กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เผยทำเลเตาปูน-บางซื่อจะถูกพลิกโฉมกลายเป็นสถานีศูนย์กลางระบบขนส่งมวลชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปีใน 2563 และเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อ MRT ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางซื่อและรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีเตาปูนในปลายปี 2560 ที่ผ่านมา เป็นตัวช่วยเพิ่มศักยภาพด้านทำเลที่อยู่อาศัยในบริเวณเตาปูน-บางซื่อเป็นอย่างมาก ผนวกกับแนวคิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน Transit Oriented Development (TOD) ครอบคลุมพื้นที่เชิงพาณิชย์กว่า 300 ไร่ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ดินรอบสถานีรถไฟในรูปแบบ Mixed-use Development โดยจะมีรถไฟฟ้าถึง 4 สายที่เชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อในอนาคต ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน นอกจากรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายแล้ว สถานีกลางบางซื่อยังเป็นสถานีต้นทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ระยะทาง 670 ก.ม และกรุงเทพฯ – หนองคาย ระยะทาง 615 ก.ม. อีกทั้งยังมีส่วนต่อขยาย Airport Rail Link 5 สถานีจากสถานีพญาไทเชื่อมต่อไปยังสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากมีการพัฒนาด้านขนส่งคมนาคมแล้วยังมีโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่นำมาซึ่งการพัฒนาโครงการพื้นฐานอื่นๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ การขยายช่องทางจราจร และการก่อสร้างถนนเพิ่มเติมในอนาคต และยังมีโครงการศูนย์การค้า "เกตเวย์ บางซื่อ" มูลค่าการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท มีพื้นที่รองรับร้านค้าปลีกกว่า 40,000 ตารางเมตร ห่างจากสถานีเตาปูนเพียง 650 เมตร คาดว่าจะเปิดให้บริการในปีนี้
สถานีกลางบางซื่อ (ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน) ยังจะถูกพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบ ( Smart City ) ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตัลต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มอบหมายให้กระทรวงและหน่วยงานภาครัฐอื่นๆทีเกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคเอกชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่สนใจเป็นหน่วยงานร่วมสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะต้นแบบ (Smart City) อันจะส่งผลด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในย่านเตาปูน-บางซื่อ นับตั้งแต่ปี 2552 ถึง ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 มีจำนวนอุปทานสะสมทั้งสิ้นประมาณ 30,200 หน่วย มีอัตราการขายสะสม 90 % ของจำนวนอุปทานสะสมรวม
ด้านราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรของโครงการเกรดเอ ที่เปิดตัวในย่านเตาปูน-บางซื่อ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 117,000 บาท ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยสูงสุดต่อตารางเมตรสูงถึง 134,000 บาท โดยทุกโครงการตั้งอยู่ในรัศมีไม่เกิน 300 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน โครงการพัฒนาย่านเตาปูน-บางซื่อเป็นโครงการที่เป็นทางเลือกของผู้ซื้อคอนโดพักอาศัยทดแทน โครงการเกรดเอในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงอย่างพหลโยธินตอนต้นถึงรัชโยธิน ที่มีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตร ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 162,000 บาทโดยประมาณ และราคาขายสูงสุดต่อตารางเมตรสูงถึง 218,000 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าโครงการที่อยู่ย่านเตาปูน-บางซื่อถึง 40%
ตลาดคอนโดมิเนียมย่านเตาปูน-บางซื่อจะได้รับอนิสงค์เชิงบวกจากการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ โครงการเมืองอัจฉริยะและโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์บริเวณโดยรอบสถานีขนส่ง (TOD) อย่างมากในอนาคต รวมถึงปัจจัยเกื้อหนุนในด้านคมนาคมแบบครบวงจร เชื่อมต่อกับสายรถไฟฟ้าหลายสาย เดินทางเข้าสู่กลางเมืองได้อย่างสะดวก แนวโน้มราคามีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากความต้องการคอนโดมิเนียมที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น
โครงการ "นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์" เป็นอีกโครงการที่โดดเด่นในย่านเตาปูน-บางซื่อ ซึ่งโครงการตกแต่งเป็นแบบ Fully Furnished ออกแบบตามแบบฉบับมาตราฐานจากญี่ปุ่น เฟอร์นิเจอร์เป็นแบบ GEO Fit+ design ซึ่งออกแบบเฉพาะ เพื่อให้ทุกตารางนิ้วภายในห้องเป็นประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในห้องได้ทั้ง Working Zone หรือ Relaxing Zone เพื่อให้ตรงความต้องการของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด (My Select Area) โครงการนี้จะเป็นคอนโดมิเนียมที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ที่สุดในศูนย์กลางความเจริญแห่งอนาคต ด้วยราคาพรีเซลเริ่มต้น 3.2 ล้านบาทเท่านั้น พร้อมลงทะเบียนรับส่วนลดทันที 200,000 บาท ภายในงานพรีเซลวันที่ 10 มีนาคมนี้ที่ โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์