กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--เสนา ดีเวลลอปเม้นท์
เสนา – ฮันคิว จับมือลุยเปิดคอนโดใหม่ "นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์" ตอกย้ำความสำเร็จ ชูไฮไลท์ "ส่วนกลาง 30 ชั้น" เขย่าวงการอสังหาฯครั้งแรกในไทย ล่าสุด เตรียมจัด Pre sale 10 มี.ค.นี้ ด้านไนท์แฟรงค์ฯ เผยย่านเตาปูน-บางซื่อ พื้นที่ศักยภาพแห่งใหม่ที่น่าจับตามอง
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวว่าบริษัท เสนา- ฮันคิว 1 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SENA กับบริษัท ฮันคิว เรียลตี้จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในญี่ปุ่น หนึ่งในกลุ่ม บริษัท Hankyu Hanshin Holding Group หลังจากพัฒนาโครงการร่วมกันโปรเจกต์แรก "นิช โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง" เมื่อปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าได้รับกระแสการตอบรับดีมากจากตลาดกลุ่มเป้าหมาย ส่วนหนึ่งเกิดจากนวัตกรรมจากญี่ปุ่นที่นำมาใช้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Geo fit+" ลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นและเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่นำนวัตกรรมดังกล่าวเข้ามาใช้ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จ ล่าสุด เตรียมเปิดโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ "นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์" ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่เศษ ติดรถไฟฟ้าสถานีเตาปูน ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับสูง 38 ชั้น 1 อาคาร ทั้งหมด 742 ยูนิต พร้อมอาคารพาณิชย์ สูง 2 ชั้น 1 อาคาร โดยมีให้เลือก 3 แบบ คือ แบบ 1 Bedroom ขนาด 28 -32 ตารางเมตร ,แบบ 1 bedroom plus ขนาด 34.50 ตารางเมตร และ แบบ 2 Bedroom ขนาด 49 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 3.2 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตกตารางเมตรละ 1.3 แสนบาท รวมมูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท
ด้านการออกแบบที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ลงตัว ภายใต้แนวคิดการออก "My Select" นวัตกรรมจากญี่ปุ่น ที่เลือกฟังก์ชั่นและปรับเปลี่ยนได้ ไม่ว่าจะเป็น Working Zone สาหรับคนที่ชอบพื้นที่ในการสร้างสรรค์งาน หรือ Relaxing Zone สาหรับคนที่ต้องการพักผ่อนจากความวุ่นวาย และพักอาศัยในห้องชุดเพื่อชาร์จพลัง
อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของสาธารณูปโภคในโครงการ และนับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาฯกับ "พื้นที่ส่วนกลางกว่า 30 ชั้น" ที่พร้อมให้คุณเลือกกิจกรรมกว่า 7 ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ ทั้ง Active & Passive ไม่ว่าจะเป็น Sky Fitness ห้องออกกำลังกายลอยฟ้าพร้อม Sky Garden ชมสวนสาธารณะพร้อมวิวเมือง, Sky Infinity Edge
Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือยาวเกือบ 50 เมตร, Sky Lounge, Mini-Theater, Co-Working Space, Kid Club, Yoga Room, Party Room & Recreation Game Room เป็นต้น
ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึง ทำเลเตาปูน-บางซื่อ จะถูกพลิกโฉมกลายเป็นสถานีศูนย์กลางระบบขนส่งมวลชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปีใน 2563 และเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อ MRT ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางซื่อและรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีเตาปูนในปลายปี 2560 ที่ผ่านมา เป็นตัวช่วยเพิ่มศักยภาพด้านทำเลที่อยู่อาศัยในบริเวณเตาปูน-บางซื่อเป็นอย่างมาก ผนวกกับแนวคิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน Transit Oriented Development (TOD) ครอบคลุมพื้นที่เชิงพาณิชย์กว่า 300 ไร่ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ดินรอบสถานีรถไฟในรูปแบบ Mixed-use Development โดยจะมีรถไฟฟ้าถึง 4 สายที่เชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อในอนาคต ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน นอกจากรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายแล้ว สถานีกลางบางซื่อยังเป็นสถานีต้นทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ระยะทาง 670 ก.