กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,352.10-1,360.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG18 อยู่ที่ 20,200 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,150 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.29 น. ของวันที่ 16/02/61)
แนวโน้มวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561
ความกังวลต่อการปฏิรูปภาษีของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในระยะสั้น แต่อาจจะมีผลในเชิงลบในระยะกลาง โดยนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงความเห็นว่า การปฏิรูปภาษีจะหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้มีศักยภาพเต็มที่ ค่าแรงเพิ่มขึ้น แต่อาจจะมีเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตาม ขณะที่การดำเนินนโยบายขาดดุลของสหรัฐ หนี้สินภาครัฐก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ความกังวลดังกล่าว เพิ่มแรงกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าจนอยู่ใกล้จุดต่ำสุดรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวทรงตัวในระดับสูง ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาว่าสหรัฐจะใช้กลยุทธ์ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเพื่อสร้างความได้เปรียบหรือไม่ ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็เริ่มถอนนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามหลังจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่าน ส่งผลให้ราคาขยับขึ้นต่อค่อนข้างจำกัด ประกอบกับ ข้อมูลของรัฐบาลอินเดีย แสดงว่า การนำเข้าทองคำของอินเดีย ซึ่งเป็นผู้อุปโภคทองคำรายใหญ่ของโลกรองจากจีน ลดลง 22% ในเดือนม.ค. ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำบางเบาในช่วงที่ตลาดเงินตลาดทุนของจีนปิดทำการเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์นับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเนื่องในวันหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีน และตลาดเงินตลาดทุนส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปิดทำการในวันศุกร์นี้เนื่องในวันตรุษจีนเช่นกัน ราคาทองคำจึงเคลื่อนไหวไม่กว้างมากนัก ส่วนราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดัน จากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น แตะที่ระดับ 31.11 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในรอบกว่า 51 เดือน เป็นผลมาจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และนักลงทุนหันมาซื้อหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ราคาทองคำในวันจันทร์อาจเคลื่อนไหวในกรอบ เนื่องจากตลาดเงินตลาดทุนของสหรัฐปิดทำการในวัน Presidents' Day ขณะที่ปริมาณการซื้อขายทองคำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจไม่คึกคัก เนื่องจากตลาดเงินตลาดทุนในบางประเทศยังคงปิดทำการต่อเนื่องในช่วงเทศกาลตรุษจีน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำยังอยู่ในช่วงทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น แต่หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา หากราคาทองคำย่อตัวลงมา ประเมินแนวรับที่ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ในระยะสั้น แนะนำให้เล่นในกรอบ โดยรอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,346 (19,900บาท) 1,337 (19,750บาท) 1,326 (19,600บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,200บาท) 1,375 (20,350บาท) 1,384 (20,500บาท)
GOLD FUTURES (GFG18)
แนวรับ 1,346 (20,010บาท) 1,337 (19,880บาท) 1,326 (19,720บาท)
แนวต้าน 1,366 (20,320บาท) 1,375 (20,450บาท) 1,384 (20,580บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999