กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CIMBS เป็น 'AA-(tha)' จาก 'AA(tha)' และให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Rating Watch Negative)
พร้อมกันนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของสถาบันการเงินไทยที่เป็นบริษัทลูกของสถาบันการเงินต่างชาติ ดังนี้
- ธนาคารยูโอบี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOBT
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT
- บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET
และฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของบริษัท ซีไอเอ็มบี ไทย ออโต้ จำกัด หรือ CIMBT Auto (ซึ่งเดิมคือ บริษัท เซ็นเตอร์ ออโต้ ลีส จำกัด)
สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต- อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตภายในประเทศของ CIMBS พิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนจากบริษัทแม่ ซึ่งคือ CIMB Group ของประเทศมาเลเซีย การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ CIMBS สะท้อนถึงการที่ฟิทช์มองว่าโอกาสที่บริษัทแม่จะให้การสนับสนุนแก่ CIMBS มีการปรับตัวลดลง เนื่องจาก CIMB Group มีแผนการที่ชัดเจนที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นบริษัทในกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์ โดย CIMB Group ได้ประกาศที่จะขายหุ้นใน CIMB Securities International Pte Ltd. (หรือ CSI) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงของ CIMBS ในสัดส่วน 50% ให้แก่ China Galaxy International Holdings (หรือ CGIH) ฟิทช์เชื่อว่าแผนการลดสัดส่วนการถือหุ้นดังกล่าวจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อบทบาทและการผสานการดำเนินการ (integration) ของ CIMBS กับ CIMB Group ในระยะปานกลาง
พร้อมกันนี้ฟิทช์ยังให้เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับเครดิตภายในประเทศของ CIMBS เนื่องจากโอกาสที่ CIMB Group จะให้การสนับสนุนแก่ CIMBS อาจจะปรับตัวลดลงได้อีก หลังจากกระบวนการซื้อขายหุ้นดังกล่าวแล้วเสร็จ ฟิทช์เชื่อว่า CIMB Group มีแนวโน้มที่จะลดระดับของโอกาสที่จะให้การสนับสนุนแก่ CIMBS เนื่องจาก CIMB Group มีสิทธิที่จะขายหุ้นเพิ่มเติมได้อีก 25% ให้แก่ CGIH ตามที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าว
ฟิทช์จะทำการประเมินระดับการสนับสนุนที่ CIMBS จะได้รับจากบริษัทแม่ที่เป็นสถาบันการเงินรายใหม่ ซึ่งคือ CGIH แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าระดับของการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหม่ ไม่น่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับระดับการสนับสนุนเดิมที่ CIMB Group มีให้แก่ CIMBS ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่ฟิทช์อาจมองว่าระดับและโอกาสที่ผู้ถือหุ้นร่วมทั้ง 2 ราย จะให้การสนับสนุนแก่ CIMBS นั้น อาจไม่มีความชัดเจนพอ และการประเมินอันดับเครดิตของ CIMBS อาจจะต้องพิจารณาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวบริษัทเอง และในกรณีดังกล่าวอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CIMBS อาจถูกปรับลดอันดับลงได้อีก 3 อันดับหรือมากกว่า
ปัจจัยด้านการสนับสนุนจากธนาคารแม่เป็นปัจจัยพิจารณาหลักสำหรับอันดับเครดิตสากลและอันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT รวมทั้งอันดับเครดิตภายในประเทศของ CIMBT และ MBKET ฟิทช์เชื่อว่าสถาบันการเงินทั้ง 3 แห่งนี้จะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานปรกติ (extraordinary support) จากธนาคารแม่แต่ละแห่ง ซึ่งได้แก่ United Overseas Bank Limited (UOB, AA-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ), CIMB Bank Berhad (CIMB) และ Malayan Banking Berhad (Maybank, A-/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ทั้งนี้ธนาคารแม่มีการผสานการดำเนินงานกับบริษัทลูกในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดและเป็นถือหุ้นใหญ่ในบริษัทลูก อีกทั้งยังมีอำนาจควบคุมการบริหารงานในบริษัทลูกในประเทศไทยทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้ธนาคารแม่ยังให้สิทธิบริษัทลูกในการใช้ชื่อและสัญลักษณ์ทางการค้าร่วมกันกับธนาคารแม่ และธนาคารแม่ยังคงให้การสนับสนุนทั้งในด้านการเงินและการดำเนินงานแก่บริษัทลูก
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ UOBT ที่ 'A-' ถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย (Country Ceiling) ที่ 'A-'
อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันสกุลเงินบาทของ UOBT และ CIMBT อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศของแต่ละธนาคาร สะท้อนถึงการที่หุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันและมีสิทธิเทียบเท่า (pari passu) ภาระไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันอื่นของธนาคาร
การค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้ของ CIMBT เป็นปัจจัยสนับสนุนอันดับเครติดของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ CIMBT Auto ที่ 'AA(tha)' ทั้งนี้ CIMBT เป็นบริษัทแม่โดยตรงและมีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 99.99% ในCIMBT Auto
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) ของ UOBT มีปัจจัยหลักในการพิจารณามาจากการที่ธนาคารมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่ค่อนข้างเล็ก อีกทั้งธนาคารยังมีความสามารถในการทำกำไรที่ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์อื่นที่มีขนาดใหญ่กว่า อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT ยังสะท้อนถึงฐานะเงินกองทุนที่เหมาะสมกับอันดับเครดิต
ผลการดำเนินงานที่มีความสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสนับสนุนในด้านของการดำเนินงานตามปรกติจาก UOB (เช่นในด้านการบริหารงานและการตลาด)
