กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--ชม พีอาร์
ถึงเวลาที่ตัวลูกทั้งหลายต้องหลบไป เพราะความแซ่บระดับตัวแม่กำลังมา เมื่อ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จับมือกับ LINE TV ผลิตรายการ Drag Race Thailand ครั้งแรกในเอเชีย ที่สร้างกระแสฮือฮาจากบรรดาแฟนรายการที่ตั้งตารอชมตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว ขน 10 แดร็กควีน (Drag Queen) ตัวจี๊ดของเมืองไทยมาประชันความเริ่ดให้สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น งานนี้รับประกันความพีคด้วยการคว้าสไตล์ลิสต์ตัวแม่อย่าง อาร์ต-อารยา อินทรา มาเป็น Host ประจำรายการ และยังได้แดร็กควีนระดับมืออาชีพ ปันปัน-แพนแพน นาคประเสริฐ มาเป็น Co-Host ร่วมดำเนินรายการอีกด้วย ติดตามสีสันการแต่งหน้า สะบัดผ้า และลีลาร้อนแรง จากเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่จะออกอากาศครั้งแรกในวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ ทาง LINE TV
เต้-ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก ผู้อำนวยการ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมา กันตนา กรุ๊ป พัฒนาสร้างสรรค์คอนเทนท์ และนำเสนอสิ่งใหม่ให้กับวงการโทรทัศน์เพื่อผู้ชมชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ว่าจะมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรายการเรียลลิตี้ที่อยู่ในกระแสมาโดยตลอด แต่สำหรับเรียลลิตี้โชว์จากสหรัฐอเมริกาอย่าง RuPaul's Drag Race ซึ่งจะนำมาผลิตในชื่อ Drag Race Thailand เป็นครั้งแรกของเอเชียนี้ ถือเป็นความท้าทายที่เหนือกว่า นอกจากความเข้มข้นของการแข่งขันที่เหล่า "แดร็กควีน" จะมาประชันการแต่งเสื้อผ้าหน้าผมและความสามารถกันอย่างเผ็ดซี้ด รายการนี้ยังเป็นการเปิดพื้นที่สำหรับปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ที่ซ่อนอยู่ อีกทั้งทำให้แดร็กควีนเป็นที่รู้จักและยอมรับจากสังคมไทยอีกด้วย
"โลกนี้มีความหลากหลายทางเพศและการแสดงออกมากกว่าที่สื่อกระแสหลักนำเสนอ สำหรับกลุ่มแดร็กควีน ซึ่งเป็นผู้ชายที่สามารถแต่งหน้าแต่งตัวเป็นผู้หญิงและทำการแสดงได้อย่างน่าทึ่งนั้น มีความแตกต่างจากชายแต่งหญิงทั่วไปที่คนมองว่าเป็นเพศที่สาม และรับรู้แค่ว่าพวกเขาเป็นนางโชว์ นำมาเล่นตลก ล้อเลียน เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ความเป็นแดร็ก คือทักษะทางศิลปะที่มาพร้อมความสามารถทางการแสดงที่น่ามหัศจรรย์ โดย LINE TV ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ที่เปิดกว้าง จึงเป็นพื้นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรายการ Drag Race Thailandได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงของชาวแดร็กให้ทุกคนได้เห็นอย่างไม่มีขีดจำกัด และเพื่อเป็นการเปิดตัวรายการ Drag Race Thailand ครั้งแรกในเมืองไทย ในซีซั่นแรกนี้จึงมาพร้อมกับความพิเศษกับรูปแบบ Debut Season ที่เราได้แดร็กควีนตัวจี๊ดมาร่วมรายการของเราถึง 10 คน ที่ผ่านการออดิชั่นแบบ Pre-Cast เพื่อให้ทุกคนได้เต็มอิ่มกับความสนุกและความบันเทิงที่พวกเราทุกคนตั้งใจจะมอบให้"
