กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ.) กล่าวภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้างานรื้อถอน/ย้ายพระเมรุมาศและอาคารประกอบและงานภูมิทัศน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ห้องประชุมดำรงราชา นุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นประชุมเตรียมการเพื่อรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการรื้อถอนพระเมรุมาศ อาคารประกอบพระเมรุมาศ และภูมิทัศน์ ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รับทราบความคืบหน้าการรื้อถอนพระเมรุมาศ รวมทั้งแจ้งข้อสั่งการของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งกำชับเรื่องการรื้อถอนและการเคลื่อนย้ายส่วนต่างๆ ของ พระเมรุมาศ รวมทั้งบอร์ดนิทรรศการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับว่าต้องเก็บรักษาให้ดี ไม่ตากแดดและโดนฝน และจัดเก็บในที่เหมาะสม รวมทั้งให้มีการจัดทำแผนการนำไปใช้ประโยชน์ให้ชัดเจน ตลอดจนการอนุรักษ์และส่งมอบวัสดุให้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้รับทราบแผนการรื้อย้ายพระเมรุมาศ อาคารประกอบและภูมิทัศน์ ซึ่งขณะนี้กรมศิลปากร(ศก.) ได้แต่งตั้งผู้ควบคุมการรื้อถอน เคลื่อนย้ายและจัดเก็บพระเมรุมาศ อาคารประกอบและงานภูมิทัศน์ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานและสมพระเกียรติโดยแบ่งออกเป็น 9 ส่วนงาน ได้แก่ 1.ผู้ควบคุมรื้อถอนการเคลื่อนย้ายจัดเก็บพระเมรุมาศ อาคารประกอบและงานภูมิทัศน์ 2.งานก่อสร้างสถานที่จัดเก็บประติมากรรม 3.พระที่นั่งทรงธรรม 4.ศาลาลูกขุน 1 จำนวน 4 หลัง 5.ศาลาลูกขุน 2 จำนวน 2 หลัง 6.ศาลาลูกขุน 3 จำนวน 5 หลัง 7.ทิมและทับเกษตร พลับพลายกสนามหลวง 8.อาคารนอกมณฑลพิธีสนามหลวง และ9.งานภูมิทัศน์
นายวีระ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการรื้อถอนเคลื่อนย้ายและจัดเก็บพระเมรุมาศ อาคารประกอบและงานภูมิทัศน์ ขณะนี้ภาพรวมในการรื้อถอนทั้งหมดอยู่ที่ร้อยละ 26 จะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2561 แบ่งเป็น
1. พระเมรุมาศ มีความคืบหน้าร้อยละ 28 โดยขั้นตอนขณะนี้ ได้รื้อย้าย งานสถาปัตยกรรม งานไฟฟ้า ประติมากรรมรูปปั้น สระอโนดาต และรื้อบล็อกปูพื้น และได้เคลื่อนย้ายพระจิตกาธานและฉากบังเพลิง มาเก็บรักษาไว้ที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ส่วนประติมากรรมทั้งหมด เคลื่อนย้ายไปจัดเก็บที่อาคารจัดเก็บประติมากรรม สำนักช่างสิบหมู่ ศาลายา ทั้งนี้ เมื่อรื้อย้ายสถาปัตยกรรมและประติมากรรมทั้งหมดแล้ว จะรื้อย้ายฐานรากและถมดิน เพื่อคืนสภาพสถานที่ก่อสร้างให้แก่กรุงเทพมหานคร สำหรับแผนการรื้อย้ายพระเมรุมาศใช้เวลา 55 วัน
2. พระที่ทรงธรรม รื้อถอนคืบหน้าร้อยละ 25 ขั้นตอนการรื้อย้าย ขณะนี้ได้รื้อย้ายงานสถาปัตยกรรม งานไฟฟ้า งานระบบปรับอากาศ สุขภัณฑ์ ต้นไม้และรื้อบล็อกปูพื้นรอบอาคาร หลังจากนี้จะรื้อย้ายตามแผนงานที่กำหนดโดยใช้เวลา 60 วัน 3. ศาลาลูกขุน 1 คืบหน้า ร้อยละ 31 4. ศาลาลูกขุน 2 คืบหน้า ร้อยละ 35 5. ศาลาลูกขุน 3 ความคืบหน้า ร้อยละ 7 6. ทิมและทับเกษตร คืบหน้า ร้อยละ 35 7. พลับพลายก สนามหลวง คืบหน้า ร้อยละ 41 8. พลับพลายก หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ คืบหน้า ร้อยละ 17 9. พลับพลายก หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม คืบหน้า ร้อยละ 17 10. เกยลา รื้อถอนแล้วเสร็จ 100% 11. งานรื้อถอน ย้ายงานตกแต่งด้านภูมิทัศน์ คืบหน้า ร้อยละ 21 ซึ่งในส่วนของต้นไม้และกระถางเซรามิคได้ขนย้ายและส่งมอบให้ผู้ดูแลและหน่วยงานต่างๆ เรียบร้อยแล้ว
นายวีระ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมได้รับรายงานความคืบหน้าในการรื้อย้ายงานประติมากรรม จิตรกรรม งานประณีตศิลป์ จะมีการรื้อย้ายงานต่างๆ และนำไปจัดเก็บ ณ สถานที่ ประกอบด้วย 1. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นสถานที่จัดเก็บพระจิตกาธานและฉากบังเพลิง 2. สำนักช่างสิบหมู่ ศาลายา เป็นสถานที่จัดเก็บประติมากรรม จิตรกรรม งานประณีตศิลป์ อาทิ เทวดา ประติมากรรมครุฑ สัตว์หิมพานต์ 3. หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จ.ปทุมธานี เป็นสถานที่จัดเก็บประติมากรรม จิตรกรรม งานประณีตศิลป์ ที่ใช้ในการจัดแสดงในอาคารนิทรรศการฯ ถาวร ที่จะดำเนินการจัดสร้างในอนาคต
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับรายงานความคืบหน้าในการรื้อย้ายองค์ประกอบงานภูมิทัศน์ โดยส่งมอบและจัดเก็บ 1.วังสวนกุหลาบ กรุงเทพมหานคร อาทิ ต้นไม้ กระถางเซรามิค 2. พระราชวังไกลกังวล อาทิ ต้นไม้ พรรณไม้ ประกอบภูมิทัศน์ กระถางเซรามิค 3. สำนักหอสมุดแห่งชาติ อาทิ ต้นไม้ 4. หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานี และที่ประชุมได้รับรายงานความคืบหน้าในการรื้อถอนในส่วนของเศษวัสดุการก่อสร้างอื่นๆ จะดำเนินการฝังกลบและเผาทำลาย ณ บริเวณอุทยาประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา และสำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม
ทั้งนี้ กรมศิลปากร ได้รายงานแผนการรื้อย้าย พระเมรุมาศ อาคารประกอบและภูมิทัศน์ ได้มอบหมายให้ผู้ที่ควบคุมดูแล และผู้ที่รื้อถอนดำเนินการรื้อย้ายอย่างเป็นระบบ และมีการคัดแยกชิ้นส่วนองค์ประกอบต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ รวมทั้งมีการเก็บรักษาอย่างเรียบร้อย