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต – อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ฟิทช์ให้อันดับเครดิตภายในประเทศแก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 (Basel III-compliant Tier 2 subordinated unsecured notes) ของ UOBT ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT หนึ่งอันดับ เนื่องจากข้อกำหนดสิทธิโดยรวมของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวสอดคล้องกับข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทเดียวกันที่มีการออกเสนอขายแล้วก่อนหน้านี้ในประเทศไทย ซึ่งไม่มีคุณสมบัติในการรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption feature) และไม่มีการบังคับให้ตัดหนี้สูญทั้งจำนวน (mandatory full write-down)
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ MBKET อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิง (anchor rating) ซึ่งคือ 'AA+(tha)' อยู่ 1 อันดับ ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะมีลำดับสิทธิในการเรียกร้อง (priority of claims) ด้อยกว่าเจ้าหนี้บุริมสิทธิและเจ้าหนี้สามัญอื่นๆ ของบริษัท (senior creditors) ซึ่งอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวที่อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิง 1 อันดับเป็นการสะท้อนถึงการที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการและความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risks) ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีมากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
ฟิทช์คาดว่าจะสามารถยกเลิกเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบของ CIMBS ได้ภายใน 6 เดือนข้างหน้าเมื่อฟิทช์มีข้อมูลที่มีความชัดเจนมากขึ้นในด้านปัจจัยการสนับสนุนที่ CIMBS จะได้รับจากผู้ถือหุ้นที่เป็นสถาบันการเงิน อันดับเครติดของ CIMBS น่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างเครดิตของ CIMB Group และโอกาสที่ทางกลุ่มจะให้การสนับสนุนแก่ CIMBS อีกทั้งอันดับเครดิตภายในประเทศของ CIMBS อาจได้รับผลกระทบจากผลของการประเมินโอกาสที่ CGIH จะให้การสนับสนุนพิเศษนอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานปรกติแก่ CIMBS
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ UOB ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ UOBT ยกเว้นในกรณีที่อันดับเครดิตสากลของ UOB ถูกปรับลดอันดับลง 3 อันดับหรือมากกว่า เนื่องจากปัจจุบันอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ UOBT ถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย (Country Ceiling) ที่ 'A-' การเปลี่ยนแปลงของเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทยน่าจะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ UOBT อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตสนับสนุนของ UOBT เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่มีปัจจัยใดที่อาจทำให้อันดับเครดิตได้รับการปรับเพิ่มอันดับ
ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ CIMBT และ MBKET หากโครงสร้างเครดิตของธนาคารแม่แต่ละแห่งปรับตัวแย่ลงหรือหากธนาคารแม่ลดโอกาสในการให้การสนับสนุนเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานปรกติแก่บริษัทลูก ทั้งนี้การลดลงของโอกาสในการให้การสนับสนุนอาจจะแสดงได้จากการลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทลูกลงอย่างมาก หรือการลดลงของระดับการสนับสนุนทางการเงิน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่ได้คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT หรือ CIMBT จะส่งผลในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของแต่ละธนาคาร
อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันของ CIMBT Auto จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ CIMBT
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ UOBT หากธนาคารสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรให้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในขณะที่ยังคงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (risk appetite) และฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือการที่ธนาคารสามารถรักษาขนาดสินทรัพย์ให้มีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดเล็ก ในทางกลับกัน ฟิทช์อาจปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารหากความสามารถในการทำกำไร คุณภาพสินทรัพย์และฐานะเงินกองทุนปรับตัวแย่ลงอย่างมาก
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต – อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT น่าจะส่งผลในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ MBKET น่าจะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ
รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้:
UOBT:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'A-'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F2'
- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินคงอันดับที่ 'bb+'
- อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '1'
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
- อันดับเครดิตในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'AAA(tha)'
- อันดับเครดิตในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 คงอันดับที่ 'AA+ (tha)'
CIMBT:
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของโครงการหุ้นกู้ระยะสั้น คงอันดับที่ 'F1+(tha)'
CIMBS:
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ปรับลดอันดับเป็น 'AA-(tha)' จาก 'AA (tha)'; เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F1+(tha)'; เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ
MBKET:
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)'
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคงอันดับที่ 'AA(tha)'
CIMBT Auto:
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันคงอันดับที่ 'AA(tha) ; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