กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--นิปปอน คอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลท์ติ้งค์
- รายการร้องเพลง, เดินแบบ ฯลฯ มีเยอะแล้ว ขอพื้นที่ให้เหล่านักมวยบ้าง
- เปิดตัว 4 โค้ชงานดี เลือกเอาว่าจะอยู่ทีมใคร??
- เป็นกำลังใจให้หนุ่มๆ โชว์ความแมน มาแข่งกันเยอะๆ
- ดราม่านักมวย เป็นไง ไม่เคยเห็น เตรียมชมเต็มๆ ที่นี่
โอกาสทองของเหล่าบุรุษที่ชื่นชอบเรื่องหมัดๆ มวยๆ เพราะ บริษัท เอ เอ็ม ที 888 กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ สถาบันการพลศึกษา และ คณะศึกษาศาสตร์ และ พัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เตรียมจัดการแข่งขัน "อะเมซิ่งมวยไทยแชมป์เปี้ยน 2018 " เรียลลิตี้ค้นหาสุดยอดนักมวยไทย เน้นการต่อสู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยอย่างแท้จริงและถูกต้อง โดยจะเนรมิตลานพาร์คพารากอนเป็นแคมป์ฝึกมวยกลางกรุงฯ ตลอด 7 วัน เพื่อเผยแพร่ทักษะมวยไทยขั้นสูง รวมถึงอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมด้านการต่อสู้ของชาติให้ชาวโลกทั่วไปได้ประจักษ์ ภายในแคมป์ฝึกมวยหรูกลางกรุง เชิญ 4 ฮีโร่ขวัญใจชาวไทย อย่าง คุณสามารถ พยัคฆ์อรุณ, คุณเจริญทอง เกียรติบ้านช่อง, คุณสมรักษ์ คำสิงห์, คุณขาวผ่อง สิทธิชูชัย ร่วมเป็นโค้ช เทรนด์เด็กในสังกัดให้ต่อสู้ ชิงอันดับ 1 สุดยอดเจ้าสังเวียน พร้อมด้วยครูมวยผู้คร่ำหวอดและปั้นนักมวยขึ้นสังเวียนมาแล้วมากมายอย่าง ผุดผาดน้อย วรวุฒิ ตอบรับเป็นครูใหญ่ประจำแคมป์ฯ
"ปัจจุบันมีเวทีมวยไทยเกิดขึ้นมากมาย โดยมากมุ่งเน้นแข่งขันหรือเพื่อความบันเทิง ไม่ได้สนใจท่าทางที่ถูกต้องอีกทั้งยังมีแม่ไม้มวยไทยอีกหลายท่าที่ไม่ได้นำมาใช้ ต้องใช้ทักษะการฝึกฝนขั้นสูง" ในนามครูใหญ่ของแคมป์ฯ ประจำรายการ ผุดผาดน้อย เผยถึงจุดเด่นของเวที สำทับว่านี่เป็นโอกาสทองของคนที่รักในศิลปะมวยไทยและเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่คนทั่วไปจะได้เห็นการฝึกซ้อมของเหล่านักมวย จากที่เจอพวกเขาบนสังเวียน นั่นคือเบื้องหน้า ซึ่งความโหดไม่ได้เสี้ยวของการซ้อมในแต่ละวัน
แม้ความเจ็บปวดจะเป็นความบันเทิง ทว่าเป็นศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายหัวใจนักสู้ การได้ขึ้นชกกับนักมวยดีกรีแชมป์ ภาษีดีกว่า นับเป็นเกียรติและโอกาสครั้งสำคัญ มากไปกว่านั้นคนเป็นนักมวยในสายเลือดจริงๆ "ยิ่งต่อย ยิ่งรักกัน" หลักฐานเห็นชัดจากงานแถลงข่าวภาพ 4 โค้ชนักมวย ที่หวนกลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบหลายสิบปี ในอดีตบางคนเคยขึ้นชกกันแล้ว และจำรอยรักแรงแค้นกันได้ มาวันนี้พ่อพัก แต่ก็อยากมีนัดล้างตา และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในรายการ "อะเมซิ่งมวยไทยแชมป์เปี้ยน 2018 " อนุรักษ์มวยไทยให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก ต่างชาติได้ทึ่ง นอกจากเตรียมถ่ายทอดเทคนิคเชิงมวยแบบไม่อั้นแล้ว ยังประกาศหาลูกศิษย์มาสมัครแข่งขันในรายการฯ ด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจ ขออนุญาตนำประวัติโค้ชทุกท่านมาลง พร้อมดีกรีเชิงมวยที่แฟนมวยหลายคนคิดถึง
