขานรับเศษฐกิจโตต่อเนื่องบวกนโยบายประธานาธิบดีสหรัฐประกาศแผนลงทุนสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ หนุนดัชนีกรอบดัชนี แกว่งตัวที่ระดับ 1,805 -1,855 จุด แนะ ORI คาดกำไร Q4/60 ทำนิวไฮ ลุ้นกลุ่มพลังงาน ชู PTTEP –PTTGC- IRPC ที่ได้รับอานิสงส์ราคาน้ำมันเดินหน้าทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี และ AMATA -WHA อานิสงส์ร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช. เดือนก.พ. ด้านราคาทองคำยังมีแนวโน้มขาขึ้นต่อไปในระยะกลาง จากนโยบายของสหรัฐฯต้องการให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าเพื่อให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แนะนำซื้อสะสม 1,325–1,365 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBSกล่าวว่าตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากตลาดคาดว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะประกาศแผนลงทุนสาธารณูปโภคขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐตามที่เคยรณรงค์หาเสียง คาดว่าโครงการลงทุนในสาธารณูปโภคจะมีวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลา 10 ปี ประกอบกับปัจัยบวกในปะเทศที่รัฐบาลมุ่งหวังให้โครงการอีอีซีเป็นสถานีเศรษฐกิจหลักของอาเซียนที่มีความได้เปรียบในเรื่องยุทธศาสตร์ที่ตั้งเตรียมใช้อำนาจ ม.44 ประกาศเขตส่งเสริมพื้นที่อุตสาหกรรมเพิ่มเติมอีก 18 เขต+1 นอกจากนี้ การเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนของรัฐวิสาหกิจเติบโตต่อเนื่อง 3 ปีติดต่อกัน โดยขยายตัวเฉลี่ย 10.4% ในช่วงปี 2558 - 2560 ซึ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมันปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
ส่วนปัจจัยที่มีผลลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะนี้มาจาก โรดแมพการเลือกตั้งในปี 2561 อาจเลื่อนออกไปเป็นปี 2562 และ fund flow ผันผวน มีซื้อสุทธิสลับขายสุทธิ 1 เดือนย้อนหลังขายสุทธิ 1 พันล้านบาท
โดยมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 30 ม.ค. (ตรงกับเวลาไทย 31 ม.ค. 9.00 น.) ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ทรัมป์แถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา อียู เปิดเผย ความเชื่อมั่นทางธุรกิจความเชื่อมั่นผู้บริโภคความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค. และตัวเลข GDP Q4/2560 วันที่ 31 ม.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมวันสุดท้ายและแถลงมติที่ประชุมเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มีกำหนดรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และในวันที่ 2 ก.พ. สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.หรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัดทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,805 -1,855 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ ORI กำไรไตรมาส 4/2560 มีแนวโน้มทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสจากการเริ่มโอนโครงการ Park 24 รวมทั้งโครงการของบริษัทเองที่เป็นคอนโดมินเนียมสร้างเสร็จและบ้านเดี่ยวที่เป็นไลน์สินค้าใหม่และมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในโครงการร่วมทุนกับโนมูระฯ รวมถึง PTTEP, PTTGC และ IRPC ที่ได้รับอานิสงส์ราคาน้ำมันเดินหน้าทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปีและAMATA และ WHA อานิสงส์ร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ราวเดือนก.พ.
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่าสกุลเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ตามการเก็งผลบวกจากการเปิดเผยแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่มูลค่าราว 2 แสนล้านเหรียญในช่วงระยะเวลา 10 ปีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ราคาทองคำลดระดับลงมาพักตัว แต่ยังคงแนวโน้มขาขึ้นต่อไปในระยะกลาง เนื่องจากแนวนโยบายของสหรัฐฯต้องการให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าเพื่อให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ คาดการณ์กรอบรายสัปดาห์ระหว่าง 1,325–1,365 ดอลลาร์ แนวโน้มขาขึ้นต่อไปในระยะกลาง เนื่องจากแนวนโยบายของสหรัฐฯต้องการให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าเพื่อให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ คาดการณ์กรอบรายสัปดาห์ระหว่าง 1,325–1,365ดอลลาร์ ให้คำแนะนำซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัวสำหรับพอร์ตระยะกลางถึงยาว และเล่นรอบแบบปิดทำกำไรเร็วผ่าน Gold-Dสำหรับพอร์ตระยะสั้นหรือเน้นเก็งกำไร เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน