กรมการท่องเที่ยวระดมความเห็นปรับปรุงหลักสูตรการผลิตบุคลากรท่องเที่ยว

ข่าวท่องเที่ยว Wednesday February 7, 2018 16:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--syllable กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจับมือกระทรวงศึกษาธิการระดมความคิดเห็น เพื่อปรับหลักสูตร การผลิตบุคลากรท่องเที่ยวให้ตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและรองรับประเทศไทย 4.0 รับลูกนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่ากรมการท่องเที่ยวจัดการประชุมระดมความคิดเห็นเรื่อง "ยกระดับศักยภาพการผลิตและพัฒนากำลังคน ให้ตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและรองรับประเทศไทย 4.0" ในวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 ณ โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการประชุมและมอบนโยบายและทิศทางสำหรับ "การพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวไทยอย่างแท้จริงและยั่งยืน เพื่อเติบโตเป็นเสาหลักค้ำยันเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ" ร่วมกับ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้มอบนโยบายและทิศทาง "การพัฒนาระบบการเรียนการสอนรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว" การระดมความคิดเห็นในครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาจากภาครัฐและเอกชนรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอนด้านการท่องเที่ยว และการบริการในระดับอุดมศึกษา ทั้งนี้ เพื่อปรับหลักสูตรการผลิตบุคลากรท่องเที่ยวให้ตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และยกระดับศักยภาพการผลิตและพัฒนากำลังคนให้รองรับประเทศไทย 4.0 ไปพร้อม ๆ กัน นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวถึงความสำคัญของการจัดระดมความคิดเห็นในครั้งนี้ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ ก่อให้เกิดการจ้างงานและกระจายรายได้สู่ภูมิภาค อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวมีแนวโน้มการแข่งขันสูง และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าประเทศไทยจะมีความพร้อมของทรัพยากรธรรมชาติ สังคม และวัฒนธรรม แต่ยังต้องการการพัฒนาความพร้อมของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย และแม้ว่าคนรุ่นใหม่ที่สำเร็จการศึกษาด้านท่องเที่ยวจะมีจำนวนมาก แต่บุคลากรที่เข้าสู่อุตสาหกรรมยังมีข้อจำกัดในการทำงาน เนื่องจากหลักสูตรการศึกษายังเน้นทฤษฎี ซึ่งไม่ตอบสนองกับความต้องการของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเท่าที่ควร ในปี 2561 นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงได้มีนโยบายที่จะบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการยกเครื่องหลักสูตรการเรียนการสอนด้านการท่องเที่ยวและการบริการ อธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าวว่า ผลจากการประชุมระดมความคิดเห็น จะช่วยให้เห็นภาพแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาและสร้างหลักสูตรการเรียนการสอนด้านการท่องเที่ยวและการบริการในระดับอุดมศึกษาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น และหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะช่วยสร้างเครือข่ายระหว่างกรมการท่องเที่ยวกับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในการนำความต้องการของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการมาเป็นแกนในการให้บริการทางการศึกษาด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวย้ำว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งของประเทศ "การเตรียมกำลังคนให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว จึงเป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องให้ความสำคัญในระดับต้น ๆ โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา อันเป็นกลไกหลักในการผลิตกำลังคนของประเทศ จำเป็นต้องปรับตัวให้ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อรองรับการเป็นประเทศไทย 4.0 จากความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รัฐบาลจึงได้มีนโยบายใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือเพื่อยกระดับฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอีกด้วย" อนึ่ง ในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยกว่า 35 ล้านคน ซึ่งมีอัตราสูงถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรในประเทศ สร้างรายได้ให้กับประเทศกว่า 2.7 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และยังคงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง "สถาบันการศึกษาเปรียบเสมือนต้นน้ำของการผลิตกำลังคนเพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ความคิดเห็นและประสบการณ์ของผู้ที่อยู่ในสถาบันการศึกษาจึงมีประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษามีสมรรถนะที่ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศต่อไป" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