บู๊หนัก บุกแรง สเปคมวยดุ ใจสู้
หลายคนอาจยังเกิดไม่ทัน แต่หลายท่านย่อมต้องรู้จักเขาดี กับ 'ครูขาวผ่อง สิทธิชูชัย 'ชื่อจริงคือ 'ทวี อัมพรมหา' เป็นนักมวยชาวไทยคนแรกที่ได้เหรียญเงินโอลิมปิก เมื่อปี พ.ศ. 2527 ด้วยสไตล์บู๊หนัก บุกแรง ชื่อ 'ขาวผ่อง' โดดเด่นเพราะมีแต่คนอยากเห็นตัวนัก ตัวจริง ผิวเข้ม เป็นมวยน้ำเค็ม เมืองระยอง เริ่มชกมวยไทยตั้งแต่อายุ 15 ตั้งแต่ก็ออกอาวุธได้ทุกอย่าง มัด เท้า เข่า ศอก ออกคล่อง เน้นหนัก สมัยหนุ่มๆ โยนเข่าทีคู่ชกมีตัวลอย ช่วงหลังผันมาชกมวยสากล และสร้างชื่อเป็นอย่างมาก เป็นนักมวยคนแรกที่ทำให้ชาวไทยได้เฮลั่น นัดชิงโอลิมปิกปีนั้นที่ขึ้นชกกับนักชกอเมริกัน "เจอร์รี่ เพจ" นิตยสาร Sport Illustrated ถึงกับบอกว่าเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวที่ดุเดือดที่สุดของโอลิมปิกปี 1984 เลยทีเดียว ที่สุดถึงแม้ว่าขาวผ่องจะแพ้เจอร์รี่ไป แต่ขาวผ่องก็สู้ยิบตาจนชนะใจคนไทยมาตลอดสามสิบกว่าปี
พูดน้อย แม่ไม้หนักทุกดอก เน้นชั้นเชิง
ตำนาน "ครูเป็ด" เจริญทอง พูดน้อย แต่แม่ไม้หนักทุกดอก มาทำความรู้จักกับ "ครูเป็ด" เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง ที่นอกจากเป็นน้องเล็กสุดในบรรดาครูมวยของการแข่งขันแล้ว ครูเป็ดยังเป็นลูกคนที่ 7 ในครอบครัวใหญ่พี่น้อง 9 คน ซึ่งพี่ ๆ น้องในบ้านหลายคนก็ชึ้นชกมวยไทย เรียกว่าบ้านนี้เป็นบ้านมวยไทยอย่างแท้จริง เจริญทอง ชกมวยไทยครั้งแรกเมื่ออายุ 12 ขวบ ได้เงินค่าตัวครั้งแรกมา 100 บาท ต่อมาเมื่อมาเรียนต่อในกรุงเทพมหานคร ก็ยังคงชกมวยจนได้เข้าสังกัด หลังจากนั้นก็ชกสั่งสมชื่อเสียงมาเรื่อย ๆ จนคว้าแชมป์ได้ 3 รุ่น ได้แก่ จูเนียร์แบนตั้มเวท (115 ปอนด์), เฟเธอร์เวท (126 ปอนด์), ไลท์เวท (135 ปอนด์) ซึ่งทั้งหมดเป็นแชมป์ของสนามมวยเวทีลุมพินี นอกจากนี้แล้วยังเคยชกมวยสากลสมัครเล่นจนติดทีมชาติในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ในรายการคิงส์คัพ และชกในกีฬาเอเชียนเกมส์ พ.ศ. 2533 ที่ประเทศจีนด้วย ในการขึ้นชกของเจริญทอง คนดูต่างรู้ดีว่าเจริญทอง เป็นนักชกที่ ลีลา และ ท่าทางสวยงามมาก เป็นยอดมวยใต้อีกคนที่แฟนมวยชื่นชอบในยุคนั้น และยกให้เขาเป็นยอดมวยเหลี่ยมเชิงชั้นเซียน
อ่อนช้อยแต่รุนแรง สวยงามและมีสมอง เน้นมวยฉลาด
"รู้จักครูสามารถ มวยหล่อ เชิงดี มีเสน่ห์ (มาตั้งแต่หนุ่ม)" เมื่อพูดถึงลีลาโยกหลบที่จัดจ้านของนักมวยสัญชาติไทย ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศต้องรู้จักกันดีกับ สามารถ พยัคฆ์อรุณ แชมป์โลกมวยสากลอาชีพคนที่ 10 ของไทย และอดีตยอดนักมวยไทยชื่อดัง เดิมแล้ว 'สามารถ' มีชื่อจริงว่า 'สามารถ ทิพย์ท่าไม้' หัดชกมวยไทยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ โดยใช้ชื่อว่า "สามารถ ลูกคลองเขต" โดยสามารถชกมวยไทยครั้งแรกที่จังหวัดชลบุรีเมื่อปี พ.ศ. 2517 จากนั้นตระเวนชกในแถบจังหวัดภาคตะวันออกถึงร้อยกว่าครั้ง จึงได้เดินทางมาชกในกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2522 ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี
