กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--บลจ.กสิกรไทย
นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย มีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศจำนวน 7 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน (K-USA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน (K-EUROPE) และกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน ซิลเวอร์เอจ หุ้นทุน (K-EUSAGE) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 กองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 กองทุนเปิดเค อินเดีย หุ้นทุน (K-INDIA) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 กองทุนเปิดเค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ออพพอร์ทูนนิตี้ (K-GEMO) ในอัตรา 0.35 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 และกองทุนเปิดเค โกลบอล พร็อพเพอร์ตี้ หุ้นทุน (K-GPROP) ในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2561 โดยทั้ง 7กองทุนจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 31 มกราคม 2561 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 429 ล้านบาท
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานของกองทุน K-USA มีความโดดเด่นมากสามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้ทุกช่วงขณะ โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน ให้ผลตอบแทนที่ 16.43% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 13.55% และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนที่ 31.80% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 22.72% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 61) สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาสหรัฐฯ นับว่ามีการเติบโตที่ชัดเจน ทั้งภาคบริการ การลงทุน รวมถึงการจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้อัตราว่างงานปรับตัวลดลงเหลือเพียง 4.1% ต่ำสุดในรอบ 17 ปี อีกทั้งการปฏิรูปภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ยังเป็นตัวแปรที่สำคัญในการกระตุ้นภาคการลงทุน รวมทั้งศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ แต่สำหรับในมุมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวนจากความกังวลในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ส่งผลกดดันต่อหุ้นสหรัฐฯ และยังมีผลต่อเนื่องกับตลาดหุ้นในอีกหลายประเทศ
สำหรับผลการดำเนินงานกองทุน K-EUROPE และกองทุน K-EUSAGE โดยรวมนับว่ามีความโดดเด่น และให้ผลตอบแทนในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยผลการดำเนินงานของกองทุน K-EUROPE สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยผลดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน ให้ผลตอบแทนที่ 7.22% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 4.52% และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ให้ผลตอบแทนที่ 15.43% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 13.08%, (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 61)
สำหรับผลดำเนินงานของกองทุน K-EUSAGE โดยรวมแล้วยังคงให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก โดยผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 6 เดือน อยู่ที่ 5.68% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 5.48%, และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 14.83% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 12.20% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 61) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยยังมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นยุโรป เนื่องจากผลประกอบการโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มเติบโตจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคที่แข็งแกร่ง รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป มีนโยบายที่จะยังคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ยาวไปจนถึงเดือนกันยายน 2561 ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลดำเนินงานของกองทุน K-ASIA มีการปรับตัวขึ้นใกล้เคียงกับตลาดหุ้นเอเชียในภาพรวม โดยกองทุนมีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 10.06% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 16.37% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 27.27% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 31.61% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 61) ด้านผลการดำเนินงานของกองทุน K-INDIA ก็ให้ผลการดำเนินงานย้อนหลังเป็นที่น่าพอใจเช่นเดียวกกัน โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 10.17% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 8.96% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 32.15% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 33.60% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 61) สำหรับผลการดำเนินงานกองทุน K-GEMO ให้ผลตอบแทนในเกณฑ์ดี โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 15.98% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 16.56% ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1ปี อยู่ที่ 36.38% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 36.81% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 61) ด้านภาพรวมเศรษฐกิจเอเชียยังคงเติบโตด้วยแรงหนุนจากการปฏิรูปของภาครัฐบาลจากประเทศผู้นำอย่างจีน ในขณะที่ทางฝั่งอินเดียรัฐบาลยังคงมุ่งเน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจในระยะยาว ในส่วนของกองทุน K-GPROP มีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดี โดยกองทุนมีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 5.55% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 5.01% และผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 12.09% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 17.23% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 61)
ผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-USA กองทุน K-EUROPE กองทุน K-EUSAGE กองทุน K-ASIA กองทุน K-INDIA กองทุน K-GEMO และกองทุน K-GPROP สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 02673 3888
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายหน่วยลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
กองทุน รอบผลการดำเนินงาน อัตราเงินปันผล (บาท/หน่วย)
K-USA วันที่1พฤษภาคม2560ถึงวันที่31มกราคม2561 0.20
K-EUROPE วันที่1สิงหาคม2560ถึงวันที่31มกราคม2561 0.20
K-EUSAGE วันที่1สิงหาคม2560ถึงวันที่31มกราคม2561 0.20
K-ASIA วันที่1พฤศจิกายน2560ถึงวันที่31มกราคม2561 0.20
K-INDIA วันที่1กุมภาพันธ์2560ถึงวันที่31มกราคม2561 0.20
K-GEMO วันที่1พฤษภาคม2560ถึงวันที่31มกราคม2561 0.35
K-GPROP วันที่1สิงหาคม2560ถึงวันที่31มกราคม2561 0.25