กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--กองเกษตรสารนิเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อพบปะเกษตรกรและรับทราบผลการดำเนินงานของเกษตรกรที่รวมตัวกันทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และนำเสนอข้อมูลเข้าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรภาคตะวันออก ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้บูรณาการหน่วยงานในสังกัดเข้ามาช่วยในเรื่องการส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่และการให้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ อีกทั้งยังบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการเข้ามาส่งเสริมการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ ด้วย ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผักแปลงใหญ่ปลอดภัยสูง ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม และ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเห็ดและผักปลอดสารพิษบ้านหนองว้า ต.บ้านซ่อง มีการรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง โดยมีเป้าหมายให้สมาชิกดำเนินการในด้านต่าง ๆ ทั้งการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต เพิ่มคุณภาพสินค้าเกษตร อีกทั้งยังมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ และมีตลาดรองรับที่แน่นอน
ทั้งนี้ ในปี 2558 จังหวัดฉะเชิงเทราได้มีการดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตสินค้าปลอดภัยสูง ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนในจังหวัดหันมาทำสินค้าเกษตรปลอดภัย โดยดำเนินการตามนโยบายตลาดนำการผลิต นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง โดยกระทรวงเกษตรฯ เข้ามาอบรมให้ความรู้และสนับสนุนเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ อีกทั้งรัฐบาลยังให้ความสำคัญในเรื่องปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะในเรื่องของทุน เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรสามารถนำปัจจัยดังกล่าวไปดำเนินการขยายการดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน เช่น โรงคัดแยกสินค้าที่มีคุณภาพ เพื่อคัดแยกสินค้าตามคุณภาพ และส่งไปตลาดที่มีความเหมาะสม และการพัฒนาสถานที่จัดการกระบวนการหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อเป็นจุดรวมผลผลิตที่มีมาตรฐานของกลุ่ม และการพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ของกลุ่มให้เป็นรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรผลิตสินค้าเกษตรในระบบเกษตรปลอดสารพิษ (GAP) จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจเยี่ยมสหกรณ์ชมรมชาวสวนมะม่วงจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มุ่งเน้นการผลิตมะม่วงให้มีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง โดยมีการรวมตัวกันอย่างจริงจังของสมาชิก และเริ่มมีการผลิตมะม่วงส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งสมาชิกของสหกรณ์ ประกอบด้วยเกษตรกรจาก 7 อำเภอ คือ พนมสารคาม แปลงยาว สนามชัยเขต ท่าตะเกียบ ราชสาส์น บางคล้า และคลองเขื่อน ปัจจุบันมีสมาชิก 176 ราย มีพื้นที่ปลูกมะม่วง กว่า 10,000 ไร่ พันธุ์มะม่วงที่ปลูก ได้แก่ พันธุ์น้ำดอกไม้เบอร์ 4 น้ำดอกไม้สีทอง เขียวเสวย และพันธุ์อื่น ๆ มีผลผลิตประมาณ 7,000 ตัน/ปี อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร โดยมีแนวทางพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพมาตรฐานสินค้าสู่มาตรฐานระดับสากล โดยใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและความรู้แบบองค์รวม อีกทั้งยังส่งเสริมการเกษตรตลอดโซ่อุปทานสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและมูลค่าสูงสู่การเป็นฟาร์มอัจฉริยะ นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาภาคตะวันออกในการพัฒนาการผลิตและการค้าผลไม้ภาคตะวันออก ให้เป็นศูนย์ผลไม้เมืองร้อนแห่งเอเชีย โดยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพสินค้า ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การบรรจุหีบห่อ การแปรรูป และการจัดจำหน่าย