โดยเขาถือเป็นนักมวยชั้นเชิงแพรวพราว สายตาดี ชกได้สนุก ชนะใจคนดู และประสบความสำเร็จอย่างมากในการชกมวยไทย โดยได้แชมป์ของสนามมวยเวทีลุมพินีถึง 4 รุ่นด้วยกัน ก่อนเบนเข้าสู่เส้นทางมวยสากลอาชีพ ในปี พ.ศ. 2526 จนสามารถชนะน็อกแชมป์โลก ชาวเม็กซิกัน กัวดาลูเป้ พินเธอร์ จนกลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 10 ของไทย จากนั้นจึงชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกอีกครั้ง กับ ฮวน คิด เมซ่า นักมวยชาวเม็กซิกัน ในปี พ.ศ. 2529 ผลปรากฏว่า สามารถก็เอาชนะน็อกไปในยกที่ 12 การชกกับฮวน คิด เมซ่า และการชกครั้งนี้ได้รับการกล่าวขานถึงเป็นอย่างมาก เพราะสามารถพิงเชือกโยกหลบหมัดของผู้ท้าชิงด้วยสายตาอันว่องไวนับสิบ ๆ หมัด (ประมาณกันว่า 20 หมัด) และชกสวนหมัดตรงเข้าปลายคางไปเพียงหมัดเดียว ก็เอาชนะน็อกผู้ท้าชิงไปได้อย่างน่าตะลึง!
อัจฉริยะด้วยฝีมือแม่ไม้มวยไทยที่แพรวพราว ขอมวยหล่อ
สมรักษ์ คำสิงห์ ชื่อนี้ชาวไทยรู้จักกันดีในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลเหรียญทองโอลิมปิก ย้อนเวลากลับไปด้วยวัยเด็ก เหตุที่สมรักษ์มีพ่อเป็นนักมวยเก่า จึงได้รับการฝึกการชกมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก ขึ้นชกมวยครั้งแรกขณะอายุได้ 7 ขวบ ฉายาในวงการมวยไทยคือ ""พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ" ผู้ได้ตระเวนชกตามเวทีต่าง ๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอัจฉริยะด้วยฝีมือแม่ไม้มวยไทยที่แพรวพราว ก่อนจะเริ่มเข้าแข่งขันมวยสาก สมัครเล่นในนามของโรงเรียน เมื่อปี พ.ศ. 2528 เมื่ออายุ 12 ปี และขึ้นชกสลับกับการขึ้นชกมวยไทย
จนปี พ.ศ. 2538 ภายหลังสมรักษ์ได้เหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ที่เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรอบสุดท้าย สมรักษ์ได้ฝ่าฟันคู่ต่อจากเปอร์โตริโก แอฟริกาใต้ รัสเซีย และอาร์เจนตินามาแบบไม่ยากเย็นนักด้วยลีลาการชกที่เหนือชั้นและเฉพาะตัว ก่อนสุดท้ายไปพบกับคู่ต่อสู้สุดแกร่งตัวเก็งเหรียญทองจากบัลแกเรีย "เซราฟิม โทโดรอฟ" (Serafim Todorov) แชมป์โลกมวยสมัครเล่น 3 สมัย แต่แล้วในนัดชิงชระเลิศ สมรักษ์ถูกทำคะแนนนำไปก่อน แต่เขาก็สามารถกลับมาแซงได้ก่อนจบยกแรกสร้างความหวาดเสียวให้กับพี่น้องชาวไทย โดยสมรักษ์รักษาระยะห่างคะแนนไว้ได้จนจบการแข่งขันสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองในระดับโอลิมปิก โดยชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ นักชกจากบัลแกเรีย ด้วยคะแนน 8-5 และสามารถเรียกเสียงเฮโห่ร้องดีใจให้ดังขึ้นมาจากทุกบ้านเรือนในประเทศไทยที่กำลังดูถ่ายทอดสดการแข่งขันอยู่ ณ ตอนนั้น
