กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--ไทยประกันชีวิต
นายสวัสดิ์ นฤวรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Life Operation Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มพ่อแม่ พบว่ามีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลูกเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายหรือโรคอุบัติใหม่ ประกอบกับแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลค่อนข้างสูง ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงได้พัฒนาแบบประกัน "ไทยประกันชีวิต เพื่อลูกสุดรัก" หรือธนทวี 22/7 แบบประกันสำหรับเด็กรูปแบบใหม่ ที่นอกจากจะให้สิทธิประโยชน์ความคุ้มครองที่แตกต่างแล้ว ยังครอบคลุมทุกความต้องการของพ่อแม่ในการดูแลลูกอีกด้วย
แบบประกัน "ไทยประกันชีวิต เพื่อลูกสุดรัก" ให้ความคุ้มครอง 5 โรคร้ายที่พบบ่อยในเด็ก ได้แก่ โรคมือเท้าปาก, โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ, โรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส, โรคอาหารเป็นพิษ และโรคบาดทะยัก กรณีนอนโรงพยาบาลจาก 5 โรคร้ายดังกล่าว จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดวันละ 4,000 บาท และให้ความคุ้มครองครอบคลุมกรณีนอนโรงพยาบาลจากโรคอื่นๆ รับเงินชดเชยสูงสุดวันละ 2,000 บาท รวมกันสูงสุดไม่เกิน 365 วัน ต่อการเข้ารักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง รวมถึงดูแลยามฉุกเฉิน เมื่อลูกประสบอุบัติเหตุ พ่อแม่ไม่ต้องสำรองจ่าย โดยมีวงเงินค่ารักษาให้สูงสุดครั้งละ 100,000 บาท ขณะเดียวกัน เบี้ยประกันที่ชำระไม่สูญเปล่า ตลอดสัญญาได้รับเงินคืน รวมสูงสุดถึง 700,000 บาท
"แบบประกันนี้ รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือนถึง 15 ปี เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงเดือนละ 900 กว่าบาท ระยะเวลาคุ้มครอง 22 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันเพียง 7 ปี เหมาะสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการแบบประกันที่คุ้มครองดูแลลูกรักอย่างครบรอบด้าน ซึ่ง "ไทยประกันชีวิต เพื่อลูกสุดรัก" ถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุด โดยบริษัทฯ จะขายผ่านช่องทาง Tele Sale หรือขายผ่านโทรศัพท์" นายสวัสดิ์กล่าว
นอกจากนี้ ผู้เอาประกันของบริษัทฯ ยังได้รับบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต ซึ่งเป็น Signature Service อาทิ ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง, ไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์ผู้เอาประกัน ที่พร้อมให้บริการข้อมูลตามเงื่อนไขกรมธรรม์ โทร.1124 และสิทธิพิเศษจากไทยไลฟ์การ์ด ด้วยการสะสมคะแนนเพื่อรับสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย เป็นต้น
และเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง รวมถึงสนับสนุนด้านการขาย บริษัทฯ จึงได้สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาในลักษณะ DRTV หรือ Direct Response TV ความยาว 120 วินาที โดยเผยแพร่ผ่านสื่อ Digital TV, Cable TV สื่อออนไลน์ สื่อในรถไฟฟ้า MRT และ BTS และสื่อ Out of Home อาทิ Billboard , VDO Wall ภายนอกอาคาร หรือในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น