กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--นานมี
กลุ่มบริษัท นานมี ร่วมกับ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จัดกิจกรรมในโครงการ"เสริมสร้างการเรียนรู้กับนานมี" เพื่อเสริมองค์ความรู้ด้านศิลปะและสร้างประสบการณ์ตรง เปิดมุมมองใหม่ๆเพื่อพัฒนาและต่อยอดในทักษะด้านศิลปะแก่เยาวชนไทย โดยมีน้องๆชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 100 คนเข้าร่วมกิจกรรม
นาง ปรีญาณี สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทนานมี เล่าว่า โครงการนี้นานมีมุ่งหวังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านศิลปะ ซึ่งไม่จำเพาะว่าต้องมาเรียนรู้ที่บริษัทเท่านั้น แต่เราได้จัดกิจกรรมสัญจรออกไปยังชุมชนต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้โรงเรียน สถานศึกษา มูลนิธิที่มีเด็กๆสนใจอยากเรียนศิลปะเพิ่มเติม ทางนานมีพร้อมเป็นสื่อกลางในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านศิลปะ ซึ่งเรามีคณาจารย์ ศิลปิน และครูศิลปะจำนวนมากที่มาร่วมสลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปให้ความรู้แก่เด็กๆ โดยในวันนี้มาจากสมาคมครูประถมศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูศิลปะที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ยังมีใจรักที่จะถ่ายทอดเทคนิคใหม่ๆ ทำให้น้องๆกรุงเทพคริสเตียนได้รู้จักศิลปะในมุมมองที่กว้างไกล ซึ่งแปลกแตกต่างไปจากที่เคยเรียนในห้องเรียน เป็นการเติมเต็มให้กับคนสองวัยที่แม้จะมีโลกที่ต่างกัน แต่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและจินตนาการซึ่งกันและกัน
ด้าน น.ส.วราลักษณ์ ไชยรัตน์ หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ประถมศึกษา โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กล่าวว่า นอกจากโรงเรียนจะเน้นหนักเสริมสร้างความรู้ในเชิงวิชาการแก่เด็กๆแล้ว โรงเรียนมองเห็นว่าควรเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้โลกกว้างผ่านสังคมการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านศิลปะ ซึ่งการที่มีวิทยากรจากภายนอกเข้ามา ทำให้สร้างสีสันและกระตุ้นให้เด็กเกิดความตื่นเต้น และสร้างสิ่งแวดล้อมใหม่ๆทำให้เด็กเกิดความสนใจเป็นพิเศษ สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วและเกิดไอเดียใหม่ๆที่สามารถนำไปบูรณาการทางวิชาการกับวิชาการแขนงอื่นๆต่อไป
ด.ช. กฤตย์ วิจักชน อายุ 11 ปี บอกว่า "ผมรู้สึกรักวิชาศิลปะมากขึ้น คุณครูสอนให้ใช้สีหลายแบบ และยังใช้พู่กันหรือมือเราเองในการแต้มสีก็ได้ ผมระบายท้องฟ้าซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสีฟ้าเพราะผมนึกถึงตอนเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตกท้องฟ้าจะมีสีเหลืองทองอร่ามจึงลองลงสีเป็นสีเหลิองเข้ม ส่วนต้นไม้ผมร่างโครงต้นด้วยสีชอล์คก่อน เมื่อได้โครงต้นแล้วก็ใช้หัวแม่มือเราในการกดแต้มสีเป็นใบไม้ ตอนแรกผมก็งงแต่เมื่อลองทำก็ออกมาสวยดี ส่วนรั้วผมใช้สีชอล์ควาดทำให้ได้เส้นที่มีน้ำหนักเบาเข้มไม่เท่ากัน และผมภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้มากครับ"
ด้าน ด.ช.ธฤต ซิศวพลานนท์ น้องต้นกล้า อายุ 11 ปี เล่าว่า "วันนี้สนุกมากครับที่ได้ทำงานศิลปะในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน โดยใช้เทคนิคสีถึง 3 สี คือสีชอล์ค สีไม้ และสีอะครีลิค ซึ่งสีทั้งสามประเภทต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แล้วแต่ผู้ใช้ว่าจะนำมาสร้างสรรค์ชิ้นงานอย่างไร สำหรับผมวาดเป็นรูปต้นไม้ เพราะรู้สึกว่าต้นไม้เป็นเส้นสายพื้นฐานที่ไม่ยากเกินไป ผมเลือกใช้สีเขียวกับน้ำเงินเพราะให้ความรู้สึกว่าเย็นสบายและร่มรื่น ตัวใบไม้สามารถเลือกใช้สีเขียวหลายเฉดสีทำให้ต้นไม้ดูมีมิติขึ้น และสุดท้ายผมอยากให้มีสีสันจึงเติมผลสีแดงเล็กๆเข้าไปทำให้ดูน่ารักครับ"
ส่วนด.ช.อภิรพล แก้ววงษา หรือน้องเอิ๊ก อายุ 11 ขวบ บอกว่า "ผมเลือกวาดต้นไม้เพราะใกล้ตัวและทำให้คิดถึงตอนผมไปเที่ยวต่างจังหวัดกับครอบครัว คุณครูให้ผมลองนึกว่าต้นไม้ที่เคยเห็นมีรูปทรงอย่างไร ผมจำได้ว่าเคยเห็นต้นไม้ที่ใหญ่มากๆมีลำต้นและรากเยอะแยะ และมีกิ่งก้านใบที่หนาและมีลักษณะเป็นพุ่มซ้อนกันสองชั้น ผมจึงลองวาดออกมาซึ่งก็ชอบมากครับ มันทำให้ผมคิดถึงร่มเงาและความร่มเย็นของต้นไม้ ที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์มากๆครับ และทำให้ผมอยากกลับไปเที่ยวอีก"