กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
บริษัท กรุงเทพ ไอแมกซ์ เธียเตอร์ จำกัด จับมือ ไอแมกซ์ คอร์ปอเรชั่น และ เอไอเอส ต่อยอดธุรกิจยุคดิจิตอล เปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของโลก "AIS IMAX VR" ให้คนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก ที่ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแห่งที่ 7 ของโลก เพื่อตอบโจทย์ยุคดิจิตอลซึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่ชื่นชอบและนิยมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทันสมัยสร้างความ Reality ตื่นเต้นเร้าใจอยู่เสมอ เทคโนโลยีเสมือนจริง Virtual (VR) จะมาตอบโจทย์ความต้องการด้วยจุดเด่นของเนื้อหา VR จากภาพยนตร์ที่ไม่มีใน VR ของที่อื่นๆ จะทำให้ลูกค้าเปิดประสบการณ์ใหม่ของการเล่นเกมส์ได้ครบทุกมิติแห่งการสัมผัส
วิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเป็นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนท์นั้นทำให้เราไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาและมุ่งมั่นที่จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ ของโลกภาพยนตร์เข้ามาสู่เมืองไทยให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์บันเทิงแปลกใหม่และทันสมัยอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ตั้งแต่โรงภาพยนตร์ที่ทันสมัยในระบบ IMAX จอยักษ์ ที่สุดแห่งภาพและเสียง, 4DX, Screen X, ระบบ Digital ของเสียงและภาพในระบบ Laser Projector และเร็ว ๆ นี้ พบกับ LED Cinema Screen ที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งเป็นความสมบูรณ์แบบด้านเทคโนโลยีที่จะมอบประสบการณ์พิเศษให้กับคนดูที่ล้ำ ทันสมัย คุ้มค่า เหมาะกับการชมภาพยนตร์ที่มีอรรถรสอย่างเต็มที่
ในปี 2018 ธุรกิจโรงภาพยนตร์และภาพยนตร์ทั่วโลกยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสกับหลายธุรกิจที่ชะลอตัวลง เห็นได้จากอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์และภาพยนตร์ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคดิจิตอล ล่าสุดได้ตัดสินใจร่วมทุนกับ ไอแมกซ์ คอร์ปอเรชั่น ในสัดส่วน 50 : 50 โดยนำเทคโนโลยีเสมือนจริง Virtual Reality (VR) มาต่อยอดธุรกิจ โรงภาพยนตร์ ภายใต้ชื่อ IMAX VR แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแห่งที่ 7 ของโลก หลังเปิดให้บริการมาแล้วใน 6 แห่ง คือ ลอสแองเจลิส, นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา 2 แห่ง, โตรอนโต ประเทศแคนาดา, อังกฤษ และเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่ดีอย่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เป็นเนมมิ่งสปอนเซอร์ให้ ภายใต้ชื่อ "AIS IMAX VR" พร้อมเปิดให้บริการที่ชั้น 5 โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีความแปลกใหม่ อาทิ กลุ่มลูกค้าวัยรุ่น, First Jobber, นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมไปถึงเหล่าเกมส์เมอร์ที่ถือเป็นตลาดใหม่ที่กำลังเติบโตและค่อนข้างน่าสนใจในตอนนี้ ทั้งนี้ เพื่อจะส่งมอบประสบการณ์แปลกใหม่ล้ำสมัยให้กับผู้เล่นเกมส์ในเมืองไทยกับยุคดิจิตอลให้ได้รับอรรถรสการเล่นเกมส์เสมือนจริงทุกด้าน คาดว่าจะทำให้เกิดปรากฎการณ์ใหม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการเล่นเกมส์ที่มีความตื่นเต้น ท้าทาย ไม่ซ้ำใคร