ม. และกรุงเทพฯ – หนองคาย ระยะทาง 615 ก.ม. อีกทั้งยังมีส่วนต่อขยาย Airport Rail Link 5 สถานีจากสถานีพญาไทเชื่อมต่อไปยังสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากมีการพัฒนาด้านขนส่งคมนาคมแล้วยังมีโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่นำมาซึ่งการพัฒนาโครงการพื้นฐานอื่นๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ การขยายช่องทางจราจร และการก่อสร้างถนนเพิ่มเติมในอนาคต และยังมีโครงการศูนย์การค้า "เกตเวย์ บางซื่อ" มูลค่าการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท มีพื้นที่รองรับร้านค้าปลีกกว่า 40,000 ตารางเมตร ห่างจากสถานีเตาปูนเพียง 650 เมตร คาดว่าจะเปิดให้บริการในปีนี้
สถานีกลางบางซื่อ (ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน) ยังจะถูกพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบ ( Smart City ) ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตัลต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มอบหมายให้กระทรวงและหน่วยงานภาครัฐอื่นๆทีเกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคเอกชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่สนใจเป็นหน่วยงานร่วมสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะต้นแบบ (Smart City) อันจะส่งผลด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในย่านเตาปูน-บางซื่อ นับตั้งแต่ปี 2552 ถึง ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 มีจำนวนอุปทานสะสมทั้งสิ้นประมาณ 30,200 หน่วย มีอัตราการขายสะสม 90 % ของจำนวนอุปทานสะสมรวม
ด้านราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรของโครงการเกรดเอ ที่เปิดตัวในย่านเตาปูน-บางซื่อ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 117,000 บาท ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยสูงสุดต่อตารางเมตรสูงถึง 134,000 บาท โดยทุกโครงการตั้งอยู่ในรัศมีไม่เกิน 300 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน โครงการพัฒนาย่านเตาปูน-บางซื่อเป็นโครงการที่เป็นทางเลือกของผู้ซื้อคอนโดพักอาศัยทดแทน โครงการเกรดเอในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงอย่างพหลโยธินตอนต้นถึงรัชโยธิน ที่มีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตร ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 162,000 บาทโดยประมาณ และราคาขายสูงสุดต่อตารางเมตรสูงถึง 218,000 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าโครงการที่อยู่ย่านเตาปูน-บางซื่อถึง 40%
ตลาดคอนโดมิเนียมย่านเตาปูน-บางซื่อ จึงได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ โครงการเมืองอัจฉริยะและโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์บริเวณโดยรอบสถานีขนส่ง (TOD) อย่างมากในอนาคต รวมถึงปัจจัยเกื้อหนุนในด้านคมนาคมแบบครบวงจร เชื่อมต่อกับสายรถไฟฟ้าหลายสาย เดินทางเข้าสู่กลางเมืองได้อย่างสะดวก แนวโน้มราคามีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากความต้องการคอนโดมิเนียมที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น
สำหรับโครงการ "นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์" โครงการที่โดดเด่นในย่านเตาปูน-บางซื่อ ซึ่งโครงการตกแต่งเป็นแบบ Fully Furnished ออกแบบตามแบบฉบับมาตรฐานจากญี่ปุ่น เฟอร์นิเจอร์เป็นแบบ GEO Fit+ design ซึ่งออกแบบเฉพาะ เพื่อให้ทุกตารางนิ้วภายในห้องเป็นประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้สอยภายในห้องได้ทั้ง Working Zone หรือ Relaxing Zone เพื่อให้ตรงความต้องการของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด (My Select Area) โครงการนี้จะเป็นคอนโดมิเนียมที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ที่สุดในศูนย์กลางความเจริญแห่งอนาคต ด้วยราคาพรีเซลเริ่มต้น 3.2 ล้านบาทเท่านั้น พร้อมลงทะเบียนรับส่วนลดทันที 200,000 บาท ภายในงานพรีเซลวันที่ 10 มีนาคมนี้ ณ โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์