กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ความรู้ของคนเราล้วนเกิดจากการศึกษาค้นคว้า ติวเข้ม และฝึกฝนจนเกิดการเรียนรู้ในเรื่องนั่น ๆ ยิ่งโลกการแข่งขันอย่างในปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงรู้เท่านั้น แต่ต้องรู้อย่างเข้าใจและนำไปใช้ประโยชน์ เสริมคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมศักยภาพ เพิ่มเติมองค์ความรู้ให้แก่เยาวชน ได้จัดโครงการเมจิ เทนไซ มาอย่างต่อเนื่อง เข้าสู่ปีที่ 4 ด้วยหวังให้เด็กเยาวชนที่เกี่ยวข้องกับซีพีเมจิมีชีวิตที่ดีได้ ตามค่านิยมและความเชื่อของซีพีเมจิที่ว่า "ชีวิตดีมีได้ทุกวัน"
เมื่อวันที่ 4-5 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา ทางซีพีเมจิ ได้เปิดโครงการเมจิ เทนไซ จัดติวเข้มให้น้องสำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อสอบเข้ามัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยได้รับความสนใจจากนักเรียนทั่วประเทศกว่า 1,000 คนเข้าร่วม นางสาวชาลินี พูนลาภมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า โครงการเมจิ เทนไซ ริเริ่มขึ้นมาเนื่องมาจากค่านิยมและความเชื่อของซีพี เมจิที่ว่า "ชีวิตดีมีได้ทุกวัน"เพื่อมีส่วนร่วมที่ทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับซีพีเมจิมีชีวิตที่ดีได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน เพราะนอกจากเป็นกลุ่มที่ดื่มนม หรือบริโภคโยเกิร์ตของเมจิแล้ว ยังเป็นอนาคตของชาติ
"แน่นอนว่าเยาวชนจะมีชีวิตที่ดีได้สิ่งที่สำคัญมากที่สุด คือ ต้องมีการศึกษาที่ดี เราได้ริเริ่มโครงการเมจิ เทนไซ เพื่อจะจัดติวน้องสำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สอบเข้ามัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อเติมเต็มความรู้ เสริมความมั่นใจให้กับน้อง ๆ สามารถที่จะทำคะแนนสอบได้ดีและเข้าไปเรียนในระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนที่ตัวเองต้องการ เรียกว่าเป็นก้าวแรกที่จะเป็นการปูพื้นฐานให้เด็ก ๆ มีชีวิตที่ดีต่อไป"นางสาวชาลินี กล่าว
สำหรับ "เมจิ เทนไซ ปีที่ 4" นี้ มีความพิเศษมากขึ้น โดยนอกจากเป็นการให้กำลังใจน้อง ๆ ผ่านมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่ได้คะแนนสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ที่มาเรียนในโครงการเมจิ เทนไซ แล้วสามารถทำคะแนนสอบ O-Net ทั้ง 5 วิชาสูงสุดได้ 5 ลำดับแรก ซึ่งเป็นการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปีแล้ว ปีนี้ยังมี School Tour ไปยังโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้ความรู้ ติวเข้มน้องๆ พร้อมฟิต พิชิต O-Net และมีการจัดทำเว็บไซต์ของเมจิ เทนไซ (https://cpmeiji.com /meijitensai/) ซึ่งมีข้อมูลเนื้อหาความรู้ของทั้ง 5 วิชา รวมทั้งมีการเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ฝึกทำข้อสอบ Pre-Test เพื่อจะดูว่าตนเองมีความรู้ความสามารถในการทำข้อสอบมา กน้อยขนาดไหน ก่อนที่จะไปทำข้อสอบจริง รวมถึงมีการทำ Post-Test เพื่อทดสอบดูว่าหลังจากที่น้องได้เห็นจุดอ่อนแล้วไปทบทวนวิชาความรู้ สามารถทำคะแนนได้ดีหรือไม่