Virtual Reality (VR) มีการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีระดับพรีเมี่ยมและเนื้อหาระดับโลกที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นเห็น เคลื่อนย้าย และสนุก ไปกับโลกใบใหม่ได้อย่างเต็มอิ่มสมจริง เช่นเดียวกับโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์ที่มอบสิ่งที่ดีที่สุดและประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้ชมภาพยนตร์ ด้วยเทคโนโลยี VR ที่ก้าวล้ำ ด้วยแว่น VR จาก StarVR, HTC, Oculus และเทคโนโลยีจับการเคลื่อนไหวบนตัวผู้เล่น ผู้เล่นจะถูกส่งเข้าสู่โลกเสมือนจริง ที่สมจริงมากกว่าที่จะสามารถจินตนาการได้ ประกอบด้วย ห้อง 8 ห้อง ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมส์ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง และสามารถปรับให้เข้ากับประสบการณ์ของแต่ละเนื้อหา VR ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นเดี่ยว หรือผู้เล่นแบบทีม ส่วนห้องที่ 3 GloStation เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่พาคุณหลุดไปยังประสบการณ์นั้น ๆ โดยมีความสมจริงที่เหนือกว่าห้องอื่น ๆ และ ผู้เล่นยังเข้าเล่นได้ถึง 4 คน เพื่อรวมตัวเป็นทีม และต่อสู้ด้วยระบบที่ทำให้คุณได้ขยับร่างกายได้อย่างอิสระ สามารถเดินไปมากับเพื่อน ๆ ของคุณได้ในพื้นที่ที่กำหนดไว้
สำหรับเกมส์มีให้เลือกสนุกถึง 7 เกมส์ คือ John Wick Chronicles, Justice League, Space Flight : Orbital Emergency, Deadwood Mansion (GloStation), Raw Data, Life of Us และ Eagle Flight ระยะเวลาการเล่นแต่ละเกมส์อยู่ระหว่าง 7-30 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 250 บาทต่อคนต่อเกมส์ ยกเว้นเกมส์ Deadwood Mansion (GloStation) 650 บาทต่อคนต่อเกมส์
ผู้ถือบัตรสมาชิก M Generation จากราคา 250 บาทต่อคนต่อเกมส์ ลดเหลือ 200 บาท ถ้าถือบัตร M Generation Student ลดเหลือ 180 บาท
ผู้ถือบัตรสมาชิก M Generation จากราคา 650 บาทต่อคนต่อเกมส์ ลดเหลือ 600 บาท ถ้าถือบัตร M Generation Student ลดเหลือ 400 บาท
มร.จอห์น เอ็ม ชไรเนอร์ รองประธานอาวุโส ไอแมกซ์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า โรงภาพยนตร์ ไอแมกซ์ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับโลกว่า เป็นโรงภาพยนตร์ที่มีระบบการฉายภาพและเสียง ที่ดีที่สุดสมบูรณ์มากที่สุด โดยเฉพาะจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ยักษ์ที่สุด อย่างไรก็ตามในขณะนี้เทคโนโลยีโลกได้ปรับเปลี่ยนไปสู่เทคโนโลยีเสมือนจริง Virtual Reality (VR) ไอแมกซ์ก็ไม่หยุดนิ่งที่จะก้าวเข้าสู่ เจเนอเรชั่น วีอาร์ โดยไอแมกซ์ได้ต่อยอดธุรกิจโรงภาพยนตร์จอยักษ์สู่เทคโนโลยีเสมือนจริงที่สุดในโลก ในชื่อว่า IMAX VR
ทั้งนี้จุดเด่นของ IMAX VR อยู่ที่เนื้อหา VR มาจากภาพยนตร์ที่ทำขึ้นเพื่อ IMAX VR โดยเฉพาะ เช่น John Wick Chronicles, Justice League ในตอนนี้ และ Aqua Man, Star Trek ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในอนาคต ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ไม่มีใน VR ของค่ายอื่น และจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ซึ่งไอแมกซ์ได้ให้ความสำคัญกับเนื้อหา VR เป็นอย่างมาก และกำลังทำงานร่วมกับนักพัฒนาเนื้อหา VR หลายราย รวมถึงสตูดิโอและผู้เผยแพร่เกมส์ในฮอลลีวู้ด เพื่อผลิตและแจกจ่ายประสบการณ์ VR คุณภาพสูงไปยังศูนย์ VR ของตน สำหรับ AIS IMAX VR ที่ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ จะนำเสนอเนื้อหาคอนเทนต์แบบอินเตอร์แอคทีฟแบบใหม่ แต่ละประสบการณ์จะมีระยะเวลาการเล่นอยู่ระหว่าง 7-30 นาที
นอกจากนี้ IMAX ยังจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาเนื้อหา VR มูลค่าสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,650 ล้านบาท) ตั้งเป้าที่จะกระตุ้นอุตสาหกรรม VR ด้วยการพัฒนาเนื้อหา VR คุณภาพสูงมากถึง 25 เนื้อหา ภายใน 3 ปี ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีผู้ร่วมทุนจากวงการคอมพิวเตอร์อย่าง Acer ร่วมด้วย
