กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 05 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,328.30-1,333.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,020 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,100 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.02 น. ของวันที่ 05/02/61)
แนวโน้มวันที่ 06 กุมภาพันธ์ 2561
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสราว 90% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเดือนมี.ค. และมากกว่า 60% เล็กน้อยสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.และอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร,รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง และ อัตราการว่างงานที่ลดต่ำลงสะท้อนตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ยังพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี จากแนวโน้มเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น จนอาจจะทำให้เฟดสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 3 ครั้ง เป็น 4 ครั้งในปีนี้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะลดความน่าดึงดูดใจในการลงทุนทองคำ จนราคาทองคำแกว่งตัวผันผวน อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้น เมื่อนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวอย่าง ชัดเจนว่า เขาไม่สนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้ง สอดคล้องกับ นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวเช่นกันว่า เขามีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า เฟดจะจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐจะแสดงสัญญาณแรงกดดันด้านเงินเฟ้อต่อไปในปี 2561 ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน อดีตผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า เฟดอาจจะจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไปอย่างที่เฟดได้ส่งสัญญาณไว้ ทั้งนี้ ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่มาก เพราะนักลงทุน จับตานายเจอโรม พาวเวล เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ผิดแปลกไปจากช่วงก่อนหน้าหรือไม่ เบื้องต้น นักลงทุนประเมินว่าน่าจะคงการดำเนินนโยบายการเงินแบบเดิม หลังจากวาระการดำรงตำแหน่งของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนก่อนได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ วายแอลจีแนะนำให้ดูการสร้างฐานของราคาทองคำจึงตัดสินใจเข้าซื้อทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะของการแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานราคา โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้สามารถเข้าซื้อบริเวณแนวรับที่ 1,326-1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,313-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,342 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,313-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,326 (19,750บาท) 1,313 (19,550บาท) 1,306 (19,450บาท)
แนวต้าน 1,342 (20,050บาท) 1,351 (20,200บาท) 1,366 (20,400บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,326 (19,910บาท) 1,313 (19,710บาท) 1,306 (19,610บาท)
แนวต้าน 1,342 (20,150บาท) 1,351 (20,290บาท) 1,366 (20,510บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999