กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--ฟูจิตสึ
บริษัท ฟูจิตสึ ได้รวบรวมข้อมูลการผลิต และการมองภาพที่เด่นชัดเป็นงานที่สำคัญอย่างยิ่ง กลุ่มบริษัท The Instrument and Electronics (Shanghai)Associates Group (INESA) เป็นองค์กรรัฐขนาดใหญ่ในประเทศจีนให้บริการโซลูชั่น Smart City ส่วนบริษัท INESA Display MaterialsCo., Ltd. เป็นบริษัทในเครือซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตชุดกรองสีสำหรับจอแสดงผล(Color Filter) แห่งเดียวในโลกที่มีศักยภาพในการผลิตมาถึงรุ่นที่ 5 แล้วและเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในรูปแบบธุรกิจขององค์กรและสภาพแวดล้อมของตลาด รัฐบาลของประเทศจีนจึงได้ประกาศใช้แผนกลยุทธ์ "ผลิตในประเทศจีน ปี 2025" ขึ้น
จุดมุ่งหมายเพื่อผสานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)ที่ทันสมัยเข้ากับระบบการผลิต จะช่วยให้ประเทศจีนนำหน้าคู่แข่ง โดยการเปลี่ยนจากผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ที่ผลิตสินค้าจำนวนมากไปเป็นโรงงานประสิทธิภาพสูงที่มุ่งเน้นผลิตสินค้าคุณภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ บริษัท INESAจึงริเริ่มใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ล้ำสมัยและระบบการผลิตอัจฉริยะเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและความได้เปรียบทางการแข่งขันเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการสร้างโรงงานอัจฉริยะดังกล่าว บริษัทต้องก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ในส่วนที่เกี่ยวกับการผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพ การควบคุมค่าใช้จ่ายและการลดการใช้พลังงาน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยระบบอัจฉริยะในการเก็บรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บ การประมวลผลและการวิเคราะห์ภาพที่ได้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลในการผลิตได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนติดตามการใช้พลังงานควบคู่กันไปในวิธีปฏิบัติแบบดั้งเดิม ข้อมูลจะถูกเก็บรวบรวมผ่านรายงานทางสถิติต่างๆ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ยังเป็นปัญหาเนื่องจากมีขั้นตอนที่ซับซ้อนต้องใช้ทั้งเวลาและแรงงาน อีกทั้งยังไม่สามารถแสดงข้อมูลที่หลากหลายได้อย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นเรื่องยากที่จะรับรู้ถึงสถานะโดยรวมของโรงงานผลิต ตลอดจนถึงการใช้งานและการบำรุงรักษาอุปกรณ์อีกด้วย
"ในสภาพแวดล้อมด้านการผลิตของเรา เรามีแหล่งข้อมูลจำนวนมากที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน อุปกรณ์ และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของสินค้าที่เราผลิต" Wei Fengrong ผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศของ INESA Display Materials Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ INESA Group กล่าว "การเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อการปรับปรุงระบบการจัดการ ดังนั้น การแสดงผลอย่างเป็นเอกภาพในแพลตฟอร์มเดียวกัน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง"
การเริ่มเข้าสู่โรงงานอัจฉริยะโดยการใช้แพลตฟอร์มโซลูชั่นแบบ IoT
ในเดือนมกราคมปี 2016 ฟูจิตสึและ INESA ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทSmart Manufacturing Demonstration Factory ซึ่งเป็นโรงงานผลิตตัวอย่างประกอบด้วย 3 เฟส โดยในเฟสแรกของโครงการทั้งฟูจิตสึและ INESA ได้ร่วมมือกันเก็บรวบรวมและเปรียบเทียบข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันก็ได้นำสถาปัตยกรรม Internet of Things (IoT) มาใช้เพื่อให้สามารถมองเห็นสถานะการผลิตและสถานการณ์การดำเนินงานของโรงงานได้อย่างครอบคลุมโซลูชั่นนี้ประกอบด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สายร่วมกับกระบวนการติดตามแบบดั้งเดิม