กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--โอเอซิส มีเดีย
อดีตที่ผ่านมา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังสมบูรณ์ มนุษย์ได้นำทรัพยากรมาใช้กันอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งพลังงาน แร่ธาตุ ป่าไม้ฯ โดยเฉพาะการนำไม้มาใช้เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ หรือเป็นโครงสร้างหลักในการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทั้งอาคารต่างๆ เช่น เสา คาน พื้น ผนัง ประตู หน้าต่าง และโครงหลังคา เป็นต้น กระทั่งทรัพยากรป่าไม้ลดลงตามปริมาณการนำไปใช้อย่างรวดเร็ว เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล, น้ำท่วม บรรยากาศร้อนขึ้นเป็นลำดับ เมื่อไม้มีจำนวนลดน้อยลง ความต้องการใช้มาก ทำให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
เหล็กจึงเป็นวัสดุที่ต้องนำมาทดแทนการใช้ไม้เกือบทั้งหมด ในยุคต่อมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้าง โดยเฉพาะในส่วนของโครงหลังคาอาคารบ้านเรือนได้นำเหล็กรูปพรรณมาเป็นส่วนประกอบ เพราะมีน้ำหนักเบา และราคาถูกกว่าไม้ จึงเป็นที่นิยมกันแพร่หลายในปัจจุบัน แต่ในการก่อสร้างยังพบว่าคงมีปัญหาในเรื่องของสนิม การเชื่อมเหล็กที่ไม่ได้คุณภาพ และอีกหลายๆ สาเหตุ ยากจะควบคุมคุณภาพได้ที่อาจมีผลกระทบต่อโครงสร้างอาคาร เช่น ขนาดความหนาและน้ำหนักเหล็กที่ไม่เต็ม การใช้สีทากันสนิมที่ไม่ได้คุณภาพ จึงได้มีการคิดค้นและวิวัฒนาการเหล็กที่นำมาใช้ให้สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้โดยสิ้นเชิง ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงทั้งด้านการผลิต ออกแบบ และการนำไปใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะ โครงหลังคา ซึ่งปัจจุบันได้มีวิวัฒนาการรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาแทนที่โครงหลังคาเหล็กในอนาคต
โครงหลังคาเหล็กสำเร็จรูปป้องกันสนิม
นวัตกรรมใหม่สำหรับที่อยู่อาศัยยุคใหม่
สำหรับโครงหลังคาที่กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศเราจะรู้จักกันดีในชื่อของ โครงหลังคาเหล็กกึ่งสำเร็จรูปป้องกันสนิม ซึ่งในปัจจุบันมีเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอยู่หลายแบรนด์ โดยคุณสมบัติหลักของโครงหลังคาประเภทนี้คือ น้ำหนักที่เบา ติดตั้งง่ายด้วยระบบน๊อต และสกรู แทนที่จะเป็นการเชื่อม ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการก่อสร้าง การออกแบบโดยระบบคอมพิวเตอร์ที่แม่นยำ ลดการสูญเสียของวัสดุ นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบให้สามารถเข้ากับสถาปัตยกรรมในทุก ๆ รูปแบบ สามารถลดเสาและคาน ทำให้การออกแบบสามารถทำได้หลากหลายมากขึ้น และที่สำคัญโครงหลังคาประเภทนี้ป้องกันการเกิดสนิมได้เป็นอย่างดี และยังมีความแข็งแรงทนทานเช่นเดียวกับโครงหลังคาเหล็กทั่วไป
ปัจจุบันโครงหลังคาประเภทนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการนำไปใช้กับโครงการบ้านจัดสรร บ้านพักตากอากาศ โรงงาน ขณะที่ในประเทศไทย ปัจจุบันโครงหลังคารูปแบบดังกล่าวยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เนื่องจากเพิ่งมีการเริ่มทำการตลาด ประกอบกับราคาของโครงหลังคาประเภทนี้ สูงกว่าโครงหลังคาเหล็กทั่วไป แต่หากคำนวณในเรื่องของความรวดเร็วในการติดตั้ง และสามารถลดความสิ้นเปลืองของวัสดุก่อสร้าง ถือได้ว่ามีความคุ้มค่าไม้น้อยเช่นกัน โดยโครงหลังคากึ่งสำเร็จรูปป้องกันสนิม กำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ โครงการบ้านพักตากอากาศชายทะเลที่มักจะมีปัญหาการเกิดสนิมของโครงหลังคาเหล็ก รวมถึงโครงการจัดสรรบางโครงการ ที่เริ่มหันมาใช้กันมากขึ้น
