กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการแข่งขันวิ่ง "บุรีรัมย์ มาราธอน 2018 Presented by เครื่องดื่มตราช้าง" งานวิ่งมาตรฐานระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ชิงเงินรางวัลรวมมากกว่า 1,650,000 บาท ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ "YOUR ULTIMATE DESTINATION – สวรรค์ของนักวิ่ง" ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถระดับโลกที่เตรียมจัดการแข่งขันโมโตจีพี 2018 เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา
การแข่งขันครั้งนี้ยังคงได้รับความสนใจจากเหล่าบรรดานักวิ่งทั่วประเทศทั้งนักวิ่งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่พาเหรดกันมาร่วมแข่งขันรวมทั้งสิ้น 13,435 คน พร้อมด้วยนักวิ่งอีลิทระดับโลกที่ได้รับเชิญมาร่วมชิงชัยทั้ง ญี่ปุ่น เคนย่า เบลารุส รัสเซีย และจีน เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปตามมาตรฐานการรับรองจากสมาพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) ท่ามกลางชาวบ้านในจังหวัดที่ออกมาร่วมเชียร์และให้กำลังใจผู้เข้าแข่งขันทุกระยะ 500 เมตรตลอดเส้นทาง ไม่เว้นแม้แต่ นายเนวิน ชิดชอบ โต้โผใหญ่เจ้าของงานที่มารอต้อนรับนักวิ่งที่ผ่านเข้าเส้นชัยจนคนสุดท้ายด้วยตัวเอง จึงทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและสนุกสนาน นักวิ่งทุกคนได้รับความประทับใจกลับไปเต็มกระเป๋า
นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด กล่าวว่า "ขอขอบคุณ ทุกๆ ท่าน ที่มาเยือนจังหวัดบุรีรัมย์ และเข้าร่วมการแข่งขันบุรีรัมย์ มาราธอน ที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะสร้างมาราธอนมาตรฐานโลกให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งปีที่ 2 ของบุรีรัมย์ มาราธอน ผมกับทีมงาน ดีใจมากที่นักวิ่งให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันเต็มจำนวน 10,000 คน ภายในเวลา 2 วัน และมีเสียงเรียกร้องให้เพิ่มจำนวนนักวิ่งอีก ซึ่งในที่สุดเราก็ต้องขยายจำนวนรับอีก 3,000 คน รวมจำนวนนักวิ่งบุรีรัมย์ มาราธอน ปีที่ 2 นี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 13,435 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่น่าตื่นเต้นมาก"
นอกจากนี้ยังมีนักวิ่งหลายคนที่เลือกลงแข่งขันฟูลมาราธอนเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สนามแห่งนี้ รวมถึงมานักวิ่งอีกหลายรายที่ฝึกซ้อมมาอย่างเข้มข้นจนสามารถทำลายสถิติของตัวเองได้ในงานนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากทุกคนต่างไว้เนื้อเชื่อใจกับมาตรฐานการจัดงานที่ได้มาตรฐานทั้งด้านความปลอดภัย ด้านการเตรียมรับมือเหตุฉุกเฉิน ตลอดจนเส้นทางวิ่งที่แปลกใหม่ โดยนอกจากจะได้วิ่งบนแทร็กของสนามแข่งรถระดับ FIA เกรด 1 แล้วยังได้สัมผัสกับเส้นทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก อาทิ เขื่อนห้วยจรเข้มาก ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วย "นกกระเรียนไทยพันธุ์ไทย" สัตว์ป่าหายาก รวมถึงเส้นทางประวัติศาสตร์ผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวบุรีรัมย์อย่าง พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวัดกลางพระอารามหลวง เป็นต้น
