กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,349.50-1,356.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,050 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,160 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 250 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,910 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น. ของวันที่ 15/02/61)
แนวโน้มวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากสุดเพียง 3 ครั้งในปีนี้ โดยการปรับขึ้นครั้งแรกอาจจะเกิดขึ้นในช่วงการประชุมนโยบายการเงินของเฟดครั้งถัดไปในเดือนมี.ค. แม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค CPI สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในเดือน ม.ค. แต่ดัชนีดอลลาร์อ่อนลงสู่จุดต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ จนดันราคาทองคำดีดตัวขึ้น นักลงทุนประเมินว่าดอลลาร์อาจจะอยู่ในช่วงของการอ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำเพิ่ม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่า การปรับเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค CPI เพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ในเดือนม.ค. เป็นการปรับตัวที่ไม่ยั่งยืน สอดคล้องกับ วาณิชธนกิจเจ พี มอร์แกน เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรก สู่ 2.5% จาก 3.0% เนื่องจากข้อมูลยอดค้าปลีกภายในประเทศ"ที่น่าผิดหวัง"ในเดือนม.ค. ได้หักล้างความแข็งแกร่งของรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค ขณะที่แบบจำลองคาดการณ์เศรษฐกิจ GDP Now ของ เฟดสาขาแอตแลนตา บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราเพียง 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรก ต่ำกว่าอัตราการขยายตัว 4.0% ที่คำนวณไว้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. หลังการเปิดเผยรายงานยอดค้าปลีกของรัฐบาลที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากแรงเทขายเงินดอลลาร์ ส่งผลกดดันราคาทองคำในประเทศให้ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างจำกัด ประกอบกับการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกิดใหม่อย่างภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้เงินบาทกลับมาอยู่ในทิศทางแข็งค่าอีกครั้งตามสกุลเงินภูมิภาค โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ยังคงเน้นการลงทุนระยะสั้น และทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ โดยบริเวณ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวต้านหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบน แต่หากไม่สามารถยืนได้ราคาก็มีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,346-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้น โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,346 หรือ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,366 หรือ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,346 (19,900บาท) 1,337 (19,750บาท) 1,326 (19,600บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,250บาท) 1,375 (20,350บาท) 1,384 (20,500บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,346 (20,020บาท) 1,337 (19,890บาท) 1,326 (19,730บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,330บาท) 1,375 (20,460บาท) 1,384 (20,590บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999