นางสาวชาลินี กล่าวต่อไปว่า ทุกปีน้อง ๆที่เข้าร่วมโครงการ ฯ สามารถทำคะแนน O-Net ได้ดีมาก มีน้องที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกในโครงการของเรา ได้คะแนนประมาณ 460 กว่าคะแนนขึ้นไปจากคะแนนเต็ม 500 คะแนน โครงการดังกล่าวจึงเป็นความภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการอุดช่องว่างการพัฒนาเด็กให้สามารถทำคะแนนโอเน็ตให้ดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาคะแนนสอบ O-Net ของเด็กไทยไม่ค่อยสูง การที่มาเข้าโครงการ 2 วันจะทำให้น้องๆ ได้รับเคล็ดลับ เทคนิค วิธีการคิด วิธีการจำสูตรต่างๆ เพื่อสามารถการสอบ O-Net และสอบเข้าชั้นมัธยมศึกษาให้ได้ อย่างไรก็ตาม อยากให้น้องๆ ทุกคนตั้งใจและทำข้อสอบให้เต็มที่ แต่ก็ไม่อยากให้เครียด เพราะไม่ใช่ทุกคนต้องไปเรียนโรงเรียนดัง แต่ควรเลือกโรงเรียนที่เหมาะกับตัวเองที่เรียนแล้วจะมีความสุข ถ้าเกิดเรียนอย่างมีความสุขก็จะทำได้ดี
โครงการเหล่านี้ไม่ใช่โครงการที่จะทำครั้งเดียวแล้วจบแต่เป็นการสร้างความยั่งยืนและสร้างความต่อเนื่อง และทุกปีจะมีการวิเคราะห์ว่าโครงการต้องเพิ่มเติม ปรับปรุงอย่างไร ดังนั้น ในปีที่ 5 ก็จะมีการสานต่อโครงการดังกล่าว และจะทำให้ดี มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์กับน้องๆ และผู้ปกครองมากขึ้น
โครงการ "เมจิ เทนไซ รุ่น 4" ในปีนี้ มี 6 ติวเตอร์ชื่อดังยกขบวนมาร่วมกันติวเข้มให้กับน้อง ๆ หลายท่าน นำโดย ครูลิลลี่ กิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ ในวิชาภาษาไทย, อ.ชัย ลาภเพิ่มทวี ในวิชาสังคมศึกษา, พี่ซุปเค ศุภฤกษ์ สกุลชัยพรเลิศ ในวิชาคณิตศาสตร์, ครูพี่กิ๊ฟท์ แพรพรรณ แน่นอน ในวิชาภาษาอังกฤษ, ครูพี่บิ๊ก ดร.ณัฐชัย เก่งพิพัฒน์ และครูพี่ไผ่ เดือนเพ็ญ ฉายทองดี ในวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งทุกท่านได้แนะนำเทคนิคเคล็ดลับในการเรียนของแต่ละวิชา ในบรรยากาศการเรียนการสอนที่สนุกสนานครื้นเครงและมีชีวิตชีวาทำให้น้องๆ สนุกกับการติว 5 วิชาหลักและจดจำได้แม่นขึ้น
ครูลิลลี่ -กิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ ติวเตอร์วิชาภาษาไทย กล่าวว่า เคล็ดลับการอ่านหนังสือวิชาภาษาไทยให้เข้าใจง่ายๆ แนะนำว่าให้น้องลองทำข้อสอบเก่าๆ ของแต่ละที่แต่ละปีก่อนที่จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เพราะเราจะไม่รู้ว่าจะต้องอ่านอะไรก่อน หรือต้องเริ่มจากตรงไหน แต่หากลองเอาข้อสอบเก่า มาลองทำดูเพื่อให้รู้ว่า เราทำถูกหรือผิดกี่ข้อ แล้วข้อไหนเรื่องไหนที่ออกซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ค่อยอ่านเรื่องนั้นเจาะเรื่องนั้นไป นอกจากนี้การเรียนหนังสือให้เก่งไม่ใช่แค่การจดหรือฟังอย่างเดียวแต่จะนำกลับบ้านด้วยและต้องตอบให้ได้ เป็นการเช็คว่าเรารู้และเข้าใจจริง