ท้ายสุด คุณพีรธัช สุขพงษ์ ประธานกรรรมการบริหาร บริษัท เอ เอ็ม ที 888 กรุ๊ป จำกัด เผยถึงความพิเศษของเรียลลิตี้ครั้งนี้ ผู้ชมจะได้ความรู้เรื่องมวยไทย ศิลปะการต่อสู้ที่มีแบบแผนและเครื่องแต่งกายเฉพาะ โดยนอกเหนือจากแม่ไม้มวยไทยที่ถูกต้องและงดงาม ส่วนหนึ่งอยู่คู่กับศิลปะมวยไทยก็คือ 'การแต่งกายของนักมวย' ที่สวมใส่ในการขึ้นชกต่อสู้กัน ถึงแม้ว่ายุคปัจจุบันนั้นการแต่งกายของนักมวยไทยที่เป็นที่นิยมนั้นจะมีภาพลักษณ์ที่ชินตานั้นจะประกอบไปด้วย กางเกงมวย และนวมสีน้ำเงิน-แดง พร้อมสวมนวมชกมวยอย่างถูกต้องถามหลักสากลแล้วก็ตาม แต่การแต่งกายมวยไทยในปัจจุบัน จะยังคงมีองค์ประกอบบางสิ่งที่คล้ายกับมวยไทยสมัยโบราณ คือ มีส่วนที่เป็นเสื้อผ้าและอุปกรณ์การป้องกันร่างกาย กับส่วนที่เป็นเครื่องรางของขลัง โดยเครื่องรางของขลังที่นักมวยไทยในสมัยปัจจุบัน ยังคงใช้เป็นเครื่องแต่งกายอยู่ ได้แก่ "มงคล" และ "ประเจียด"
ซึ่งมงคลนั้นแต่เริ่มเดิมทีจะถูกถักทอขึ้นด้วยสายสิญจน์หรือผ้าดิบที่ลงอักขระเลขยันต์ต่างๆ และนักมวยจะสวมไว้บนศีรษะตั้งแต่แต่งตัวเสร็จจนขึ้นเวที และจะถอดออกเมื่อทำพิธีไหว้ครูและร่ายรำมวยไทยเรียบร้อยแล้ว ส่วนประเจียดนักมวยสามารถคาดไว้ที่ต้นแขน ตลอดเวลาการชกแข่งขันได้ โดยประเจียดแต่ดั่งเดิมนั้นมีลักษณะเป็นผ้าผืนสามเหลี่ยม ซึ่งมีอักขระเลขยันต์เพื่อให้เกิดความคงกะพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด ฯลฯ บางครั้งจะมียันต์ไชยามพวานหรือยันต์พระอิสาณเชิญธงในผ้าประเจียด แต่โดยทั่วไปประเจียดก็ถักขึ้นจากสายสิญจน์หรือผ้าดิบที่ผ่านการปลุกเสกเท่านั้น และในส่วนที่เป็นเสื้อผ้าและอุปกรณ์การป้องกันร่างกาย อันได้แก่ ผ้าพันมือ ซึ่งการพันมือ หมายถึง การใช้ผ้าพันรอบมือก่อนสวมนวมเพื่อเข้าชกมวย เพื่อป้องกันไม่ให้มือได้รับอันตราย แต่ในอดีตผ้าพันมือหรือคาดเชือก ในสมัยโบราณเชือกผูกหมัดจะทำจากผ้าห่อศพหรือสายสิญจน์มัดตราสังศพ เมื่อผ่านการประกอบพิธีอาถรรพณ์ก็สามารถใช้ทำลายความคงกะพันชาตรี แคล้วคลาด คุ้มกำลัง ฯลฯ ของฝ่ายตรงข้าม
ส่วนเครื่องแต่งกายอื่นๆ ที่เราเห็นกันชนชินตาอยู่แล้ว เช่น สนับศอก, ปลอกรัดเท้า, กระจับ, กางเกงมวย, นวม, ฟันยาง ที่ปกป้องและสร้างความปลอดภัยให้กับนักมวยไทยผู้สวมใส่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าอุปกรณ์มวยไทยทุกชิ้นล้วนมีความสำคัญ และเป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่งทั้งต่อชาวไทยและชาวต่างชาติ เรียกได้ว่าเห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บได้แทบจะในทันทีว่านี่แหละคือ "มวยไทย" !!
เตรียมพบกับ Amazing Muaythai Champion การแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่ง "ยอดนักสู้ 1 เดียวในสังเวียน" บนเวทีเรียลลิตี้ค้นหาสุดยอดนักมวยไทย ที่เน้นการต่อสู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยอย่างแท้จริง เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ -- วันที่ 20 มี.ค. 2560 ทาง http://amazingmuaythaichampion.com และ https://www.facebook.com/amazingmuaythaichampion/ สอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ 095-5395518 และ 080-6244065 และ รับชมกันสด ๆ ได้ที่ ลาน Parc Paragon วันที่ 21 มีนา - 1 เมษายนนี้ !!