และสำหรับพันธมิตรสำคัญอย่าง LINE TV ที่ถือเป็นสื่อออนไลน์ที่เปิดกว้างและนำเสนอคอนเทนต์ LGBT อย่างต่อเนื่อง โดย กวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINEประเทศไทย กล่าวว่า จากความสำเร็จของ LINE TV ในการนำเสนอคอนเทนต์ LGBT ในปีที่ผ่านมา ด้วยจำนวนคอนเทนต์ LGBT ที่มีถึง 11 เรื่อง กับยอดวิวที่สูงเกินกว่า 600 ล้านวิว สื่อให้เห็นว่าคอนเทนต์ในลักษณะนี้ไม่ได้มีแค่เฉพาะกลุ่มอีกต่อไป แต่เข้าถึงกลุ่มผู้ชมในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรม และรูปแบบการเปิดรับคอนเทนต์ที่จะส่งผลต่อการวางแผนสื่อสารของแบรนด์ต่างๆ มากขึ้น
"โดยรายการ Drag Race Thailand ถือเป็นการลงทุนด้านฟอร์แมท คอนเทนต์ (Format Content) หรือการซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากต่างประเทศ ครั้งแรกของ LINE TV และยังเป็นครั้งแรกในเอเชียอีกด้วย ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับความตั้งใจของ LINE TV ที่มุ่งมั่นคัดสรร และนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลาย และมีคุณภาพให้กับผู้ชมชาวไทย โดยในปีนี้Drag Race Thailand ถือเป็นหนึ่งไฮไลท์ของ LINE TV ที่เปิดกว้างให้กับทุกเพศทุกวัย ได้เสพความบันเทิงไปด้วยกัน ผู้ชมจะได้เห็นหลากหลายแง่มุมของกลุ่มแดร็กควีนที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน โดยเราเชื่อว่า Drag Race Thailand จะเป็นอีกหนึ่งรายการที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม และสร้างสีสันให้กับวงการบันเทิงไทย และแน่นอนว่าทาง LINE TV และกันตนา ยังมีความพิเศษมากมายเตรียมให้ผู้ชม LINE TV ตลอดทั้งปี"
สำหรับ Drag Race Thailand ในซีซั่นแรกนี้เรียกได้ว่าจัดเต็มเซอร์ไพรซ์มาล้นจอ เริ่มที่การคัด 10 แดร็กควีนมาแรงมาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งจะยังคงคอนเซ็ปต์ตามต้นฉบับในการตามหาแดร็กควีนที่มี C.U.N.T. คือ Charisma Uniqueness Nerve และ Talent ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องแสดงศักยภาพความเป็นแดร็กของตัวเองออกมาให้ เจิดจรัส มีเอกลักษณ์ ชัดในความกล้า และเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ โดยทุกสัปดาห์ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องโชว์ความสามารถรอบด้าน ทั้งความสามารถในการแต่งองค์ทรงเครื่องให้สวยงามอลังการ และความสามารถทางการแสดง ภายใต้โจทย์ที่หลากหลายใน Mini Challenge และ Maxi Challenge ที่บอกเลยว่าไม่ง่าย เพราะทั้งโหด เผ็ด เด็ดดวง และท้าทาย ซึ่งแต่ละโจทย์จะมีคนดังที่จะมาร่วมเป็นกรรมการรับเชิญที่จะเพิ่มดีกรีความสนุก และคอมเม้นท์กันอย่างถึงพริกถึงขิงด้วยประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญของแต่ละคน อาทิ ไจ๋ ชีร่า, มาดามมด, มาช่า วัฒนพานิช, คริส หอวัง,แม่บ้านมีหนวด รวมถึงแขกรับเชิญอีกมากมาย ซึ่งจะร่วมตัดสินว่าแดร็กควีนคนไหนจะเป็นผู้ชนะในแต่ละสัปดาห์ ส่วนแดร็กควีน 2 คนที่ทำผลงานไม่เข้าตา ก็จะต้องเข้าสู่การแบทเทิลชี้เป็นชี้ตายในรอบ Lip Sync For Your Life! ด้วยการออกมาลิปซิงค์ขอโอกาสให้ตัวเองอยู่รอด ใครที่แสดงได้โดดเด่นน้อยที่สุดก็ทำได้แค่บอกลา และต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านไป จนท้ายที่สุดในรอบไฟนอล จะมีผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรค์ทั้งปวง ด้วยฝีไม้ลายมือที่โดดเด่นกว่าใคร รับตำแหน่ง Thailand's Drag Superstar คนแรกของเมืองไทยไปครอบครอง
Drag Race Thailand Debut Season ออกอากาศทาง LINE TV ทั้งหมด 8 ตอน ร่วมเป็นแรงใจให้กับเหล่าแดร็กควีนทั้ง 10 คน และรับชมความบันเทิงรูปแบบใหม่นี้ได้ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. ประเดิมตอนแรกในวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561
