กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เอาผิดอาญานายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย เป็นเหตุให้ ลูกจ้างถูกเครื่องจักรหนีบแขนขาด พร้อมแจงกรณีลูกจ้างติดใจเรื่องเงินช่วยเหลือจากนายจ้างสามารถใช้สิทธิทางศาลได้
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า กรณีลูกจ้างโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ้คส่วนตัว ขอความช่วยเหลือกรณีถูกเครื่องจักรหนีบแขนขาดว่า ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นทราบว่า ลูกจ้างดังกล่าวเป็นลูกจ้างปฏิบัติงานที่สถานประกอบกิจการแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เหตุเกิดขณะที่ลูกจ้างปฏิบัติงานอยู่ประจำเครื่องตียาง และยางกำลังไหลออกจากตัวเครื่อง ลูกจ้างได้ทำการปิดสวิทซ์ และล้วงมือเข้าดึงยางออกจากตัวเครื่อง แต่เครื่องยังมีความหน่วง จึงทำให้หนีบแขนข้างขวาของลูกจ้างขาดระดับข้อศอก หลังเกิดอุบัติเหตุนายจ้างได้ส่งลูกจ้างไปรักษาที่โรงพยาบาลปัจจุบันลูกจ้างอยู่ระหว่างพักรักษาตัว สำหรับการดำเนินการทางกฎหมาย กสร.ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษนายจ้างรายนี้กับพนักงานสอบสวนกรณีไม่แจ้งให้ลูกจ้างทราบถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทำงาน และไม่จัดทำข้อบังคับและคู่มือว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 และกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2552 ทั้งนี้ ความผิดดังกล่าว มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้นายจ้างยังไม่ได้เลิกจ้างลูกจ้างและจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างตามปกติ อย่างไรก็ตามหากมีการเลิกจ้างลูกจ้าง กสร.จะดำเนินการให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายในทันที ส่วนเรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือของนายจ้างเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน หากลูกจ้างเห็นว่านายจ้างละเลยก็สามารถใช้สิทธิทางศาลเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากนายจ้างได้