กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่มบริษัทเอเซีย พลัส เผยแผนธุรกิจและกลยุทธ์ปี 2561 จะรุกธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง ได้แก่ บริหารสินทรัพย์ ธุรกิจกองทุนรวม บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ และการลงทุนโดยเงินทุนของบริษัท ขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจแกนหลัก ซึ่งเป็นฐานรายได้ที่สำคัญของบริษัท โดยตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ 19%
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และประธานกรรมการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ กลุ่มบริษัทเอเซีย พลัส ยังคงมุ่งเน้นการกระจายรายได้ และรักษาความต่อเนื่องของการเติบโตของรายได้ โดย 4 ธุรกิจแกนหลัก ได้แก่ บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์ และบริการวาณิชธนกิจ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่อีก 4 ธุรกิจ ได้แก่ บริการบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจกองทุนรวม บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ และการลงทุนโดยเงินทุนของบริษัทนั้น จะรุกตลาดมากขึ้น เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตสูง
"ปีนี้เรายังให้ความสำคัญกับทุกธุรกิจ ธุรกิจแกนหลักก็ยังโต แต่ที่เราจะรุก 4 ธุรกิจดังกล่าวมากขึ้น เพราะเราเห็นโอกาสการเติบโตยังสูงมากในปีนี้ ซึ่งโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว จะเห็นว่าปี 2560 อัตราการเติบโตของ 4 ธุรกิจนี้ โตสูงกว่าเป้าหมายที่เราวางไว้มาก" ดร.ก้องเกียรติ กล่าว
ในปี 2560 ที่ผ่านมา ธุรกิจบริการบริหารสินทรัพย์ ขยายตัวในอัตรา 31%, ธุรกิจกองทุนรวม ขยายตัว 78%, บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ขยายตัว 159%, การลงทุนโดยเงินทุนของบริษัท ขยายตัว 99% ซึ่งส่วนใหญ่สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 19% จากปี 2560 ส่วนธุรกิจบริหารสินทรัพย์, ธุรกิจกองทุนรวม, บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ, การลงทุนโดยเงินทุนของบริษัท คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 30%
ดร.ก้องเกียรติ กล่าวถึงกลยุทธ์หลักที่จะใช้ขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2561 ว่า จะสานต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบสนองนักลงทุนให้ดียิ่งขึ้น พัฒนาเทคโนโลยี เครื่องมือการลงทุน และส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่ลูกค้าและนักลงทุนทั่วไป กระจายรายได้บริหารความเสี่ยง โดยเน้นการเติบโตในธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง ขณะเดียวกันก็จะพยายามรักษาการเติบโตของธุรกิจอื่นควบคู่กันไปด้วย
ดร.ก้องเกียรติ กล่าวว่า หลักสำคัญของการกระจายรายได้และบริหารความเสี่ยง คือต้องลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และต้องลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (Multi-Products) เพราะช่วยลดความเสี่ยงให้ลูกค้าได้ในยามที่ตลาดหุ้นไทยผันผวน ซึ่งจะเห็นว่าในปีที่แล้ว กลุ่มเอเซีย พลัส แนะนำแนวคิดการลงทุนดังกล่าวให้กับลูกค้ามาโดยตลอด เช่น การลงทุนใน FCN ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ เช่น ในปีที่ผ่านมา กองทุน ASP-CHINA ของ บลจ.แอสเซส พลัส ให้ผลตอบแทนสูงถึง 51.17% ต่อปี (ข้อมูล ณ 31 ธ.ค. 2560)* ส่วนไพรเวท ฟันด์ มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ก็เพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 59
ดร.ก้องเกียรติ กล่าวว่า ในปีนี้มองว่าการลงทุนในต่างประเทศยังสดใส เชื่อว่าธุรกิจการลงทุนโดยเงินทุนของบริษัทยังเติบโตดีต่อเนื่อง ประเทศที่น่าลงทุน เช่น สหรัฐฯ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เวียดนาม และอิสราเอล เป็นต้น ซึ่งช่วงที่ผ่านมา เอเซีย พลัส เข้าไปลงทุนทั้งในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาด รวมถึงธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนทั้ง Private Equity (PE) และ Venture Capital (VC)
ในปีนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องมือการลงทุน โดยมีแผนจะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ที่รองรับการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชัน ASP SMART รวมทั้งเปิดตัวระบบออนไลน์ เพื่อช่วยการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนสำหรับกลุ่มลูกค้าเวลธ์ จากปีที่ผ่านมาก็ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ Fixed Income เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ต้องการซื้อขายตราสารหนี้ และยังพัฒนาฟังก์ชั่นการตอบคำถามให้ข้อมูลหลักทรัพย์และการลงทุนผ่านระบบโรโบติกส์
นอกจากนี้ ยังพัฒนาการสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊คมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560 ตัวเลขผู้ติดตามเพจเพิ่มขึ้นถึง 13% มาอยู่ที่กว่า 80,000 คน เมื่อเทียบกับปี 59 โดยกลุ่มผู้ติดตามเพจเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว ถือเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเอเซีย พลัส เพราะจากตัวเลขของตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่ามีลูกค้ากลุ่มนี้ถึง 68% ของบัญชีที่เปิดใหม่ในปีที่ผ่านมา และในจำนวนนี้มี 40% เป็นบัญชีที่แอคทีฟ
ในปีนี้ เอเซีย พลัส จะเปิดโครงการให้ความรู้สอนทายาทลูกค้า Future Generation Wealth Program รุ่นที่สอง ซึ่งยังมุ่งเน้นให้ความรู้การลงทุนที่ถูกต้อง หลังจากได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากรุ่นที่หนึ่งในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นให้ความรู้ทางการลงทุน ผลิตภัณฑ์ทางการเงินแก่ผู้ลงทุน ลูกค้า และพนักงานเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบัน โดยเอเซีย พลัส ให้ความสำคัญต่อการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนในรูปแบบต่างๆ จึงพร้อมเป็นผู้นำในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ มาสู่ผู้ลงทุนไทย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจของบริษัท Value Beyond Wealth ที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าที่มากกว่าความมั่งคั่งจากการลงทุน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน