กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 09 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,313.20-1,322.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 19,870 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.09 น. ของวันที่ 09/02/61)
แนวโน้มวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561
หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐถูกปิดทำการ หรือ Government Shutdown เป็นครั้งที่ 2 ภายใต้การดำรงตำแหน่งของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน หลังจากเผชิญภาวะดาวน์ครั้งแรกของปีนี้ไปเมื่อเดือนมกราคมเป็นระยะเวลา 3 วัน ล่าสุดการพิจารณางบประมาณชั่วคราวนั้นถูกเลื่อนออกไปจนเกิดภาวะดาวน์ในช่วงสั้นๆ หลังจาก นายแรนด์ พอล วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ได้คัดค้านการเพิ่มงบประมาณระยะเวลา 2 ปีเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเขามองว่าจะส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐขาดดุลงบประมาณมากขึ้น อย่างไรก็ตามภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น วุฒิสภาสหรัฐก็สามารถอนุมัติร่างกฎหมายจัดสรรงบใช้จ่ายชั่วคราวแก่รัฐบาลไปจนถึงวันที่ 23 มี.ค.เพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลมีงบประมาณในการใช้จ่ายต่อไปในระยะสั้น อย่างไรก็ตามตลาดทองคำแทบไม่มีปฏิกิริยาเพราะเป็นไปตามคาดการณ์ ทั้งนี้งบประมาณรายจ่ายของสหรัฐผ่านนโยบายขาดดุลการคลังในปีนี้ ที่มีเพดานสูงบ่งชี้ให้เห็นถึงการขาดวินัยการคลัง ประกอบกับสหรัฐเองเผชิญกับปัญหาเพดานหนี้สาธารณะ จนรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงที่จะหมดเงินงบประมาณและเสี่ยงต่อการผิดชำระหนี้ในเดือนมี.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐได้ร้องขอให้สภาคองเกรสสหรัฐขยายเพดานหนี้ของรัฐบาลภายในช่วงสิ้นเดือนก.พ.นี้ ความกังวลดังกล่าว ส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำ แต่ในระยะสั้นราคาทองคำถูกกดดันจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปรับเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 2.885% หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ระบุว่าอาจจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดหมายเอาไว้ ได้ลดความน่าสนใจในการลงทุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย ทั้งนี้ ในระยะสั้น ประเมินว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มจะแกว่งตัวออกด้านข้างในทิศทางอ่อนตัวลง แม้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านในโซน 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่อาจต้องจับตาความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทประกอบ เนื่องจากส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในประเทศเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับแรกไว้ที่ 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,306 (19,600บาท) 1,300 (19,500บาท) 1,291 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,328 (19,950บาท) 1,337 (20,100บาท) 1,346 (20,250บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,306 (19,730บาท) 1,300 (19,640บาท) 1,291 (19,510บาท)
แนวต้าน 1,328 (20,070บาท) 1,337 (20,210บาท) 1,346 (20,340บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999