กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 30 มกราคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,333.80-1,342.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,010 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 110 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,120 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.18 น. ของวันที่ 30/01/61)
แนวโน้มวันที่ 31 มกราคม 2561
การปรับตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ เป็นแรงหนุนดอลลาร์ให้ฟื้นตัวขึ้น จนกดดันราคาทองคำ ทั้งนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี แตะจุดสูงสุดที่ 2.733% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2557 ได้สะท้อนทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยจึงถูกลดความน่าสนใจลง นอกจากนี้นักลงทุนในตลาดทองคำจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) แม้คาดการณ์ว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่หลังการเปิดเผยรายงาน GDP ที่แข็งแกร่ง นักเศรษฐศาสตร์บางรายคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจเมื่อเสร็จสิ้นการประชุมกำหนดนโยบายในวันพุธ ปัจจัยดังกล่าวอาจจะเพิ่มความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง จากก่อนหน้านี้เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2561 ประเด็นดังกล่าวยังคงสร้างแรงกดดันราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งนักลงทุนระมัดระวังในการเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม ก่อนการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา (State of the Union) ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในช่วงเช้าของวันพุธนี้ เวลาประมาณ 09.00 น.ตามเวลาไทย คาดว่าปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยรายละเอียดแผนการฟื้นฟูสาธารณูปโภคของประเทศ โดยเขากล่าวในวันพุธที่ผ่านมาว่า แผนของเขาจะส่งผลให้มีการลงทุนโดยรวมราว 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งมากกว่าที่เขาได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ปธน.ทรัมป์อาจจะกล่าวถึงข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ซึ่งหากส่งผลบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐก็จะส่งผลลบต่อแนวโน้มราคาทองคำและจะกระตุ้นแรงขายให้เพิ่มขึ้นเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น เบื้องต้นยังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,351 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยเสี่ยงขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้านที่ 1,351 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ซื้อคืนเพื่อทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลง ในระยะสั้นราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในกรอบหากราคาสามารถการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้เกิดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่ไม่มีทองคำในมือ ให้เข้าซื้อเมื่อราคาราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,331 หรือ 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,331 (19,800บาท) 1,324 (19,700บาท) 1,313 (19,500บาท)
แนวต้าน 1,351 (20,150บาท) 1,366 (20,350บาท) 1,376 (20,500บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,331 (19,940บาท) 1,324 (19,830บาท) 1,313 (19,670บาท)
แนวต้าน 1,351 (20,240บาท) 1,366 (20,470บาท) 1,376 (20,620บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999