กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--กระทรวงพลังงาน
กระทรวงพลังงาน เผยสถานการณ์ราคาน้ำมันปัจจุบันที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลปรับสูงขึ้น โดยกระทรวงพลังงานจะพิจารณาปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อบรรเทาผลกระทบ โดยขอดูสถานการณ์ในช่วง 2 วันนี้
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึง สถานการณ์ราคาน้ำมัน ในปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบดูไบ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เป็นระดับ 85.8 เหรียญสหรัฐ ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ ทั้งเบนซินและดีเซลปรับขึ้นมาในระดับประมาณ 5 เหรียญสหรัฐเช่นเดียวกัน โดยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 อยู่ที่ระดับประมาณ 98 เหรียญสหรัฐ น้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับประมาณ 105 เหรียญสหรัฐ
โดยสาเหตุของราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นมากในช่วงนี้ มีผลมาจากพายุพัดผ่านแหล่งผลิตน้ำมันของเม็กซิโก ทำให้ต้องหยุดการผลิต แต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้นๆ นอกจากนั้นยังมีการเก็งกำไรหุ้นพลังงานและราคาน้ำมันของนักเก็งกำไร เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงมาก และยังมีปัจจัยสถานการณ์ไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ทั้งอิรักและอิหร่าน แต่ยังมีปัจจัยบวกอยู่บ้าง คือ มีการคาดการณ์อยู่ว่าฤดูหนาวของสหรัฐจะอุ่นขึ้น และจะมีกำลังผลิตน้ำมันสำเร็จรูปจากโรงกลั่นในจีนและอินเดียเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันติดลบอยู่ประมาณ 50 สตางค์ และจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมากเมื่อวานนี้ จะต้องทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลปรับสูงขึ้นอีกประมาณ 1.20 บาทต่อลิตร โดยผู้ค้าน้ำมันยังตรึงราคาอยู่
ดังนั้น หากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังสูงเช่นนี้ต่อเนื่อง จึงมีความเป็นไปได้ที่กระทรวงพลังงานจะพิจารณาปรับลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน โดยจะรอดูราคาน้ำมันในช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ก่อน