MINT เข้าถือหุ้น 50% ใน The Coffee Club

ข่าวทั่วไป Tuesday October 16, 2007 10:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) ประกาศแผนการเข้าซื้อเงินลงทุนใน คอฟฟี่ คลับ โฮลดิ้ง
(The Coffee Club) ในสัดส่วนร้อยละ 50 คิดเป็นมูลค่าการลงทุนในเบื้องต้นจำนวน 23 ล้านเหรียญออสเตรเลีย และอาจจะมี
การจ่ายเงินลงทุนเพิ่มเติมตามผลการดำเนินงานของ The Coffee Club ในช่วงสองปีข้างหน้า ปัจจุบัน The Coffee Club เป็น
บริษัทผู้นำในธุรกิจอาหารและธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารและกาแฟที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งใน
ประเทศออสเตรเลีย โดยมียอดขายรวม 145 ล้านเหรียญออสเตรเลีย และมีสาขาร้านอาหารภายใต้แบรนด์ The Coffee Club
ซึ่งเป็นแบรนด์ของตนเองในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มากกว่า 180 สาขา ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์
The Coffee Club ทั้ง 3 ท่าน ยังคงถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 50 และยังคงเป็นผู้บริหารกิจการต่อไป โดยที่ MINT จะเข้าไป
มีส่วนร่วมกับผู้บริหารในการสนันสนุนการขยายธุรกิจภายใต้แบรนด์ The Coffee Club ทั้งภายในประเทศออสเตรเลียและใน
ระดับสากล ซึ่งธุรกรรมการเข้าซื้อเงินลงทุนดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการตามธรรมเนียมปฏิบัติของการ
ตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้
การลงทุนใน The Coffee Club ครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นก้าวหนึ่งของ MINT ในการได้มาซึ่งแบรนด์ที่มีการบริหารจัดการที่ดี โดย
เป็นการเข้าลงทุนในแบรนด์มีขนาดใหญ่เพียงพอ อยู่ในตลาดที่มีการเติบสูง และมีศักยภาพในการขยายธุรกิจออกไปในระดับ
สากลผ่านโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ Asset Light ของ MINT โดยที่ The
Coffee Club เป็นผู้นำในธุรกิจร้านอาหารในประเทศออสเตรเลียซึ่งให้บริการร้านอาหารเต็มรูปแบบ กล่าวคือ มีการให้บริการ
อาหารเช้า (Breakfast) อาหารกลางวัน (Lunch) และอาหารเย็น (Dinner) โดยมีจุดแข็งที่สำคัญคือ ธุรกิจกาแฟ ในแต่ละปีมี
การขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 25 สาขาต่อปี และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีสาขาในประเทศออสเตรเลียทั้งสิ้น 300 สาขา
ประกอบกับปัจจุบัน The Coffee Club ประสบความสำเร็จในประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีสาขากว่า 10 สาขา และมีการจด
ทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้วมากกว่า 12 ประเทศ และ MINT ได้วางแผนที่จะขยายแบรนด์ The Coffee Club ออกไปใน
ระดับสากล ภายใต้ระบบและโครงข่ายร้านอาหารในประเทศต่าง ๆ ของบริษัทที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน
MINT มีความยินดีที่ได้นำแบรนด์ The Coffee Club เข้ามาเพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการภายใต้แบรนด์ซึ่ง
MINT มีอยู่แล้ว อาทิ พิซซ่า ไอศครีม สเต็ก และแฮมเบอร์เกอร์ และทำให้จำนวนสาขาแฟรนไชส์ร้านอาหารของบริษัท
เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด กล่าวคือ จาก 107 สาขาเป็น 287 สาขา หรือ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33 ของจำนวนสาขาร้านอาหาร
รวมของบริษัท และการที่ MINT มีแผนขยายสาขาร้านอาหารภายใต้แบรนด์ เดอะพิซซ่า และสเวนเซ่นส์ออกไปสู่สากลนั้น มี
ส่วนสนับสนุนการขยายตัวและการพัฒนาแบรนด์ The Coffee Club เพื่อเข้าสู่ตลาดในประเทศที่เป็นฐานการดำเนินธุรกิจของ
MINT ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
The Coffee Club ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1989 ในเมืองบริสเบรน ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 180 สาขา ในทุกๆ รัฐของประเทศ
ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ภายใต้แบรนด์ The Coffee Club ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟของตนเอง และเป็นบริษัทผู้นำในธุรกิจ
อาหารและธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารและกาแฟ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย โดย
มียอดขายรวม 145 ล้านเหรียญออสเตรเลีย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.coffeeclub.com.au
บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) เป็นบริษัทผู้นำในธุรกิจอาหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ
ประกอบไปด้วยร้านอาหารจำนวนสาขากว่า 650 สาขา ภายใต้เครื่องหมายการค้า เดอะพิซซ่า สเวนเซ่นส์ ซิซซ์เลอร์ แดรี่ควีน
เบอร์เกอร์คิง และเลอแจ๊ซ อีกทั้งยังเป็นผู้นำในธุรกิจโรงแรมซึ่งประกอบด้วย 15 โรงแรม และห้องพักประมาณ 2,300 ห้อง
ภายใต้เครื่องหมายการค้า แมริออทส์ โฟร์ซีซั่นส์ อนันตรา และในเครือไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล ทั้งในประเทศไทย มัล
ดีฟส์ และเวียดนาม ในขณะเดียวกันบริษัทเป็นพันธมิตรกับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมลงทุนในการสร้าง Marriott
Vacation Club Time Share ที่ภูเก็ต จำนวน 144 ห้อง นอกจากนี้ MINT ยังเป็นผู้ให้บริการด้านสปาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค
เอเชียแปซิฟิค โดยมีสถานบริการมากกว่า 23 แห่ง ในประเทศไทย จีน และประเทศแถบตะวันออกกลาง ภายใต้เครื่องหมาย
การค้ามันดารา เดอะ สปา และอนันตรา รายละเอียดเพิ่มเติมเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.minornet.com
Press Contacts: Pratana Manomaiphiboon / Prapharat Tangkawattana / Jim Fralick at Tel: (662) 381-5151

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