"ขอแสดงความยินดีกับนักวิ่งทุกๆ ท่านที่เข้าสู่เส้นชัยบุรีรัมย์ มาราธอน และดีใจด้วยกับนักวิ่งที่สร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเอง ผมได้ทราบว่ามีนักวิ่งมาทำลายสถิติของตัวเองในบุรีรัมย์ มาราธอน ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าดีใจ ที่บุรีรัมย์ มาราธอน เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดสถิติใหม่ขึ้นมากมาย ผมได้สัมผัสมือกับผู้พิชิตมาราธอนครั้งแรกในชีวิต ได้เห็นดวงตาที่มีประกายความภูมิใจ ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เป็นสุดยอดของนักวิ่งที่สามารถพิชิตเป้าหมายของตัวเองได้ ที่น่าประทับใจที่สุดก็คือ หลายคนบอกผมว่า นี่เป็นการวิ่งมาราธอนครั้งแรกในชีวิต และเลือกที่จะมาบุรีรัมย์ มาราธอนในนามของคนบุรีรัมย์ ขอขอบคุณนักวิ่งทุกๆ ท่าน ที่มาร่วมกันสร้างบุรีรัมย์ มาราธอน ให้เป็นมาราธอนแห่งความสุข มาราธอนที่จะก้าวไปสู่มาราธอนระดับโลก" บิ๊กเน กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายเนวิน ยอมรับว่ายังมีบางเรื่องที่ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นอีก เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้คือการได้รับรองให้เป็นงานวิ่งมาตรฐานระดับ "บรอนซ์ เลเบิล" ภายใน 4 ปี โดยการแข่งขันครั้งต่อไปซึ่งนับเป็นปีที่ 3 ได้กำหนดวันไว้แล้วคือวันที่ 10 ก.พ.2562 "ยังมีบางเรื่องที่ต้องปรับปรุง เพื่อให้พวกเราไปถึงเป้าหมาย นั่นคือ การสร้างมาราธอนระดับโลกขึ้นในประเทศไทย อาจจะบางสิ่งบางอย่างที่เคร่งครัด เข้มงวดขึ้น ตามมาตรฐานของระดับโลก แต่สิ่งที่จะต้องอยู่คู่กับบุรีรัมย์ มาราธอน ก็คือ รอยยิ้ม และ ความสุขของนักวิ่งทุกๆ คน จะต้องเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี วันนี้ ผมขอขอบคุณคนบุรีรัมย์ทุกคน ที่ร่วมมือร่วมใจกันจัดบุรีรัมย์ มาราธอน ขึ้นมา เสียสละความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เพื่อความสุขของนักวิ่งมากกว่าหมื่นคน ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่พบเห็นได้ที่บุรีรัมย์ เท่านั้น ผมหวังว่านักวิ่งทุกท่าน จะมีความสุขกับการมาใช้ชีวิตที่บุรีรัมย์ และหวังว่าปีหน้า ท่านจะกลับมาบุรีรัมย์ อีกครั้ง ซึ่งคนบุรีรัมย์ จะร่วมกันจัดบุรีรัมย์ มาราธอน ให้เป็นมาราธอนในหัวใจของนักวิ่งทุกๆ คน ให้ได้"
เรียกได้ว่าเพียงแค่ 2 ปี ความยิ่งใหญ่ของ "บุรีรัมย์ มาราธอน" ก็ได้เข้าไปครองใจเหล่านักวิ่งทั่วประเทศแทบทุกคน และที่สำคัญที่สุดก็คือมาตรฐานการจัดงานที่ได้รับการใส่ใจและถูกพัฒนาศักยภาพให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า "บุรีรัมย์ มาราธอน" ในวันนี้คืองานวิ่งเบอร์ 1 ของประเทศอย่างแท้จริง และเชื่อว่าจะยังคงยิ่งใหญ่มากขึ้นไปเรื่อยๆ ในอนาคตแน่นอน โดยผู้ที่พลาดเข้าร่วมงานหรือผู้ที่สนใจจะลงสมัครครั้งต่อไปสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง www.burirammarathon.com และ www.facebook.com/bru.marathon แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าต้องรีบ เพราะงานนี้เขาลงสมัครและจองโรงแรมที่พักจนเต็มกันข้ามปีเลยทีเดียว
https://www.youtube.com/watch?v=4NL--7L5eK4&feature=youtu.be