กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
กพร. หนุน สปก.กระตุ้นเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เกินคาด 4 เดือน ปล่อยกู้กว่า 18 ล้านบาท ย้ำ! หมดโปร.ปลอดดอกเบี้ย 7 มิ.ย.นี้
นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557 มีแนวทางสำคัญในการพัฒนาฝีมือแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยส่งเสริมให้นายจ้างมีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะให้แก่พนักงานของตนเอง พร้อมทั้งจัดตั้งกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำชับเรื่องการส่งเสริมการฝึกอบรมเพิ่มทักษะภายใต้กองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นอีกหนึ่งกลไกประชารัฐที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ประกอบการ และอบรมแรงงานควบคู่กันไป นับเป็นอีกเครื่องมือในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า กองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ปล่อยเงินกู้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท ในการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเร่งฝึกอบรมให้กับพนักงาน ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมทักษะฝีมือ การทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ในปี 61 (ตค.60 -มค.61) คณะกรรมการส่งเสริมฯ อนุมัติให้สถานประกอบกิจการกู้แล้ว 18,340,050 บาท จำนวน 25 แห่ง นอกจากนี้ สถานประกอบกิจการที่มีการฝึกอบรมให้กับพนักงาน ยังสามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
สำหรับการยื่นเรื่องกู้ มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากใช้เวลาพิจารณาไม่นาน นำหลักฐานของสถานประกอบกิจการ พร้อมคำขอกู้ยืมเงินมายื่นที่สถาบัน และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่กองส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โทร. 0-2643-6039 หรือดาวน์โหลดเอกสาร ได้ที่ www.dsd.go.th/sdpaa โดยคุณสมบัติสำหรับผู้ทำสัญญากู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่มีสัญชาติไทย ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย และไม่เป็นลูกหนี้ของกองทุนฯ
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ทุกสถานประกอบกิจการมีการกู้เงินเพื่อการลงทุน แต่สิ่งสำคัญในการกู้เงิน เราจะต้องคำนึงถึงการพัฒนาองค์กรและพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่บุคลากรเป็นสำคัญ เงินกู้เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานนี้นอกจากจะช่วยเป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการพัฒนาพนักงานแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตอีกด้วย เช่น เมื่อพนักงานมีทักษะสูงขึ้น ทำงานได้เร็วขึ้น สามารถผลิตชิ้นงานได้มากขึ้น หรือสามารถลดปริมาณความสิ้นเปลืองด้านวัถุดิบ ชิ้นงานที่ผลิตมีคุณภาพและมีส่วนเสียน้อยลง เป็นต้น ซึ่งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเพียงศูนย์เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สำหรับผู้ที่ทำสัญญากู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2561 หลังจากนี้จะปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นสามเปอร์เซ็นต์ จึงขอเชิญชวนให้ยื่นกู้ยืมในช่วงเวลานี้เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว อธิบดี กพร. กล่าว
ด้านนางสาวนัทธิดา ปรางสุรางค์ เจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล บริษัทน้ำตาลอ้อยตะวันออก จำกัด จังหวัดสระแก้ว ดำเนินกิจการประเภทผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย และเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ที่เข้าร่วมโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้เล่าว่า โครงการนี้มีประโยชน์อย่างมากต่อสถานประกอบกิจการ เป็นการเปิดโอกาสให้มีเงินทุนเพื่อนำมาฝึกทักษะพนักงานให้มีมากขึ้น และมีโอกาสได้กู้ในช่วงไม่มีดอกเบี้ย และทำให้เข้าถึงประโยชน์ทางด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน จึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบกิจการรายอื่นๆ ที่ต้องการแหล่งเงินทุนในการพัฒนาฝีมือแรงงาน ดำเนินการกู้ยืมกับทาง กพร. ในช่วงเวลานี้ก่อนที่จะหมดโปรโมชั่น