กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--IR network
บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง กลับเข้ามาเทรดวันแรก เปิดตลาดที่ 15.40 บาท/หุ้น ผู้บริหารระบุ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นธุรกิจยังสดใส ผลประกอบการโตต่อเนื่อง และความต้องการใช้ก๊าซ LPG ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม หนุนตลาดก๊าซ LPG กลับมาคึกคัก
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (WP) หลังกลับเข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันแรก (1 ก.พ. 2561) เปิดตลาดที่ 15.40 บาท/หุ้น ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายปรับตัวสูงสุดที่ 16.20 บาท/หุ้น และปิดตลาดที่ 12.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,484.69 ล้านบาท
นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง ประธานกรรมการบริหาร และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP กล่าวว่าต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับการกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของหุ้น WP อย่างคึกคัก หลังจากผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการ และการปรับโครงสร้างธุรกิจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมั่นใจว่าด้วยศักยภาพความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้เครื่องหมายการค้า "เวิลด์แก๊ส" เป็นเวลากว่า 38 ปี และอุตสาหกรรมยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากตามความต้องการใช้ LPG ที่เพิ่มขึ้น เมื่อผนวกเข้ากับรายได้และกำไรที่เติบโตในช่วงที่ผ่านมาและในอนาคต เชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว และจะเป็นหุ้นอีกหนึ่งบริษัทที่มีการเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ
"ที่ผ่านมาทีมผู้บริหาร มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะบริหารธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีความมั่นคง โดยเชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้หุ้น WP ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่นในครั้งนี้ เป็นเพราะบริษัทฯมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น มีแผนธุรกิจและทิศทางการเติบโตชัดเจน ซึ่งถือเป็นการเปิดการซื้อขายวันแรกได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ผมในฐานะผู้บริหารจะตั้งใจทำงานและผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งในส่วนของกำไรและรายได้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ให้การไว้วางใจ WP ตลอดมา "นายกนกศักดิ์ กล่าว
เขากล่าวต่อถึงภาพรวมธุรกิจของ WP ในปี 2561 นี้คาดจะมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือความต้องการใช้ LPG ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะทำให้ตลาดก๊าซ LPG กลับมาคึกคักได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ WP ยังมีโครงการที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแผนสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการใช้ก๊าซที่ครอบคลุมทั่วประเทศจากปัจจุบันมีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่อำเภอบางปะกง แบ่งเป็น 2 เฟส (อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 1 เฟส),จังหวัดขอนแก่น ที่อำเภอบ้านแฮด 1 แห่ง และที่อำเภอท่าพระ 1 แห่ง, จังหวัดสมุทรสงคราม ที่อำเภอบางจะเกร็ง 1 แห่ง และที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง 1 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมฐานลูกค้าทุกภาคธุรกิจ อันได้แก่ สถานีบริการก๊าซ LPG,โรงบรรจุก๊าซ,ร้านค้าก๊าซ,กลุ่มพาณิชยกรรม และกลุ่มอุตสาหกรรม โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวของประเทศ และ มุ่งเน้นการขยายตลาดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น