กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 06 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,335.30-1,346.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,130 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,030 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.16 น. ของวันที่ 06/02/61)
แนวโน้มวันที่ 07 กุมภาพันธ์ 2561
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแรงเทขายในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนีสำคัญทั้ง 3 ของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงอย่างรุนแรง ส่งผลหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเกือบ 666 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 เดือนเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์และเป็นการร่วงรายวันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ปี 2551 ในช่วงวิกฤตการเงิน แต่ยังไม่เพียงเท่านั้น ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงต่อในวันจันทร์ท่ามกลางการซื้อขายที่มีความผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงเกือบ 1,600 จุดในช่วงระหว่างการซื้อขาย ถือเป็นการร่วงระหว่างวันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และปิดการซื้อขายในวันจันทร์โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 1,175.21 จุด หรือ -4.6%, ดัชนี S&P500 ปิดลบ 113.19 จุด หรือ -4.10% และดัชนี Nasdaq Composite ปิดลบ 273.42 จุดหรือ -3.78% ซึ่งหากเทียบจากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อปลายเดือนม.ค. ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงมาแล้ว 8.5% ส่วน S&P500 ปิดปรับลดลงไป 7.8% ส่งผลให้ทำเนียบขาวออกมาระบุว่า โดยพื้นฐานแล้วเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง ส่วนทางด้านตลาดหุ้นทั่วโลกวันนี้อ่อนตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงถูกบั่นทอนลง โดยดัชนีหุ้นเอเชีย-แปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นของ MSCI ร่วงลง 3.5% ในวันนี้ มาอยู่ที่จุดต่ำสุดรอบ 1 เดือน ดิ่งลงต่อเนื่องจากการอ่อนตัวลง 1.6% ของเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาทองคำในประเทศได้แรงหนุนเพิ่มจากค่าเงินบาท ซึ่งค่าเงินบาทอยู่ในกลุ่มสกุลเงินที่อ่อนตัวลงมากที่สุดของภูมิภาคเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยอ่อนตัวลงเกือบ 0.4% ทั้งนี้หากไม่มีปัจจัยกดดันราคาทองคำ ประเมินว่าการอ่อนตัวลงของราคาทองคำคงไม่มากนัก ส่วนการปรับตัวขึ้นจะมากเพียงใดหรือนานเท่าใดนั้น อาจขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะในระยะนี้อาจจะเคลื่อนไหวสวนทางกับราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำมีลักษณะการดีดตัวขึ้น หลังจากราคาอ่อนตัวลงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยประเมินโซนแนวต้านที่ 1,351 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ น่าจะเห็นการปรับขึ้นต่อ โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่าราคาทองคำเมื่อปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายสลับออกมา และนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหากหลุดบริเวณแนวรับดังกล่าวจำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,351 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,335 (19,900บาท) 1,326 (19,750บาท) 1,313 (19,550บาท)
แนวต้าน 1,351 (20,150บาท) 1,366 (20,400บาท) 1,373 (20,500บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,335 (20,010บาท) 1,326 (19,870บาท) 1,313 (19,680บาท)
แนวต้าน 1,351 (20,260บาท) 1,366 (20,480บาท) 1,373 (20,590บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999