การตรวจสอบและใช้อุปกรณ์ตรวจจับเพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าของข้อมูลตามเวลาจริง พยายามจะวิเคราะห์สถานะการผลิตของโรงงาน เพื่อสร้างรายงานสรุปต่างๆ ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากร เช่น ไฟฟ้า ก๊าซและน้ำ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจะถูกเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ฟูจิตสึยังได้ออกแบบแพลตฟอร์มบิ๊กดาต้า เพื่อจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลการใช้พลังงานและข้อมูลการผลิตทั้งหมดของโรงงานไว้ที่ส่วนกลาง ทำให้สามารถมองภาพและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากในเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว"แพลตฟอร์มบิ๊กดาต้าสำหรับข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีไร้สายระดับอุตสาหกรรมในแบบ IoT ของฟูจิตสึ ทำให้เราสามารถก้าวไปสู่ระบบการบำรุงรักษาอุปกรณ์แบบอัจฉริยะด้วยเช่นกัน" Wei Fengrong กล่าวระบบ Enterprise Application Intelligent Dashboard ของฟูจิตสึช่วยให้สามารถแสดงผลตัวชี้วัดหลักๆ ได้อย่างครบถ้วน เช่น ประสิทธิภาพการผลิต คุณภาพผลิตภัณฑ์ สถานะอุปกรณ์ สภาพแวดล้อมโรงงานและพลังงานที่ใช้ไปในการผลิต ผลที่ได้รับ คือ ภาพจากแดชบอร์ดจะช่วยให้สามารถตรวจจับอุปกรณ์ที่ผิดพลาดได้โดยเร็ว ทำให้ผู้จัดการโรงงานสามารถระบุปัญหาและแก้ไขปรับปรุงได้ทันท่วงทีสนับสนุนการดำเนินงานในโรงงาน ไปพรร้อมๆ กับการดูแล
สิ่งแวดล้อมหลังจากการใช้โซลูชั่นใหม่ของฟูจิตสึ ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการก็ดีขึ้นอย่างมาก การวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานพบว่าผลผลิตเพิ่มขึ้น 25% และสามารถลดเวลาการผลิตลงถึง 50% นอกจากนี้ โซลูชั่นจะรีเฟรชข้อมูลการจัดการพลังงานทุกๆ 45 วินาที ซึ่งจะกระตุ้นให้พนักงานมีความด้วยประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม โครงการโรงงานอัจฉริยะของ INESA จึงได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัล 'Smart Manufacturing Pilot Demonstration Project ปี 2016' และได้เป็นหนึ่งในโรงงานไม่กี่แห่งที่ได้รับการยกย่องว่ามีแนวคิด ระบบการผลิตอัจฉริยะภาพ
"หน้าจอแดชบอร์ดแอพพลิเคชั่นอัจฉริยะของฟูจิตสึ (Fujitsu Enterprise Application Intelligent Dashboard) จะแสดงสถานะของสายการผลิตในแบบเรียลไทม์ในทุกๆ 10 นาที" Wei Fengrong กล่าว "นอกจากนี้ ข้อมูลยังมีข้อเสนอแนะสำคัญที่จะช่วยการทำงานของผู้จัดการ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการการผลิต คุณภาพและอัตราปริมาณของเสียระหว่างการผลิต การใช้พลังงานและสถานะอุปกรณ์อีกด้วย"
"ระบบ FUJITSU Enterprise Application Intelligent Dashboard มีความรวดเร็วในการตอบสนองต่อปัญหาด้าน อุปกรณ์" Wei Fengrong กล่าว "กระบวนการนี้จะช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนี้ระบบยังมีฟังก์ชั่นย้อนหลังซึ่งสามารถย้อนดูเหตุการณ์ที่ผู้จัดการไม่ได้ สังเกตก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่าคุณลักษณะนี้ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบสาเหตุของปัญหาและป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต" รองผู้จัดการทั่วไป Li Xiaojun สรุปว่า "ในฐานะผู้ให้บริการของโซลูชั่น Smart City แบบครบวงจร บริษัท INESA ตอบสนองต่อการเรียกร้องระดับชาติในการสร้างและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของเรา ด้วยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ขอขอบคุณประสบการณ์อันยาวนาน และความเชี่ยวชาญในด้าน ICT และด้านการผลิตของฟูจิตสึ ที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการใช้ระบบการผลิตอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี loT และ Big Data ในอนาคตเราจะยังคงทำงานร่วมกับฟูจิตสึต่อไป เพื่อรักษาความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันอย่างสูงเช่นนี้"