ส่วนพี่ซุปเค -ศุภฤกษ์ สกุลชัยพรเลิศ ติวเตอร์วิชาคณิตศาสตร์ กล่าวว่า การเรียนคณิตศาสตร์ควรต้องทำโจทย์ให้ได้เยอะที่สุด เพราะยิ่งทำมากจะยิ่งเก่งมากและความชำนาญจะยิ่ง แต่ก่อนจะทำข้อสอบเก่า ๆ น้องจะต้องมีความรู้ก่อน ซึ่งการเรียนคณิตศาสตร์ในวั นนี้จะมีการสอนมีทั้งเรื่องการพิสูจน์ ตลอดจนที่มาที่ไปเพื่อให้น้องเข้าใจและจำสูตรได้ ซึ่งพี่จะมีเทคนิคการสอนเป็นเพลงให้จำง่ายขึ้น สำหรับวิชาคณิตศาสตร์ของเด็กในวัยนี้ถือว่าเป็นช่วงที่สำคัญ เพราะหากพื้นฐานไม่ดีในชั้นประถมก็จะไม่ดีอย่างต่อเนื่องไปจนถึงชั้นมัธยม หากตั้งใจเรียนวิชานี้แน่นอนว่าจะเป็นตัวช่วยให้ได้เกรดและคะแนนที่สูงขึ้น
ด้านสองสาวน้อยชั้นป.6 จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟบางนา น้องมดตะนอย ด.ญ.ศศินันท์ นนท์ตรี และน้องพิม ด.ญ.ณัฐพิมล ฮกฮั่ว ช่วยกันเล่าว่า พวกเธอรู้จักโครงการดังกล่าว โดยมีพี่ๆ จากซีพีเมจิ ไปจัดกิจกรรม School Tour ที่โรงเรียน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีมาก เพราะมีการจัดติวภาษาอังกฤษที่สนุกมาก และได้ความรู้เพิ่มเติม รู้จุดอ่อนจุดแข็งของตนเอง จึงสนใจได้สมัครเข้าร่วมโครงการเมจิ เทนไซ ปีที่ 4 เป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ กำลังใจในการทำข้อสอบO-Net และสอบเข้าม.1 มากขึ้น
"โครงการดังกล่าว เป็นกิจกรรมที่ดีและเหมาะสมกับเด็กป. 6 มาก เพราะนอกจากเป็นการเตรียมพร้อมติวเข้มสอบโอเน็ตแล้ว ยังช่วยสานฝันในการเข้าเรียนม.1 อีกด้วย อยากสอบเข้าม.1 โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ซึ่งมีการแข่งขันค่อนข้างสูง การเตรียมพร้อมที่ดี การติว 5 วิชาจากครูติวเตอร์ชั้นนำของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นครูลิลลี่ พี่ซุปเค อ.ชัย ครูพี่บิ๊ก ครูพี่ไผ่ และครูพี่กิ๊ฟท์ ครูทุกคนมีการสอนที่สนุก เทคนิคการจำ การทำข้อสอบ เมื่อพวกหนูได้เรียนอย่างสนุกทำให้เข้าใจบทเรียน และทำข้อสอบได้ดีขึ้น อยากให้มีการจัดแบบนี้ทุกปี เพราะการเรียนติวสำหรับเด็ก ป.6 มีความจำเป็นอย่างมาก เป็นการเตรียมความพร้อมทั้งด้านความรู้ และยังสร้างแรงบันดาลใจ ทักษะ เปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ต่างๆ มากมายที่เหมาะสมในการนำไปใช้สอบเข้าป. 1 เป็นการทบทวนความรู้ให้แก่เด็กได้เป็นอย่างดี" 2 สาวช่วยกันเล่า
ด้านคุณแม่กวาง นางปัทมาพร นนท์ตรี ของน้องมดตะนอย เล่าว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ให้ลูกมาร่วมโครงการเมจิ เทนไซ การติวเข้ม ทบทวนความรู้แก่เด็กป.6 ที่กำลังเตรียมตัวเข้าม.1 ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ดีมาก เพราะนอกจากจะเป็นการทบทวนบทเรียน ทำข้อสอบโอเน็ตแล้ว ยังทำให้เด็กๆ มีกำลังใจในการเรียน รู้สึกรักและชอบ 5 วิชามากขึ้น เนื่องจากเป็นการเรียนที่สนุกสนาน