กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--เอ็ม เอส แอล
ระอุกว่าสิ่งใด...ก็แดดประเทศไทยนี่แหละค่ะท่านผู้ชม เพราะไม่ว่าจะฤดูไหนๆแดดเมืองไทยก็ร้อนแรงแผดเผาผิวสวยๆของเราจนหมองไหม้ คล้ำเสีย และเหี่ยวย่น ไปตามๆ กัน จนต้องรีบพุ่งตัวไปหาซื้อครีมกันแดดมาประโคมปกป้องผิวกันถ้วนหน้า จนเรียกได้ว่าครีมกันแดดแทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ห้าในชีวิตไปเสียแล้ว
แต่ช้าก่อน! สาวๆ ยุคใหม่แบบเราจะเลือกไอเท็มปกป้องผิวสวยทั้งทีก็ต้องฉลาดเลือก เลือกกันแบบรู้ลึกรู้จริงอิงวิทยาศาสตร์แท้ๆ เพราะตัวการทำร้ายผิวที่อยู่ในแสงแดดมีมากกว่ารังสียูวีเอ (UVA) และยูวีบี (UVB) ที่มีรวมกันเพียง 7% เท่านั้น แต่ยังมีทั้งรังสีวิสิเบิ้ล (Visible Light) หรือแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์ต่างๆอีก 39% และรังสีอินฟราเรด (IR/Infrared) หรือรังสีความร้อน และเป็นภัยร้ายที่ทำลายผิวของเรามากถึง 54%
รังสีอินฟราเรด (IR/Infrared) เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอีกหนึ่งชนิดที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ มีพลังงานน้อยแต่ให้ความร้อนสูง มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 0.75 ไมโครเมตร – 1 มิลลิเมตร จัดว่าเป็นคลื่นที่มีความยาวกว่าคลื่นสีแดงที่ตาสามารถมองเห็นได้ เป็นรังสีที่อยู่ใกล้ตัวเรา และเราก็สัมผัสกับรังสีอินฟราเรดอยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้ตัว! รังสีนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา แต่สามารถสัมผัสได้ด้วยการรับรู้ถึงความร้อน ไม่เพียงแต่เป็นความร้อนที่เกิดจากเปลวไฟ หรือแสงแดดเท่านั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม
ที่เรารู้สึกถึงความร้อนก็แสดงว่า เรากำลังเผชิญกับรังสีอินฟราเรดอยู่นั่นเอง แน่นอนว่าในชีวิตประจำวันของเรา สามารถสัมผัสกับรังสีอินฟราเรดได้จากเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกมากมาย เช่น คอมพิวเตอร์โทรศัพท์มือถือ หลอดไฟ ไดร์เป่าผม หรือแม้แต่เตาทำอาหารในครัวที่มีกันทุกบ้าน เป็นต้น
ซึ่งรังสีอินฟราเรด (IR/Infrared) นี้มีความร้ายกาจมากกว่ารังสียูวีเอ (UVA) และยูวีบี (UVB) ที่อาจทำให้ผิวดำคล้ำ เกิดฝ้า จุดด่างดำ ทำให้ผิวร้อน บวมแดง หลายเท่า เพราะรังสีอินฟราเรดมาแรงกว่านั้น! โดยมันสามารถทำร้ายชั้นผิวหนังได้ลึกและแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ในระดับเซลล์ กระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวลดลง อันเป็นสาเหตุของความหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น แก่ก่อนวัย ริ้วรอยร่องลึก ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น รวมถึงเกิดความหมองคล้ำ
ดังนั้น หากสาวๆ อยากจะเลือกซื้อครีมกันแดดสักชิ้น เพื่อมาเป็นตัวช่วยในการปกป้องผิวแล้วละก็อย่ามองหาแต่ผลิตภัณฑ์กันแดด ที่มีค่าการปกป้องอย่าง SPF ที่ปกป้องรังสียูวีบี และ PA ที่ปกป้องรังสียูวีเอเท่านั้น แต่ต้องมองหาครีมกันแดดที่ปกป้องผิวจากรังสีอินฟราเรดได้ด้วย เช่นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารที่เป็น IR Block หรือ Infrared Block ผสมด้วย การปกป้องอย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นเรื่องง่ายๆ แต่สำคัญมากเลยทีเดียว
เดอมาแอคชัน พลัส บายวัตสัน แอดวานซ์ ซัน อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์กันแดด ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผิว เพราะนอกจากจะมี SPF50+ ปกป้องผิวจากรังสียูวีบี (UVB) และ PA+++ ปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ (UVA) แล้ว ยังมี HEV Shield (High Energy Visible Light Shield Technology) ในการปกป้องผิวจากรังสีวิสิเบิ้ล (Visible Light) หรือแสงสีฟ้า ผนึกกำลังกับ IR Block ที่จะมาช่วยปกป้องผิวจากรังสีอินฟราเรด (IR/Infrared) ซึ่งเป็นนวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะเดอมาแอคชัน พลัส บายวัตสัน แอดวานซ์ ซัน เท่านั้น แถมยังมาพร้อมคุณค่าการฟื้นบำรุงผิวแบบล้ำลึกจาก BioActive (ไบโอแอคทีฟ) ที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่โดนทำร้ายให้กลับแลดูมีสุขภาพดี TE Complex (ทีอี คอมเพล็กซ์) ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ สาเหตุของริ้วรอยแห่งวัย และ Photogenic Scattering (โฟโต้จีนิค สแคทเทอริ่ง) นวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวเปล่งประกาย แลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านวัตสัน ทุกสาขา ช้อปออนไลน์ที่ www.watsons.co.th
เกี่ยวกับ เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป
เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2384 เป็นผู้นำร้านค้าปลีกเพื่อสุขภาพ ความงาม และไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และยุโรป ด้วยสาขากว่า 14,000 ร้าน ใน 24 ประเทศ โดยทุกปี ลูกค้า และสมาชิกกว่าสามพันล้านคนต่างซื้อของกับแบรนด์ร้านค้าปลีกของ เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป ภายใต้ 13 แบรนด์ ทั้งในร้านค้าและทางออนไลน์ ที่ประเทศฮ่องกง มีร้านกว่า 600 ร้าน ภายใต้ 4 แบรนด์ ได้แก่ Watsons, PARKnSHOP, FORTRESS และWatson's Wine. นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตน้ำดื่มคุณภาพแบรนด์ Watsons Water และน้ำผลไม้ที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี ได้แก่แบรนด์ Mr. Juicy และ แบรนด์ Sunkist.
ในปีงบประมาณ 2016 เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป มีรายได้ทั้งหมด 151,500 ล้าน และมีพนักงานทั่วโลกรวมกว่า 130, 000 คน รวมพนักงานที่ฮ่องกง 12,900 คน
เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป ยังเป็นบริษัทภายใต้กลุ่มบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง ซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้ง กลุ่มบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจหลัก 5 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจการเดินเรือและบริการ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มธุรกิจด้านพลังงาน และกลุ่มธุรกิจด้านโทรคมนาคมใน 50 ประเทศ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอ. เอส. วัตสัน กรุ๊ป และแบรนด์ในเครือได้ที่ www.aswatson.com