กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (NYSE: BABA) ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560
"ผลประกอบการที่โดดเด่นในไตรมาสที่ผ่านมา ได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากผู้บริโภคชาวจีนที่ยังคงแข็งแกร่ง รวมทั้ง นวัตกรรมด้านบริการอันหลากหลายที่เรานำเสนอให้แก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค" มร. แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว "เรารู้สึกตื่นเต้นกับกระแสตอบรับอย่างต่อเนื่องของธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ (New Retail) ซึ่งเกิดขึ้นภายในเทศกาล 11.11 โกลบอล ช้อปปิ้ง เฟสติวัล มหกรรมช้อปปิ้งประจำปีที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นอีกครั้ง นอกจากนี้ เรายังได้ขยายขอบเขตโครงการต่างๆ ด้านการค้าปลีกยุคใหม่ โดยเรามุ่งหวังให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ที่ผสานรวมโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน ผ่านทางโมบายเทคโนโลยี และเทคโนโลยีสำหรับองค์กร"
"ในไตรมาสที่ 3 เรามีผลประกอบการที่ยอดเยี่ยม ด้วยอัตราการเติบโตของรายได้ที่สูงถึง 56% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและทิศทางที่ชัดเจน เราจึงมีการปรับประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ 2561 จาก 53% ที่ได้ประมาณการไว้เมื่อไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้นเป็น 55-56%" แมกกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว "ธุรกิจหลักของเราได้สร้างกระแสเงินสดจำนวนมากรวม 7,100 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้เราสามารถลงทุนในธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ คลาวด์คอมพิวติ้ง ธุรกิจสื่อดิจิตอลเพื่อความบันเทิง และกลุ่มธุรกิจยุคโลกาภิวัตน์"
ข้อมูลที่น่าสนใจจากผลประกอบการไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีดังต่อไปนี้
- รายได้รวม 83,028 ล้านหยวน (12,761 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน
รายได้หลักจากธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่งเติบโตขึ้น 57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นรายได้ทั้งหมด 73,244 ล้านหยวน (11,257 ล้านเหรียญสหรัฐ)
รายได้จากธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งเพิ่มขึ้น 104% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นรายได้ทั้งหมด 3,599 ล้านหยวน (553 ล้านเหรียญสหรัฐ)
รายได้จากธุรกิจสื่อดิจิทัลและบันเทิงเติบโตขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นรายได้ทั้งหมด 5,413 ล้านหยวน (832 ล้านเหรียญสหรัฐ)
รายได้จากกลุ่มธุรกิจเชิงนวัตกรรมลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นรายได้ทั้งหมด 772 ล้านหยวน (119 ล้านเหรียญสหรัฐ)
- ช่องทางค้าปลีกของอาลีบาบาในประเทศจีน มีลูกค้าที่ซื้อสินค้าอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปีรวมกว่า 515 ล้านราย เพิ่มขึ้น 27 ล้านรายเมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560
- ยอดผู้ใช้งานในประเทศจีนที่เข้าถึงช่องทางค้าปลีกของเราในแต่ละเดือนผ่านโทรศัพท์มือถือ สูงถึง 580 ล้านคนในเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งสูงกว่าในเดือนกันยายนของปีเดียวกันถึง 31 ล้านคน
- รายได้สุทธิอยู่ที่ 23,332 ล้านหยวน (3,586 ล้านเหรียญสหรัฐ) ส่วนรายได้จากการดำเนินการ 25,996 ล้านหยวน (3,996 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่รายได้ก่อนคำนวณดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการชำระหนี้ อยู่ที่ 36,183 ล้านหยวน (5,561 ล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับอัตรากำไรจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 31% หรือคิดเป็น 44% หากไม่รวมดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการชำระหนี้ ทั้งนี้ อัตรากำไรของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ก่อนคำนวณดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการชำระหนี้ อยู่ที่ 53%
- กำไรต่อหุ้นปรับลดอยู่ที่ 9.20 หยวน (1.41 เหรียญสหรัฐ) ส่วนกำไรต่อหุ้นปรับลดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป อยู่ที่ 10.61 หยวน (1.63 เหรียญสหรัฐ)
- เงินสดสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 55,137 ล้านหยวน (8,480 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่กระแสเงินสดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป อยู่ที่ 46,144 ล้านหยวน (7,092 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ผู้สนใจสามารถอ่านรายงานผลประกอบการบนเว็บไซต์ข่าวอาลีบาบา อาลีซิล่า ได้ที่ www.alizila.com/alibaba-reports-december-2017-quarterly-results/
เกี่ยวกับอาลีบาบา กรุ๊ป
พันธกิจของอาลีบาบา กรุ๊ป คือการทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายจากทุกหนแห่งทั่วโลก เรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคตสำหรับการประกอบธุรกิจ โดยจินตนาการถึงโลกที่ผู้คนต่างพบปะ ทำงาน และใช้ชีวิตอยู่บนแพลตฟอร์มของอาลีบาบา และมีความมุ่งหวังที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปถึง 102 ปี