ได้ทั้งความรู้และความบันเทิง อีกทั้งเป็นการเปิดประสบการณ์การเรียนรู้แก่เด็ก ทำให้เขาค้นพบจุดอ่อนจุดแข็งแต่ละวิชา รู้ว่าตัวเองควรเพิ่มเติมอะไร ยังทำให้พ่อแม่ได้เห็นศักยภาพของลูก และช่วยเพิ่มเติมทักษะที่เขาขาด ดังนั้น โครงการเมจิ เทนไซ กิจกรรมที่ดี มีประโยชน์ต่อทั้งเด็กและผู้ปกครอง อยากให้จัดต่อไปเรื่อยๆ เพื่อโอกาสของเด็กทั้งในเมืองและต่างจังหวัด เนื่องจากโครงการนี้เปิดให้เด็กทุกคนเข้าร่วม ที่สำคัญการติวมีความจำเป็นสำหรับเด็กอย่างมาก
ขณะที่ 3 หนุ่ม ชั้นป. 6 จากโรงเรียนโชคชัยรังสิต น้องน้ำ ด.ช.พีรวิชญ์ ดำสนิท น้องกีตาร์ ด.ช.ธนกร ประชาชนะชัย และน้องภีม ด.ช.เอกณัฏฐ ณัฐศรัณย์ ช่วยกันเล่าว่ารู้จักโครงการดังกล่าวจากกิจกรรม School Tour ที่มาให้ความรู้ และจัดติวเข้มภาษาอังกฤษ ทำให้เราได้รู้ว่าตัวเองเก่งไม่เก่งอะไร ทำข้อสอบโอเน็ตภาษาอังกฤษได้หรือไม่ เมื่อพี่บอกว่าจะมีโครงการ เมจิ เทนไซ ติวฟรีสำหรับเด็กป. 6 เพื่อเข้าสู่ม.1 หรือสอบเข้าโรงเรียนอื่นๆ ก็สนใจ และบอกกับทางผู้ปกครอง มาสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ นอกจากนั้น ยังได้ทดลองทำ Pre test ทางเว็บไซต์ของเมจิ เทนไซ ใน 5 สาขาวิชา เป็นการทบทวนบทเรียน และเตรียมพร้อมก่อนมาติวอย่างไรบ้าง
"โรงเรียนของพวกเรามีถึงชั้นป. 6 ดังนั้น ตอนนี้ทุกคนกำลังเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าชั้นม.1 เมื่อมีหน่วยงานอย่าง ซีพีเมจิ จัดกิจกรรมติวฟรีให้น้องๆ อย่างพวกผมเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ต่อเด็กอย่างมาก เพราะบางคนอาจจะไม่ได้มีโอกาสไปเรียนติวที่ไหน อีกทั้งยังเป็นการทบทวนบทเรียน เพิ่มเติมความรู้ในแต่ละวิชา ช่วยทำให้เด็กค้นหาตัวเองเจอว่าอ่อนวิชาไหน บทเรียนไหน และได้เสริมในเรื่องเหล่านั้น รวมถึงการติวมีความแตกต่างจากการเรียนในชั้นเรียน เรียนสนุก เข้าใจมากกว่า เนื่องจากมีเทคนิค มีเกม มีวิธีการเรียนที่สนุก และมีความสุขในการเรียนรู้อย่างมาก อยากให้ทางซีพีเมจิ จัดโครงการเมจิ เทนไซ ทุกปี เพื่อเปิดโอกาสทางการเรียนรู้แก่เด็ก" 3 หนุ่มกล่าว
น้องน้ำ อยากสอบเข้าม. 1 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ขณะที่น้องกีตาร์และภีม อยากสอบเข้าม. 1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรังสิต ทั้ง3 หนุ่ม จึงชวนกันมาติวเข้มในโครงการ เมจิ เทนไซ เพื่อเดินตามความต้องการของตนเอง เพราะต่อให้ทางโรงเรียนมีการติวเข้ม สอนที่เข้มงวดอยู่แล้ว แต่การที่มีหน่วยงานภายนอกจัดกิจกรรมดีๆ แถมยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ยิ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจและเตรียมพร้อมพิชิตโอเน็ต และสอบเข้าม.1 ได้มากขึ้น