คาดอนาคตได้รับความนิยมสูง
นายวาที ดาราเรือง ผู้จัดการฝ่ายวัสดุ และกันซึม บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ และเป็นตัวแทนจำหน่ายโครงหลังคาเหล็กกึ่งสำเร็จรูปป้องกันสนิม แบรนด์ Easy Truss เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดวัสดุก่อสร้างได้หันมานำวัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มาทดแทนวัสดุแบบเดิม ในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ โดยการเปรียบเทียบคุณสมบัติอย่างดีแล้ว อย่างโครงหลังคาเหล็ก ซึ่งเดิมใช้เหล็กดำ ติดตั้งประกอบโดยการเชื่อมแล้วทาสีกันสนิม วงการก่อสร้างปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนและนิยมมากขึ้น ในการนำโครงหลังคาเหล็กป้องกันสนิม ที่ถือได้ว่าเป็นวัสดุนวัตกรรมใหม่อีกผลิตภัณฑ์หนึ่ง ที่แพร่หลาย สำหรับบ้านพักอาศัย โครงการบ้านจัดสรร โดยเฉพาะบริษัทรับสร้างบ้านที่มีชื่อเสียง มีแนวโน้มที่จะนำมาใช้ในการก่อสร้างมากขึ้นในอนาคต ซึ่งบริษัทผู้ผลิตเริ่มขยายกำลังการผลิต รวมถึงทีมงานให้บริการติดตั้ง รองรับการขยายตัวทางการตลาดที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น
ในส่วนของบริษัทฯเอง ปัจจุบันได้พยายามที่จะเปิดตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน และโครงการจัดสรรทั่วไป โดยเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีโครงการหลายแห่งเริ่มให้การยอมรับและหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ของ Easy Truss เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2550 น่าจะสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Easy Truss ได้ประมาณ 40 ล้านบาท
สำหรับการเป็นตัวแทนจำหน่ายโครงหลังคา อีซี่ ทรัส ถือเป็น 1 ใน 7 กลุ่มธุรกิจของ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด ซึ่งในปัจจุบันมีการแตกกลุ่มบริษัทออกเป็น 4 บริษัท ครอบคลุมการให้บริการใน 7 กลุ่มธุรกิจซึ่งประกอบไปด้วย ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด ซึ่งจะแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 4 กลุ่ม คือ การรับสร้างบ้านในระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป การรับสร้างบ้านในแบบดีไซน์พิเศษ ซึ่งมีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ธุรกิจการออกแบบและตกแต่งสวน และ ธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย โครงหลังคา อีซี่ ทรัส (Easy Truss) ซึ่งเป็นโครงหลังคาเหล็กกันสนิมรูปแบบใหม่ รวมถึงการเป็นผู้ชำนาญการ ของ บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด ในระบบกันซึม และสนามเทนนิส ผิวเชลล์ ฟลินท์โคท มาสติก บริษัท โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจ รับสร้างบ้านในระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท เน้นจับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางเป็นหลัก บริษัท โฟร์พัฒนา อินทีเรีย จำกัด ดำเนินธุรกิจการออกแบบและตกแต่งภายใน และ บริษัท โฟร์พัฒนา คัลเลอร์ไลน์ จำกัด ดำเนินธุรกิจทางด้านสื่อโฆษณา และ การพัฒนาเว็บไซต์
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด โทรศัพท์ 0-2937-4735
ศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม 081-423-4121 / ปิยะพร จำเนียร 081-561-1134 / ชัชวาล ตรีเนตร 081-626-3095
e-mail : saranyarat@oasismedia.co.th piyaporn@oasismedia.co.th /chatchaval@oasismedia.co.th