กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพ ร่วมพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs อีกระดับขั้น มาครั้งนี้ใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายสาขาต่างประเทศประสานงานเข้าเยี่ยมชมธุรกิจ SMEs ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไต้หวัน หวังแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางธุรกิจ พร้อมศึกษาลู่ทางการส่งออก รองรับการแข่งขันในตลาดโลก เผยกลุ่มแรกประเดิมกรรมการและสมาชิกชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี ที่ธนาคารได้ร่วมบุกเบิกส่งเสริมและเป็นเพื่อนคู่คิดมากว่า 10 ปี
นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้อำนวยการลูกค้าธุรกิจรายกลางนครหลวง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยปัจจุบันการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจ SMEs เป็นไปด้วยความเข้มข้น ส่งผลให้ลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมต้องแสวงหาความรู้ มุมมอง ทัศนคติและวิธีคิดเหนือคู่แข่งขันเพื่อให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความสำคัญในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางรากฐาน ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาขีดความสามารถ ตลอดจนศักยภาพของลูกค้าผู้ประกอบการเหล่านี้ด้วยกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง และในครั้งนี้นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญอีกขั้นที่ธนาคารได้สร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบที่เหนือคู่แข่งขัน ด้วยการนำลูกค้าเดินทางไปทัศนศึกษา ดูงานและร่วมพบปะกับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ SMEs ณ ประเทศไต้หวัน
การเดินทางไปดูงานในประเทศไต้หวัน มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยในการเตรียมความพร้อมรับการแข่งขันในตลาดโลก ด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์และองค์ประกอบสู่ความสำเร็จของธุรกิจ SMEs ในประเทศไต้หวัน โดยลูกค้าของธนาคารกรุงเทพที่จะร่วมเดินทางไปทัศนศึกษาดูงานกลุ่มแรกระหว่างวันที่ 18-23 กันยายนนี้ จะเป็นกรรมการและสมาชิกของชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2546 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการซึ่งกันและกัน
นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกรุงเทพได้ใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายสาขาต่างประเทศที่กว้างขวางครอบคลุมเขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ซี่งการที่ธนาคารและชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอีเลือกไปดูงานที่ประเทศไต้หวัน หนึ่งในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเอสเอ็มอีอันดับ
ต้นๆ ของโลก โดยสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูงๆ ล้วนประกอบจากชิ้นส่วนที่ผลิตโดยกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีแทบทั้งสิ้น อีกทั้งเป็นประเทศที่มีโครงสร้างของภาคอุตสาหกรรมแบบเดียวกับของประเทศไทย ปัจจุบันธนาคารกรุงเทพมีสาขาอยู่ในประเทศไต้หวัน 3 แห่ง คือ สาขาไทเป สาขาเก้าเซี่ยงและสาขาไท้จุง เป็นผู้ประสานงานเข้าเยี่ยมชมโรงงานของผู้ประกอบการในประเทศไต้หวันที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงหลายแห่ง อาทิเช่น Small and Medium Enterprise Administration (SMEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงการเศรษฐกิจของไต้หวัน สมาคมผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Taiwan Electrical and Electronic Manufacturers’ Association: TEEMA) สมาคมเอสเอ็มอี (National Association of SMEs) และองค์กรที่ให้บริการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมโดยไม่หวังผลกำไร (Industrial Technology Research Institute) นับเป็นการเดินทางที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี
‘ที่ผ่านมาธนาคารกรุงเทพนับเป็นผู้ริเริ่ม และเล็งเห็นถึงความสำคัญกับภาคธุรกิจ SMEs นับแต่ปี 2542 ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตอบสนองความต้องการและสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ อีกทั้งการจัดกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ ในการส่งเสริมให้ธุรกิจ SMEs ในประเทศไทยสามารถพัฒนาและก้าวหน้าได้อย่างมั่นคง อีกทั้งยังเป็นผู้สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ในการก่อตั้งชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี ซึ่งนอกจากการสนับสนุนภาคเอกชนแล้ว ธนาคารกรุงเทพยังสนับสนุนภาครัฐในการส่งเสริมการลงทุน โดยได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ จัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากประเทศที่มีศักยภาพในภูมิภาคเอเชียเข้ามาลงทุนในประเทศไทย อีกทั้งยังแสวงหาช่องทางใหม่ๆ สำหรับนักธุรกิจไทยที่ต้องการขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย’ นายวีระศักดิ์ กล่าว
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
พร้อมพร เวชชาชีวะ (แตง) โทร. 0-2230-2709
ธนัชพร จารุวนากุล (กี๊ฟ) โทร. 0-2353-5348