เกี่ยวกับ World of Wonder
เป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษ ที่บริษัทโปรดักชั่นระดับโลกอย่าง World of Wonder หรือ WOW ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการนำเสนอแนวคิดและวัฒนธรรมใหม่สู่สายตาชาวโลก ผ่านการสร้างสรรรค์รายการในหลากหลายรูปแบบ ทั้งรายการโทรทัศน์ สารคดี โดยมีรายการที่โดดเด่นและได้รับรางวัลจากเวทีระดับโลกมาแล้วมากมาย ได้แก่ รายการ "RuPaul's Drag Race" (ช่อง VH1/Logo) ซึ่งได้รับรางวัลจากเวที Emmy(R) อวอร์ด, รายการ "Million Dollar Listing" LA & NY (ช่อง Bravo), รายการ "Big Freedia: Queen of Bounce" (ช่อง Fuse) และรายการ "Gender Revolution: A Journey with Katie Couric" (ช่อง National Geographic) พร้อมด้วย ภาพยนตร์และสารคดีที่ได้รับรางวัล ได้แก่ "Mapplethorpe: Look at the Pictures," "Menendez: Blood Brothers," "Inside Deep Throat," "The Eyes of Tammy Faye," "I Am Britney Jean," "In Vogue: The Editor's Eye," "Carrie Fisher's Wishful Drinking," "Monica in Black and White," และ "The Last Beekeeper," และ "Out of Iraq" ที่ได้รับรางวัล Emmy ภาพยนตร์ 7 เรื่องได้เข้าฉายที่งานเทศกาลภาพยนตร์ Sundance รวมถึง "Becoming Chaz" และ "Party Monster"
นอกจากนี้ World of Wonder ได้สร้าง Digital Footprint ไว้มากมายผ่านทาง YouTube ของตัวเองทางช่อง WOW Presents, WOW Presents Plus ที่เป็น SVOD ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ควบคู่ไปกับThe WOW Report บล็อกที่ได้รับรางวัล
โดยสองผู้ก่อตั้งอย่าง มร.แรนดี บาร์บาโต (Mr.Randy Barbato) และ มร.เฟนตัน ไบเลย์ (Mr.Fenton Bailey) ยังได้เขียนหนังสือที่ชื่อว่า The World According to Wonder, เพื่อฉลอง 21 ปีของการก่อตั้ง โดยสามารถเข้าไปอ่านทางออนไลน์ได้ที่ http://worldofwonder.net/ แรนดี (Randy) และเฟนตัน (Fenton) ยังได้รับรางวัลจาก IDA Pioneer Award เมื่อเดือนธันวาคมปี 2557 ฉลองความสำเร็จที่โดดเด่น ความเป็นผู้นำ และวิสัยทัศน์ในแวดวงผู้ผลิตสารคดี ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของ World of Wonder ตั้งอยู่ในใจกลางฮอลลีวูด
เกี่ยวกับ Passion Distribution
Passion Distribution มีศูนย์กลางอยู่ที่ลอนดอน เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตรายการรูปแบบต่างๆ รวมถึงรายการประเภท สาระบันเทิง รายการเรียลลิตี้ สารคดี ไลฟ์สไตล์ ละคร รายการตลก และเกมโชว์ ความสำเร็จในระดับสากล ได้แก่ รายการ RuPaul's Drag Race, Dynamo: Magician Impossible, An Idiot Abroad, Big Fat Gypsy Weddings, Paradise Hotel, Make You Laugh Out Loud, Charlie Luxton's Homes By The Sea, Strangest Weather On Earth, Dr Christian Will See You Now และซีรี่ส์สารคดี The Unreported World
Passion Distribution ร่วมงานกับผู้ผลิตที่มีความสามารถสูงหลายคนในสหราชอาณาจักรรวมถึง AMOS Pictures, Voltage TV, Zig Zag Productions, Sundog Pictures, True North Productions, Popkorn TV, และ Reef Television และอื่นๆ
Passion Distribution เป็นตัวแทนของสถานีโทรทัศน์ และบริษัทผู้ผลิตในอเมริกาเหนือหลายแห่ง เช่น The Weather Channel, Game Show Network, World of Wonder และ Paperny Entertainment