กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,337.50-1,347.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,010 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,030 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.18 น. ของวันที่ 01/02/61)
แนวโน้มวันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2561
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดหมายว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้นในปี 2561 พร้อมส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่เฟดจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในเดือนมี.ค.นี้ ภายใต้การกำกับดูแล โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงในช่วงแรก ก่อนที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากเฟดคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในอัตราปานกลางและตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่งในปีนี้ จากการเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งของการจ้างงาน, การใช้จ่ายของครัวเรือน และการลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากที่เฟดได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ และถ้อยแถลงแทบไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นแถลงการณ์ของเฟดในวันพุธ จึงไม่มีผลกระทบต่อดอลลาร์และราคาทองคำมากนัก อย่างไรก็ดีราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินยูโรที่ปรับตัวขึ้นหลังจากเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB)ได้ลดการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว 2 ครั้ง ส่งผลให้ยูโรดีดขึ้น 3.5% ในเดือนม.ค. โดยแตะจุดสูงสุดในรอบ 3 ปีเหนือระดับ 1.25 ดอลลาร์ ท่ามกลางแนวโน้มที่ว่า ECB จะเริ่มปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติในปีนี้ ซึ่งหนุนราคาทองคำ ขณะที่เงินดอลลาร์มีแนวโน้มเข้าสู่ระดับต่ำสุดเมื่อคิดเป็นรายเดือนในรอบ 2 ปี เนื่องจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐไม่สามารถเสนอวิธีพยุงดอลลาร์ขณะแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาอย่างเป็นทางการครั้งแรก (State of the Union) อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตามรายงานการจ้างงานของรัฐบาลสหรัฐในวันศุกร์ ผ่านตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้น 181,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ขณะเดียวกันคาดตัวเลขรายได้หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 2.0% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลเฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นปัจจัยชี้นำดอลลาร์ และราคาทองคำเพิ่มเติม
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,351 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาอาจกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป ทั้งนี้รอดูบริเวณ 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,331 (19,700บาท) 1,324 (19,600บาท) 1,313 (19,450บาท)
แนวต้าน 1,351 (20,050บาท) 1,366 (20,250บาท) 1,376 (20,400บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,331 (19,870บาท) 1,324 (19,770บาท) 1,313 (19,600บาท)
แนวต้าน 1,351 (20,170บาท) 1,366 (20,400บาท) 1,376 (20,550บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999