น้องน้ำ เล่าเสริมว่าเด็กอยากทั้งเรียนและเล่นไปพร้อมๆ กัน ซึ่งกิจกรรมติวเข้มเข้าม.1 ของทางโครงการเมจิ เทนไซ ไม่ว่าจะเป็น School Tour หรือเปิดเว็บไซต์ ฝึกทำข้อสอบ Pre test ค้นหาจุดอ่อน Learning แก้ไขจุดอ่อน และPost test วิเคราะห์จุดอ่อน เป็นการทบทวนและเตรียมพร้อมความรู้แก่ตนเอง ล้วนเป็นกิจกรรมที่เด็กๆ ต้องการ เพราะขณะนี้หากอยากเข้าโรงเรียนที่เราต้องการก็ต้องสอบแข่งขันให้ได้ เป็นความหวังของเด็ก และเมื่อได้มาเตรียมพร้อม ทบทวนความรู้ และเพิ่มเติมในสิ่งที่ตนเองไม่รู้ ไม่ถนัด จะทำให้ได้รู้จักตัวเอง ฝึกฝนในสิ่งที่ตัวเองอ่อน อีกทั้งยังเป็นการติวไม่ใช่อัดแน่นเฉพาะความรู้อย่างเดียว แต่ได้รับความสุข สนุกสนาน มีเกม และเนื้อหาสาระที่เหมาะสมกับเด็ก จึงอยากให้เพื่อนๆ น้องๆ ที่กำลังมองหากิจกรรมติวเข้ม เตรียมพร้อมสอบโอเน็ต หรือสอบเข้าม.1มาเรียนติว เข้าร่วมโครงการของซีพีเมจิ ที่ให้ทั้งการเรียนรู้และประสบการณ์ดีๆมากมาย
คุณแม่อัมพร ดำสนิท แม่ของน้องน้ำ คุณแม่วาสนา ประชาชนะชัย แม่ของน้องกีตาร์ และคุณพ่อวงศ์วิสุทธิ์ ณัฐศรัณย์ พ่อของน้องภีม ช่วยกันเล่าว่า โครงการดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ดีมาก ที่จะช่วยเติมเต็มความรู้ 5 วิชา แก่เด็ก ซึ่งเป็นวิชาที่เด็กต้องใช้สอบโอเน็ต เพิ่มเติมความรู้ในสิ่งที่เขาไม่รู้ และเตรียมพร้อมก่อนสอบเข้าม.1 เพราะต้องยอมรับว่าการเรียนในชั้นเรียนอย่างเดียวอาจไมพียงพอ ครูก็ต้องสอนตามหลักสูตร ถูกจำกัดด้วยการประเมินต่างๆ ดังนั้น เทคนิคการเรียนรู้ การฝึกทำโจทย์ การเตรียมพร้อมเหล่านี้ จำเป็นสำหรับเด็ก และการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน ทำให้พวกเขาสนใจและรักในการเรียนรู้มากขึ้น
"อยากให้ทางซีพีเมจิ จัดกิจกรรมติวเข้มให้แก่เด็กๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กทั่วประเทศได้เรียนกับติวเตอร์ชั้นนำ ที่นำเทคนิค การเรียนรู้ การทำข้อสอบโอเน็ต อีกทั้งอยากให้จัดทุกช่วงการสอบชั้นปี ไม่ว่าจะสอบเข้าม.1 ม.4 และสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะตอนนี้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เด็กต้องได้รับการเตรียมพร้อมทั้งด้านวิชาการ และทักษะด้านอื่นๆ อย่างครอบคลุม ดังนั้น หากซีพี เมจิ จัดกิจกรรมแบบนี้ต่อไปถือเป็นการช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ และช่วยลดภาระให้ผู้ปกครองในการหากิจกรรมติวให้แก่ลูก ซึ่งโครงการนี้ช่วยคัดสรรติวเตอร์ชั้นนำให้แก่ลูก และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้วย" เหล่าคุณแม่คุณพ่อ ช่วยกันอธิบาย
คลังความรู้ของเด็กรุ่นใหม่ ไม่ได้จำกัดเพียงในชั้นเรียน หรือในโรงเรียน โครงการ เมจิ เทนไซ ปีที่ 4 อีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยเสริมความรู้ ฝึกการทำโจทย์โอเน็ต 5 วิชา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศึกษา เตรียมพร้อมเข้าสู่เส้นชัยในการสอบเข้าม.1 และหากใครพลาดโอกาสครั้งนี้สามารถติดตามข่าวสาร หรือทบทวนบทเรียนค้นหาจุดอ่อน แก้ไขจุดอ่อน และวิเคราะห์จุดอ่อนของตนเองได้ทาง เว็บ https://cpmeiji.com/meijitensai/