ตลอดจน ยังมีโครงการพัฒนากล้องถ่ายภาพ 360 องศาด้วยคุณภาพเดียวกับภาพยนตร์ เพื่อการถ่ายทำภาพสำหรับ VR โดยโครงการนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาร่วมกับ Google และจะช่วยให้เนื้อหาในอนาคตของ IMAX VR ดูน่าสนใจและตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
ด้าน นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "AIS ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมแห่งโลกดิจิทัล ให้ความสำคัญกับทุกความเคลื่อนไหวทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกอยู่เสมอ ทั้งนี้ เพื่อนำมาเป็นปัจจัยในการพัฒนาบริการที่ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์แห่งเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างใกล้ชิด ตลอดจนยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการทำงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในฐานะผู้นำ AIS ยังมุ่งเน้นในการทำหน้าที่คัดสรรนวัตกรรมล้ำสมัยอันเป็นเทคโนโลยีระดับโลก มาให้คนไทยทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเติมเต็มจินตนาการและเปิดโลกทัศน์ให้คนไทยได้เข้าใจและเห็นถึงแนวทางพัฒนาเทคโนโลยีในระดับสากล รวมถึง ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้สามารถนำไปต่อยอดได้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น
และในครั้งนี้ AIS ได้ร่วมกับโรงภาพยนตร์ IMAX นำสุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งยุค ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสมือนจริงที่สมจริงที่สุดในโลกอย่าง "AIS IMAX VR" โดยมีอุปกรณ์แว่น VR ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยความคมชัด ทำให้มองภาพได้กว้างมากขึ้น และทำให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้นมาให้ชาวไทยในยุค Next Generation ได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษไปกับเกมส์เทคโนโลยีล้ำสมัยเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเกมส์ที่สนุกและตื่นเต้นหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึง การจำลองเนื้อหา VR จากภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อ AIS IMAX VR โดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มอรรถรสและสร้างมิติใหม่ของการเล่นเกมส์ในรูปแบบการเล่นที่สนุกมากยิ่งขึ้น เสมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในภารกิจเกมส์นั้นจริงๆ
โดยสามารถสัมผัสประสบการณ์สุดล้ำได้ที่ Paragon Cineplex ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน รวมถึงสมาชิก AIS D.C. ทดลองใช้บริการฟรี ได้ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรี่ยม
นอกจากนี้ เอไอเอส ยังได้ร่วมกับโรงภาพยนตร์ IMAX สนับสนุนและเฟ้นหาสตาร์ทอัพกลุ่มผู้ผลิต VR Content ในประเทศไทย โดยสามารถส่งผลงานคอนเทนต์ทั้งในรูปแบบ VR Gaming หรือ VR Experience เพื่อเข้าร่วมพิจารณาใน AIS The StartUp Monthly Pitching เป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้กลุ่มสตาร์ทอัพที่มีความสามารถในประเทศไทยได้พัฒนาและอัพเดทความรู้ใหม่ๆ ซึ่งหากคอนเทนต์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทาง IMAX VR ก็มีสิทธิ์รับทุน เพื่อนำคอนเทนต์ไปให้แฟนๆ ทั่วโลกได้สัมผัส ตลอดจนก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ระดับมืออาชีพในอนาคตได้อีกด้วย โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/thestartup
และพิเศษสำหรับลูกค้าเอไอสยังได้รับสิทธิพิเศษยิ่งกว่าใคร โดยช่วงแรก ตั้งแต่วันที่ 17 - 28 กุมภาพันธ์ 61 รับสิทธิซื้อบัตร 1 ใบ รับฟรีอีก 1 ใบ ทันที หลังจากนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 61 - 30 เมษายน 62 รับสิทธิพิเศษส่วนลดสูงสุดถึง 30% โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.ais.co.th/imaxvr"